Ericsson โชว์ศักยภาพผู้นำ 5G ระดับโลกในงาน MWC 2023 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

Ericsson โชว์ศักยภาพผู้นำ 5G ระดับโลกในงาน MWC 2023 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

Ericsson โชว์ศักยภาพผู้นำ 5G ระดับโลกในงาน MWC 2023 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

    • อีริคสันให้การต้อนรับคณะผู้บริหารของดีป้า ในงานจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก – Mobile World Congress 2023
    • อีริคสันมุ่งมั่นนำเทคโนโลยี 5G ล่าสุด พร้อมร่วมพัฒนาระบบนิเวศ 5G ในประเทศไทย
    • อีริคสันและดีป้าร่วมมือกันจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบเครือข่าย 5G และศูนย์บริการสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ

ความมุ่งมั่นของอีริคสันในการนำเสนอเทคโนโลยี 5G ล่าสุดมายังประเทศไทยและการร่วมพัฒนาระบบนิเวศ 5G ของประเทศ ได้ถูกนำมาสาธิตที่งานจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดและทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกอย่าง Mobile World Congress 2023

อีริคสันได้ต้อนรับคณะผู้บริหารของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ที่เดินทางมาเยี่ยมชมเทคโนโลยี 5G และศึกษากรณีการใช้งานเครือข่ายที่เป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทย ณ อีริคสัน ฮอลล์ ภายในงานระดับโลก ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

ระหว่างการเยี่ยมชม มร. อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ 5G ของอีริคสัน กับ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และทีมงาน โดยคณะผู้แทนจากดีป้าได้ให้ความสนใจและชมการสาธิตเทคโนโลยีของอีริคสันมากมาย อาทิ Future Technology Experience โซลูชันของ Cloud Gaming Connected Enterprise และ Enterprise Ecosystem

“5G สามารถเปิดโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดให้แก่ประเทศไทย ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวไปสู่ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้บริโภค และทำให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0” มร.อิกอร์ กล่าว

“เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับดีป้าเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ในระหว่างการหารือร่วมกันที่งาน Mobile World Congress เรายังได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านเครือข่ายที่ล้ำสมัย พร้อมมอบประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาสู่ประเทศไทย”

อีริคสัน ประเทศไทย และ ดีป้า ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยใช้เครือข่าย 5G ในประเทศไทย ส่วนหนึ่งในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ยังระบุว่า อีริคสันและดีป้าจะจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรมใน Thailand Digital Valley ของดีป้าในจังหวัดชลบุรี เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบเครือข่าย 5G และศูนย์บริการสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ การแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ในประเทศไทย

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลก ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายการให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 143 เครือข่าย ใน 62 ประเทศ พร้อมเครือข่าย 5G แบบ Standalone จำนวน 21 เครือข่ายทั่วโลก

Ericsson launches Networks solutions aimed at Net Zero emissions during MWC 2023

Ericsson launches Networks solutions aimed at Net Zero emissions during MWC 2023

Ericsson launches Networks solutions aimed at Net Zero emissions during MWC 2023

    •  A new range of 10 radios led by triple-band Radio 4485, which is 53 percent lighter than comparable products. Also launching new mobile transport and software solutions
    • Industry-first, 600MHz Massive MIMO radio with Ericsson-unique Interference Sensing software that adds up to 40 percent more capacity with portfolio-wide hardware support
    • Ericsson plans to offer AIR 6419 and Radio 4490 solutions in the Thai market to deliver the ultimate network efficiency for both consumers and enterprises.

Ericsson’s (NASDAQ: ERIC) leadership in supporting service providers’ Net Zero ambitions, while meeting market demands for higher 5G capacity and revenue growth, has taken a major step forward with the launch of an enhanced RAN and Transport portfolio at Mobile World Congress (MWC) 2023 in Barcelona, Spain.

 More than 10 new Ericsson solutions will cut carbon emissions and site footprint, increase energy performance, and boost network capacity. The full range of new remote radios for 4G and 5G capacity is led by the triple-band Radio 4485 for FDD (frequency-division duplexing), which is 53 percent lighter and consumes about 22 percent less energy than comparable products. New dual and single-band radios have also been launched.

 Ericsson has also introduced a new range of wideband Massive MIMO radios – spearheaded by the industry-first, ultra-wideband AIR 6476 – which provides 600MHz instantaneous bandwidth that doubles capacity without additional antenna footprint and enhances user experience.

 Software is in the spotlight as well with new features such as Interference Sensing, which optimizes mid-band Massive MIMO performance by minimizing inter-cell interference and increasing network capacity by up to 40 percent.

 The new solutions will be on show in Ericsson’s booth in Hall 2 at the Fira Gran Via during MWC Barcelona 2023 from February 27 to March 2. The portfolio additions will be commercially available during 2023 and Q1, 2024.

 In Thailand Ericsson will market its Massive MIMO, AIR 6419 B41 and Radio 4490 B1/B3 solutions to deliver the ultimate network efficiency for both consumers and enterprises.

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด

“With our strong global 5G presence and high-performance solutions, we are powering the network infrastructure in Thailand to deliver the best customer experience for consumers and become the best platform for key stakeholders in the enterprise segment to digitalize their business operations at a very competitive cost,” said Igor Maurell, Head of Ericsson Thailand.

Ericsson recently tested the latest generation product of Massive MIMO, AIR 6419 B41 solution on 2600-MHz spectrums and the result shows the product as delivering an excellent performance with less maintenance requirement due to its passive cooling system.

The company is also undergoing a testing of its Radio 4490 B1/B3 products on 2100- and 1800-MHz dual bands. The solution is the mainstream radio for high-density urban areas, consuming 25% less power and weighing 25% lower compared to the previous product. Radio 4490 also requires less maintenance with its passive cooling system. The testing is expected to be completed by the end of February 2023.

Find out more about the latest macro and mobile transport portfolio additions.

Ericsson เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายใหม่ในงาน MWC 2023 มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Ericsson เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายใหม่ในงาน MWC 2023 มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Ericsson เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายใหม่ในงาน MWC 2023 มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

    • ระบบวิทยุสื่อสารใหม่ 10 รุ่น นำโดย Triple-Band Radio 4485 ที่มีน้ำหนักเบากว่าผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกันถึง 53% นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโซลูชันการขนส่งและซอฟต์แวร์เคลื่อนที่ใหม่
    • เปิดตัวระบบคลื่นวิทยุ Massive MIMO บนคลื่น 600MHz เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม มาพร้อมซอฟต์แวร์ตรวจจับสัญญาณรบกวนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอีริคสัน เพิ่มความจุมากกว่าเดิม 40% และมีฮาร์ดแวร์รองรับทั้งพอร์ตโฟลิโอ
    • อีริคสันวางแผนนำเสนอโซลูชั่น AIR 6419 และ Radio 4490 ในตลาดประเทศไทย เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพเครือข่ายขั้นสูงสุดให้แก่ทั้งผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) แสดงวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำสนับสนุนผู้ให้บริการสื่อสาร เดินหน้าไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ RAN และ Transport ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสร้างรายได้ของผู้ให้บริการสื่อสารและเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 5G ณ งาน Mobile World Congress (MWC) 2023 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน

โซลูชันใหม่ของอีริคสันมากกว่า 10 โซลูชัน จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงจำนวนสถานีฐาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและเพิ่มศักยภาพเครือข่าย ด้วย New Remote Radios ใหม่ที่มีศักยภาพครบวงจร สำหรับการขยายประสิทธิภาพเครือข่าย 4G และ 5G ที่นำโดยคลื่นวิทยุแบบ ย่านความถี่ 4485 หรือ Triple-Band Radio 4485 for FDD (Frequency-Division Duplexing สำหรับใช้รับ-ส่งสัญญาณข้อมูล Downlink และ Uplink ในความถี่ต่างกัน) ซึ่งมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่า 53% และใช้พลังงานน้อยกว่า 22% เทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวระบบวิทยุสื่อสารแบบดูอัลแบนด์และซิงเกิลแบนด์ใหม่

 อีริคสันยังเปิดตัวระบบคลื่นวิทยุ Massive MIMO แบบไวด์แบนด์รุ่นล่าสุด Ultra-wideband AIR 6476 ซึ่งเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม บนคลื่นความถี่ 600MHz ช่วงช่องสัญญาณที่ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน (Instantaneous Bandwidth) ซึ่งให้ความจุเพิ่มเป็น 2 เท่าโดยไม่ต้องติดตั้งเสาอากาศเพิ่ม มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้

 นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ยังได้รับความสนใจในงานนี้ด้วยคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่โดดเด่น เช่น การตรวจจับสัญญาณรบกวนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Massive MIMO ช่วงย่านความถี่ระดับกลาง โดยลดการรบกวนสัญญาณระหว่างเซลล์พร้อมเพิ่มความจุเครือข่ายสูงสุดถึง 40%

 โซลูชันใหม่จะจัดแสดงที่บูธของอีริคสันที่งาน MWC Barcelona 2023, Hall 2 ที่ Fira Gran Via ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ถึง 2 มีนาคม พอร์ตโฟลิโอเพิ่มเติมต่าง ๆ จะเริ่มวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในปีนี้และไตรมาสที่ 1 ปี ค.ศ.2024

สำหรับในประเทศไทย อีริคสันจะทำการตลาดโซลูชั่น Massive MIMO, AIR 6419 B41 และ Radio 4490 B1/B3 เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพเครือข่ายขั้นสูงสุดสำหรับทั้งผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด

มร. อิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “เรากำลังขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในประเทศไทยด้วยโซลูชันประสิทธิภาพสูงผนวกกับความแข็งแกร่งของเครือข่าย 5G ทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าสำหรับผู้บริโภค และเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลของพวกเขาเป็นไปได้ในต้นทุนที่แข่งขันได้”

เมื่อเร็ว ๆ นี้อีริคสันได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ Massive MIMO รุ่นล่าสุด รวมถึงโซลูชัน AIR 6419 B41 บนคลื่นความถี่ 2600MHz และผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม โดยมีความต้องการการบำรุงรักษาน้อยลงเนื่องจากระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ

ทั้งนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์ Radio 4490 B1/B3 บนย่านความถี่ดูอัลแบนด์ 2100MHz และ 1800MHz ซึ่งโซลูชั่นนี้เป็นระบบคลื่นวิทยุหลักสำหรับใช้งานในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งใช้พลังงานน้อยลง 25% และมีน้ำหนักลดลง 25% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ Radio 4490 ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าด้วยระบบระบายความร้อนแบบพาสซีฟ ซึ่งคาดว่าการทดสอบจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้

Find out more about the latest macro and mobile transport portfolio additions.

Ericsson Mobility Report Business Review edition: 5G drives revenue growth

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

Ericsson Mobility Report Business Review edition: 5G drives revenue growth

    • Communications Service Providers in Top 20 5G markets enjoying revenue growth
    • Enhanced Mobile broadband and Fixed Wireless Access proving popular early use cases
    • Cloud gaming, enterprise and industrial deployments gaining momentum

New research from the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report team provides encouraging evidence for communication service providers (CSPs) worldwide by identifying a correlation between 5G uptake and revenue growth.

Flattening revenues have been a challenge for service providers in all parts of the world, often impacting network investment decisions as part of their business growth strategies, known as ‘monetization’ in the industry.

A special Ericsson Mobility Report edition – called the Business Review edition – addresses these monetization opportunities as they relate to 5G.

The report highlights a positive revenue growth trend since the beginning of 2020 in the top 20* 5G markets – accounting for about 85 percent of all 5G subscriptions globally – that correlates with increasing 5G subscription penetration in these markets.

The report finds:

    • Tiered pricing models are key for service providers, both for effectively addressing the individual needs of each customer and for continuing to drive long-term revenue growth.
    • The top 20 5G markets have seen a significant network performance boost following the introduction of 5G services.
    • After a period of slow or no growth, wireless service revenue curves are again pointing upwards in these leading markets. This correlate with 5G subscription penetration growth.

Fredrik Jejdling, Executive Vice President and Head of Networks, Ericsson, says: “Meeting our customers’ challenges is at the heart of our R&D efforts and every resulting product we develop. The link between 5G uptake and revenue growth in the top 20 5G markets underlines that not only is 5G a game changer, but that early adopters benefit. What is particularly encouraging about this is that while 5G is still at a relatively early phase, it is growing fast with proven early use cases and a clear path to medium and long-term use cases.”

As expected, Enhanced Mobile Broadband (eMBB) is the main early use case for 5G, driven by increasing geographical coverage and differentiated offerings. More than one billion 5G subscriptions are currently active across some 230 live commercial networks globally. 5G eMBB offers the fastest revenue opportunities for 5G, as it is an extension of service providers’ existing business, relying on the same business models and processes. Even in the top 20 5G markets, about 80 percent of consumers have yet to move to 5G subscriptions – one pointer to the potential for revenue growth.

As highlighted in the November 2022 Ericsson Mobility Report, Fixed Wireless Access (FWA) is the second biggest early 5G use case, particularly in regions with unserved or underserved broadband markets. FWA offers attractive revenue growth potential for CSPs as it largely utilizes mobile broadband assets. FWA connections are forecast to top 300 million within six years.

Beyond consumer subscribers, there are growing opportunities in enterprise and public sector applications across the world.

5G enables significant value for enterprises, with private 5G networks and wireless wide area networks being deployed for enterprise and industrial use.

Upgrading existing 4G sites to 5G has the potential to realize increases of 10 times in capacity and reduce energy consumption by more than 30 percent, offering the possibility of growing revenue and lowering costs, while addressing sustainability.

Jejdling adds: “Revenue growth and sustainability are recurring themes in my discussions with customers. In this special Ericsson Mobility Report edition, we have explored how service providers are tapping 5G opportunities. We see initial signs of revenue growth in advanced 5G markets with extensive coverage build-out and differentiated service offerings. An equally crucial aspect of 5G is that it brings cost advantages and helps service providers handle the data growth needed to drive future revenue. This can make 5G the growth catalyst that the market has been waiting for.”

Read the full Ericsson Mobility Report Business Review Edition report here.

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

    • ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก พอใจกับรายได้ที่เติบโต
    • บริการ Enhanced Mobile broadband (eMBB) และ Fixed Wireless Access (FWA) เป็น Use Case ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในเบื้องต้น
    • ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างนำบริการคลาวด์เกมมิ่ง (Cloud Gaming) มาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง

ผลวิจัยล่าสุดจากทีม Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report เผยหลักฐานสนับสนุนสำคัญแก่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ทั่วโลก ซึ่งชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของการนำ 5G มาปรับใช้และการเติบโตของรายได้

การเติบโตของรายได้เป็นความท้าทายของผู้ให้บริการทั่วโลกที่มักส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนด้านเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจของพวกเขาหรือเรียกว่า ‘การสร้างรายได้ (Monetization)’ ในอุตสาหกรรม

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษที่เรียกว่า Business Review edition นำเสนอโอกาสต่าง ๆ สำหรับการสร้างรายได้จากบริการ 5G

โดยรายงานนี้เน้นย้ำถึงแนวโน้มการเติบโตของรายได้แง่บวกตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2020 ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 แห่ง* คิดเป็น 85% ของยอดผู้ใช้บริการ 5G ทั้งหมดทั่วโลก และสัมพันธ์กับยอดผู้ใช้บริการ 5G ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในตลาดเหล่านี้

รายงานฉบับนี้พบว่า:

    • โมเดลการกำหนดราคาตามกลุ่มลูกค้า (Tiered Pricing) เป็นกุญแจสำคัญของผู้ให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของแต่ละลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องระยะยาว
    • ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 แห่ง พบว่ามีประสิทธิภาพเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลัง 5G เปิดให้บริการ
    • เส้นกราฟรายได้จากบริการเครือข่ายไร้สายจะพุ่งขึ้นอีกครั้งในตลาด 5G ชั้นนำเหล่านี้ หลังจากช่วงเติบโตช้าหรือไม่มีการเติบโต ซึ่งสัมพันธ์กับยอดการขยายตัวของผู้ใช้บริการ 5G

เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของอีริคสันกล่าวว่า “การรับมือกับความท้าทายของลูกค้าคือหัวใจสำคัญของความมุ่งมั่นพยายามในด้านการวิจัยและพัฒนาในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ของอีริคสัน โดยความเชื่อมโยงระหว่างการนำเครือข่าย 5G มาปรับใช้และการเติบโตของรายได้ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก ตอกย้ำให้เราเห็นว่าเครือข่าย 5G ไม่เพียงแต่เป็น Game Changer เท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์แก่ผู้นำไปใช้ระยะแรกอีกด้วย แม้ว่า 5G จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีการเติบโตรวดเร็วจากกรณีการใช้งานที่ได้รับการยืนยันแล้ว และยังมีแผนการสร้างกรณีการใช้งานทั้งในระยะกลางและระยะยาวที่ชัดเจน”

ตามที่คาดไว้ บริการ Enhanced Mobile Broadband (eMBB) จะเป็นการใช้งานหลักของเครือข่าย 5G ในช่วงแรก โดยได้รับแรงหนุนมาจากความต้องการเพิ่มความครอบคลุมสัญญาณทางด้านภูมิศาสตร์และมอบข้อเสนอที่แตกต่าง ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน 5G มากกว่าหนึ่งพันล้านรายอยู่บนเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ที่เปิดให้บริการอยู่230 เครือข่ายทั่วโลก โดยบริการ 5G eMBB มอบโอกาสในการสร้างรายได้ที่รวดเร็วที่สุดสำหรับ 5G เนื่องจากเป็นบริการส่วนขยายจากธุรกิจที่มีอยู่เดิมของผู้ให้บริการ อาศัยโมเดลธุรกิจและใช้กระบวนการแบบเดียวกัน แม้แต่ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก ก็ยังมีผู้บริโภคประมาณ 80% ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ 5G นับว่าเป็นตัวชี้ชัดสำคัญถึงศักยภาพในการเติบโตของรายได้

ตามที่ระบุไว้ในรายงาน Ericsson Mobility ฉบับเดือนพฤศจิกายนปีก่อนว่าบริการ Fixed Wireless Access (FWA) จะมีกรณีการใช้งาน 5G ในช่วงแรกขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ยังไม่มีตลาดบรอดแบนด์และผู้บริโภคยังเข้าไม่ถึงบริการดังกล่าว สำหรับบริการ FWA นั้นมีศักยภาพการเติบโตของรายได้ที่น่าสนใจสำหรับ CSPs เนื่องจากใช้ศักยภาพของบรอดแบนด์มือถือเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่าจะมีการเชื่อมต่อ FWA สูงถึง 300 ล้านครั้งภายในหกปี

นอกเหนือจากผู้บริโภคที่ใช้บริการ 5G แล้ว ยังมีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นจากการนำเครือข่าย 5G ไปใช้ในระดับองค์กรและภาครัฐทั่วโลก

5G ช่วยทำให้เกิดคุณค่าสำคัญสำหรับองค์กร ด้วยเครือข่าย 5G แบบส่วนตัวและเครือข่ายไร้สายที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างที่นำมาใช้ในองค์กรและในภาคอุตสาหกรรม

การอัปเกรดเครือข่าย 4G ที่มีอยู่เดิมให้เป็นเครือข่าย 5G ที่มีศักยภาพมากกว่าถึง 10 เท่า และลดปริมาณการใช้พลังงานได้มากกว่า 30% ช่วยเพิ่มรายได้พร้อมลดต้นทุนและยังสอดรับกับความยั่งยืน

“การเติบโตของรายได้และความยั่งยืนเป็นหัวข้อสนทนาประจำระหว่างเรากับลูกค้า โดยรายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษนี้ เราได้สำรวจวิธีที่ผู้ให้บริการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G และเห็นสัญญาณเริ่มต้นของการเติบโตของรายได้ในตลาด 5G ชั้นนำ จากการขยายความครอบคลุมของสัญญาณที่กว้างขวางและการมอบข้อเสนอด้านบริการที่แตกต่าง โดยยังมีด้านที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือสามารถสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนและช่วยจัดการกับการเติบโตด้านข้อมูลที่มีผลต่อการขับเคลื่อนรายได้ในอนาคต ตอกย้ำให้เห็นว่าเครือข่าย 5G เป็นตัวเร่งการเติบโตที่ตลาดรอคอย” เฟรดริก เจดลิง กล่าวเพิ่มเติม

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ Ericsson Mobility Report Business Review Edition report