อีริคสันนำนวัตกรรม 5G ล่าสุด มาจัดแสดงที่งาน Imagine Live Thailand 2023

อีริคสันนำนวัตกรรม 5G ล่าสุด มาจัดแสดงที่งาน Imagine Live Thailand 2023

อีริคสันนำนวัตกรรม 5G ล่าสุด มาจัดแสดงที่งาน Imagine Live Thailand 2023

  • เผยพอร์ตโฟลิโอ 5G ล้ำสมัย พร้อมสาธิตเทคโนโลยีล่าสุดมากมายในงาน Ericsson Imagine Live Thailand 2023
  • อีริคสันเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทยผ่านเทคโนโลยี 5G
  • อีริคสันนำความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเป็นผู้นำเทคโนโลยี มาสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยก้าวสู่ผู้นำ 5G ระดับแถวหน้า

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เปิดงาน Imagine Live Thailand 2023 นำยูสเคสและนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G ขั้นสูง ที่เปิดตัวในงาน Mobile World Congress ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มาจัดแสดงในประเทศไทย โดยมีเทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลท์ล่าสุด ประกอบด้วย โซลูชันสื่อสารวิทยุประหยัดพลังงาน (Energy Efficient Radio Solutions), การสื่อสารผ่านโฮโลแกรม (Holographic Communications), เทคโนโลยี Digital Twin และระบบเครือข่ายอัตโนมัติ (Network Automation) รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมายที่นำมาจัดแสดงไว้ภายในงาน

หนึ่งในไฮไลท์ที่นำมาจัดแสดง คือ ผลิตภัณฑ์ Radio 4466 ที่สามารถรองรับย่านความถี่ 1800MHz, 2100MHz และ 2300MHz ที่มีในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์นี้เป็น Triple-Band Radio 4466 รุ่นล่าสุดของอีริคสัน ที่มีความสามารถเสริมศักยภาพการให้บริการ 4G และ 5G ข้ามย่านความถี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยผลิตภัณฑ์เดียวแก่ผู้ให้บริการไทย และยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงจำนวนสถานีฐาน ซึ่ง Radio 4466 ยังอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ericsson Radio Access Network ที่สามารถจัดการความท้าทายในการติดตั้งสถานีฐานพร้อมช่วยประหยัดพลังงานเป็นอย่างมาก

ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย อีริคสันมุ่งนำเสนอความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ผู้นำ 5G ชั้นแนวหน้า มร.อิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การสร้างเครือข่าย 5G ประสิทธิภาพสูงและเน้นการประหยัดพลังงานเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์สำคัญของเราที่ต้องการสร้างเครือข่ายในอนาคตที่มีความยืดหยุ่นและยั่งยืน ด้วยพอร์ตโฟลิโอการใช้ 5G​​ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของอีริคสัน เรากำลังจัดการกับหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของเรา นั่นคือการลดการใช้พลังงานของเครือข่ายและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่การใช้งาน 5G มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เป้าหมายของเราคือการไปสู่อนาคตคาร์บอนต่ำพร้อมกับการเร่งประสบการณ์ 5G” อีริคสันลงทุนกับการวิจัยและพัฒนาปีละประมาณ 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18% ของยอดขาย

ประเทศไทยคือผู้นำคลื่น 5G อย่างชัดเจน จากการคาดการณ์ของอีริคสันระบุ ช่วงสิ้นปี 2565 พบว่า 5G ครอบคลุมมากกว่า 85% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ปริมาณการใช้ข้อมูลต่อการสมัครสมาชิกในประเทศไทยคาดว่าภายในปี 2568 จะเติบโตเพิ่มเป็นเกือบ 80 กิกะไบต์ต่อเดือน เพิ่มจาก 32.7 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2565 และคาดว่าในปี 2571 จะเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยคาดว่า 5G จะสามารถรองรับความต้องการประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเครือข่ายได้

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความไดนามิกสูง และมีผู้บริโภคที่เข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศและใช้งานมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ด้วยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม 4.0 ในประเทศตามเป้าหมาย Digital Thailand ของรัฐบาล ทำให้การเชื่อมต่อต้องมีความมั่นใจได้ ปลอดภัยและแข็งแกร่ง โดยความซับซ้อนที่เครือข่ายจำเป็นต้องจัดการทำให้เกิดความต้องการใหม่ ๆ ในการดำเนินงานของเครือข่าย การดึงศักยภาพจากเทคโนโลยี อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) มาปรับใช้จะช่วยผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในประเทศไทยสามารถจัดการความซับซ้อนของเครือข่ายที่กำลังเติบโตได้ ตามที่เราเห็นการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ บนเครือข่าย 5G” มร.อิกอร์ กล่าวเพิ่มเติม

แนวทาง Zero-Touch Operation กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยของอนาคตการดำเนินงานบนเครือข่ายที่ต้องมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Zero-Touch ช่วยผู้ให้บริการสามารถจัดการเครือข่ายโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน คาดการณ์ล่วงหน้าและดำเนินการแบบเชิงรุกได้มากขึ้น โดยระบบเครือข่ายอัตโนมัติยังช่วยลดกิจกรรมที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองลง และทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจมากขึ้น

อีริคสันนำนวัตกรรม 5G ล่าสุด มาจัดแสดงที่งาน Imagine Live Thailand 2023

ในฐานะผู้นำด้านไอซีทีระดับโลก อีริคสันกำลังใช้ศักยภาพจากบริการบรอดแบนด์มือถือขั้นสูง เทคโนโลยี Fixed Wireless Access (FWA) และเทคโนโลยี 5G มารองรับการเติบโตโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย “เรากำลังใช้ศักยภาพทั้งในด้านความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเป็นผู้นำเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทย ก้าวไปเป็นผู้นำแถวหน้า 5G ผ่านความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมและพันธมิตรของเราในประเทศไทย และเรายังมุ่งมั่นเร่งสร้างนวัตกรรมและระบบนิเวศ 5G ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย” มร.อิกอร์ กล่าวเพิ่ม

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลก ปัจจุบัน บริษัทฯ เปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 152 เครือข่าย ใน 65 ประเทศ บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ 1 ในรายงาน Frost Radar™ 5G Network Infrastructure Market 2023 เป็นปีที่สามติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ 5G Radio Access Networks (RAN), Transport networks, และ Core Networks

Ericsson Mobility Report: Global 5G growth continues

Ericsson Mobility Report: Global 5G growth continues

Ericsson Mobility Report: Global 5G growth continues

    • 5G mobile subscriptions are growing in every region and forecast to top 1.5 billion globally by the end of 2023
    • Continued revenue growth in leading 5G markets
    • Mobile data traffic continues to grow strongly in Southeast Asia and Oceania, expected to reach around 54 GB/month in 2028

Despite geopolitical challenges and macroeconomic slowdown in some markets, communications service providers worldwide are continuing to invest in 5G, the June 2023 edition of the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report shows.

Mobile data traffic per smartphone in Southeast Asia and Oceania continues to grow strongly in Southeast Asia and Oceania and is expected to reach around 54 GB per month in 2028 – a CAGR of 24 percent. Total mobile data traffic is estimated to grow from around 13 EB per month in 2022 to 55 EB per month in 2028, growing at a CAGR of 27 percent.

5G subscriptions are forecast to reach around 430 million by the end of 2028 and will contribute 34% of all mobile subscriptions in the region by that time. In terms of 5G coverage, by the end of 2022:

    • 5G was available to around 50 percent of the population in Malaysia and 66 percent in the Philippines.
    • More than 80 percent of the population in Australia and Thailand had access to 5G
    • Singapore achieved more than 95 percent coverage by mid-2022

The number of smartphone subscriptions in the region is projected to grow at a CAGR of 3 percent, reaching over 1.12 billion by 2028 from 930 million at the end of 2022. 4G is also showing growth with subscriptions expected to reach 770 million in 2028 from 640 million at the end of 2022 – a CAGR of 3%.

Following the launch of 5G services in October 2022, the major 5G Indian market is witnessing huge network deployments under its Digital India initiative. 5G subscriptions in India reached about 10 million by end of 2022 and are estimated to account for about 57 percent of mobile subscriptions in the country by the end of 2028, making it the fastest growing 5G region globally.

The latest Ericsson Mobility Report also reveals that the uptake of 5G subscriptions in North America has been stronger than expected in previous forecasts. At the end of 2022, the region had the highest 5G global subscription penetration at 41 percent.

5G subscriptions are rising in every region worldwide and forecast to reach 1.5 billion by the end of 2023. Global mobile network data traffic continues to grow with the monthly global average usage per smartphone expected to exceed 20 GB by the end of 2023.

The report also shows continued revenue growth in leading 5G markets. Fredrik Jejdling, Executive Vice President and Head of Networks, Ericsson, says: “The global adoption of 5G technology has surpassed one billion subscriptions, bringing positive revenue growth for communications service providers in leading 5G markets. We see a strong link between the increase in 5G subscriptions and service revenue. Over the past two years, the introduction of 5G services in the top twenty markets has resulted in a seven percent revenue boost. This trend shows the growing value of 5G, benefiting users and service providers alike.”

Igor Maurell, Head of Ericsson Thailand states, “As a long term and trusted connectivity provider in Thailand, Ericsson will continue to work with Service Providers to ensure successful coverage and capacity deployments with resilient network performance, scalability, simplicity, and security as a primary focus. We are also working closely with key Communications service providers in the country, the Government as well as industry and academia to develop the 5G eco system in the country so that the country’s Thailand 4.0 Vision is achieved.”

Worldwide, around 240 communications service providers (CSPs) have launched commercial 5G services and about 35 have deployed or launched 5G standalone (SA). The most common 5G services launched by service providers for consumers are enhanced mobile broadband (eMBB), Fixed Wireless Access (FWA), gaming and some AR/VR-based services, such as training and education.

The report also reveals that 5G continues to drive innovation in mobile service packaging. Among CSPs, it is increasingly common to offer bundles with various popular entertainment services included such as television, music streaming or cloud gaming platforms. About 58 percent of 5G service providers currently do this in various forms.

More than 100 CSPs, comprising about 40 percent of FWA service providers, currently offer FWA over 5G.

FWA is growing solidly in terms of:

    • Number of mobile service providers offering FWA 
    • Proportion of those offering FWA over 5G 
    • Proportion of CSPs with speed-based tariff structures 
    • Amount of traffic served, as both number of connections and traffic volume per connection increase.

By 2028 5G is estimated to account for almost 80 percent of all FWA connections.

The June 2023 Ericsson Mobility Report includes four in-depth articles:  

    • Exploring how traffic patterns drive network evolution
    • Exploring differentiated service with 5G networks
    • AR uptake enabled by mobile networks
    • Mobile quality of experience: Network readiness for new services

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผย 5G ทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผย 5G ทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผย 5G ทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง

    • ผู้ใช้บริการมือถือ 5G เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคและคาดว่าภายในสิ้นปี 2566 จะพุ่งไปถึง 5 พันล้านรายทั่วโลก
    • ตลาดผู้นำ 5G มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
    • ปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือยังเติบโตแข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดยคาดว่าจะสูงถึง 54 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2571

ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั่วโลกยังเดินหน้าลงทุนกับ 5G อย่างต่อเนื่อง ตามรายงาน Mobility Report ของ Ericsson (NASDAQ: ERIC) ฉบับเดือนมิถุนายน 2566 แม้จะมีความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาคในบางตลาด

ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตต่อสมาร์ทโฟนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ และคาดว่าจะสูงถึง 54 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือนในปี 2571 หรือเติบโต 24% ต่อปี โดยยอดการใช้ดาต้าเน็ตมือถือทั้งหมดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 13 เอกซะไบต์ต่อเดือนในปี 2565 เป็น 55 เอกซะไบต์ต่อเดือนในปี 2571 โดยเติบโต 27% ต่อปี

ภายในสิ้นปี 2571 คาดว่ายอดผู้ใช้งาน 5G จะเพิ่มเป็น 430 ล้านราย คิดเป็น 34% ของยอดผู้ใช้งานบริการมือถือทั้งหมดของภูมิภาคฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน ในแง่ของความครอบคลุม 5G ภายในสิ้นปี 2565 พบว่า:

    • 5G พร้อมให้บริการแก่ประชากรประมาณ 50% ในมาเลเซีย และ 66%ในฟิลิปปินส์
    • กว่า 80% ของประชากรในออสเตรเลียและไทย สามารถเข้าถึงบริการ 5G
    • เมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา 5G ในสิงคโปร์ครอบคลุมมากกว่า 95%

จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคนี้คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปี และภายในปี 2571 จะเพิ่มไปถึง 1.12 พันล้านราย จาก 930 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565 ขณะที่ผู้ใช้บริการ 4G คาดว่าจะยังมีการเติบโตที่ 770 ล้านราย ภายในปี 2571 เพิ่มจาก 640 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565 หรือเติบโตเฉลี่ย 3% ต่อปีเช่นกัน

อินเดียเป็นตลาด 5G สำคัญที่กำลังปรับใช้งานเครือข่ายขนาดใหญ่มากมายภายใต้กรอบนโยบาย Digital India หลังเปิดให้บริการ 5G ไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 เมื่อสิ้นปี 2565 อินเดียมียอดผู้ใช้บริการ 5G ประมาณ 10 ล้านราย และคาดว่าภายในสิ้นปี 2571 ยอดการใช้บริการ 5G จะเพิ่มเป็น 57% ของยอดผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดในประเทศ ส่งผลให้ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาค 5G ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับนี้ยังเผยให้เห็นว่าผู้ใช้บริการ 5G ในทวีปอเมริกาเหนือนั้นมีการเติบโตแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อน โดยเมื่อสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา ภูมิภาคนี้มีสัดส่วนผู้ใช้บริการ 5G สูงสุดในโลกที่ 41%

ผู้ใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลกและคาดว่าจะเพิ่มไปถึง 1.5 พันล้านราย ภายในสิ้นปี 2566 ส่วนปริมาณการใช้ดาต้าผ่านเครือข่ายมือถือทั่วโลกก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าภายในสิ้นปี 2566 ยอดการใช้ดาต้าบนมือถือต่อสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะเกินกว่า 20 กิ๊กกะไบต์ต่อเดือน

รายงานยังแสดงการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องในตลาดที่เป็นผู้นำ 5G นายเฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายเครือข่ายของอีริคสัน กล่าวว่า “ยอดผู้ใช้ 5G ทั่วโลกมีเกินหนึ่งพันล้านบัญชีไปแล้ว ทำให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในตลาด 5G ชั้นนำมีรายได้เติบโตในเชิงบวก เราเห็นความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างการสมัครบริการ 5G ที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากการให้บริการ โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาจากการเปิดตัวบริการ 5G ใน 20 ตลาดชั้นนำ ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 7% แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ 5G ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการ”

นายอิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการด้านการเชื่อมต่อที่ได้รับความไว้วางใจและดำเนินกิจการมาอย่างยาวนานในประเทศไทย อีริคสันจะเดินหน้าทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความสำเร็จในการมอบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมการใช้งาน มีความยืดหยุ่น รองรับการเติบโตธุรกิจ ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญ นอกจากนี้เรายังทำงานใกล้ชิดกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารหลัก ๆ ในประเทศ ภาครัฐบาล ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาในการพัฒนาระบบนิเวศ 5G ในประเทศเพื่อบรรลุตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0”

ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) ประมาณ 240 รายทั่วโลกเปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์และประมาณ 35 รายปรับใช้หรือเปิดตัว 5G แบบสแตนด์อโลน (SA) โดยบริการ 5G สำหรับผู้บริโภคที่เห็นได้มากที่สุดได้แก่ Enhanced Mobile Broadband (eMBB), Fixed Wireless Access (FWA), เกม และบริการอื่น ๆ ที่ใช้กับอุปกรณ์ AR/VR เช่น การฝึกอบรมและการศึกษา

รายงานยังเผยให้เห็นว่า 5G ยังคงขับเคลื่อนนวัตกรรมในแพ็คเกจบริการมือถือ ผู้ให้บริการนำเสนอบริการบันเดิลเป็นชุดความบันเทิงยอดนิยมต่าง ๆ มากขึ้น อาทิ โทรทัศน์ การสตรีมเพลง หรือแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ให้บริการ 5G ประมาณ 58% นำเสนอบริการเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ

ผู้ให้บริการมากกว่า 100 ราย หรือประมาณ 40% ของผู้ให้บริการ Fixed Wireless Access (FWA) ให้บริการ FWA บน 5G อยู่ในเวลานี้

บริการ FWA กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในแง่:

    • จำนวนผู้ให้บริการมือถือที่ให้บริการ FWA
    • สัดส่วนของผู้ให้บริการ FWA บนเครือข่าย 5G
    • สัดส่วนของผู้ให้บริการ CSP ที่มีโครงสร้างค่าบริการตามความเร็ว
    • ปริมาณการใช้ดาต้าที่ให้บริการ เนื่องจากมียอดการเชื่อมต่อและการใช้ดาต้าเน็ตต่อการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น

ภายในปี 2571 คาดว่าการเชื่อมต่อ FWA ทั้งหมดจะเป็น 5G เกือบ 80%

รายงาน Ericsson Mobility ประจำเดือนมิถุนายน 2566 ยังรวมบทความเชิงลึกอีก 4 บทความ ดังนี้:

    • Exploring how traffic patterns drive network evolution
    • Exploring differentiated service with 5G networks
    • AR uptake enabled by mobile networks
    • Mobile quality of experience: Network readiness for new services

Depa & Ericsson Jointly Commence Thailand Digital Valley

ดีป้าและอีริคสันร่วมเดินหน้าขับเคลื่อน Thailand Digital Valley

Depa & Ericsson Jointly Commence Thailand Digital Valley

    • Collaboration will focus on driving digitization in Thailand in support of the country’s 4.0 vision
    • Ericsson’s leading 5G solutions will form a testbed for trials of new wireless and network technologies, spectrum sharing, as well as new applications and services for Thailand.

Thailand Digital Valley, located 50 miles east of Bangkok, is expected to become Southeast Asia’s new digital hub that supports Thailand and the region’s digital transformation. The project  is forecast to create  around 20,000 new jobs and attract more than 5 billion baht worth of foreign direct investment annually.

Ericsson and depa recently signed a Memorandum of Understanding to collaborate towards driving 5G based digital transformation in Thailand. The collaboration entails sharing best practices, advanced understanding and Ericsson’s state-of-the-art technology to accelerate Thailand’s journey towards becoming a digital economy.

As part of the MoU, Ericsson and depa will establish an innovation lab (Innolab) in depa’s Thailand Digital Valley in Chonburi province that will serve as a 5G testbed and service center for trials of new wireless and network technologies, spectrum sharing, as well as new applications and services in Thailand.

“As a 5G leader, who has been in Thailand for 117 years, we are committed to leveraging our leading, trusted solutions and global ecosystem of partners to drive the digital transformation of the country. We look forward to further working with depa, Thai operators, enterprises and start-ups to unlock the potential of 5G, through the co-creation of 5G use cases,” said Dr. Jesada Sivaraks, Head of Government and Industry Relations, Ericsson Thailand.

“Thailand Digital Valley will play a significant role in uplifting the digital ecosystem of Thailand and prompt the country to become Southeast Asia’s digital hub. It will be the key driving forces for the digital industry, investment atmosphere and global trade and collaboration,” said Dr. Nuttapon Nimmanphatcharin, depa’s President & CEO.

According to depa, Thailand Digital Valley will become the key digital ecosystem that lays the foundation for Thailand to be the new center of research and development, It will support co-creation of new hardware and smart devices as well as relevant technologies such as Big Data, IoT, AI, Software Convergence, Cloud Innovation and other digital content and services, including animations, games and e-sports.

Ericsson is a global 5G leader and today powers 147 live 5G networks in 63 countries with 24 live 5G standalone networks across the world.

ดีป้าและอีริคสันร่วมเดินหน้าขับเคลื่อน Thailand Digital Valley

ดีป้าและอีริคสันร่วมเดินหน้าขับเคลื่อน Thailand Digital Valley

ดีป้าและอีริคสันร่วมเดินหน้าขับเคลื่อน Thailand Digital Valley

    • ความร่วมมือกันครั้งนี้จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในประเทศไทยสอดรับกับวิสัยทัศน์ Thailand 4.0
    • โซลูชัน 5G ชั้นนำของอีริคสันจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบสำหรับการทดลองเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ อาทิ การจัดสรรทรัพยากรคลื่นความถี่ การพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ของประเทศไทย

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเดิมขับเคลื่อนความร่วมมือในโครงการ Thailand Digital Valley ของดีป้า เพื่อมุ่งพัฒนาซิลิคอนวัลเลย์เวอร์ชั่นประเทศไทย

ภายในงานเปิดตัว มีการนำเสนอข้อมูลจากเหล่าพันธมิตรหลัก ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและโซลูชันระดับโลก และสตาร์ทอัพ

Thailand Digital Valley ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันออกระยะทาง 50 ไมล์ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค โดยคาดว่าจะเกิดการจ้างงานใหม่ในพื้นที่ประมาณ 20,000 ราย และดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี  

เมื่อไม่นานมานี้ อีริคสันและดีป้ายังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันผ่านการใช้เครือข่าย 5G ในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะประกอบด้วยการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ความรู้ความเข้าใจขั้นสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัยของอีริคสันเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ส่วนหนึ่งในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ยังระบุว่า อีริคสันและดีป้าจะจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรม (Innolab) ขึ้นใน Thailand Digital Valley ของดีป้าในจังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นศูนย์ทดสอบเครือข่าย 5G และศูนย์บริการสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ ๆ อาทิ การแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ในประเทศไทย

ดร.เจษฎา ศิวารักษ์ หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำ 5G ที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทยมายาวนาน 117 ปี เราจะดึงศักยภาพและใช้ประโยชน์จากโซลูชันชั้นนำที่ไว้วางใจได้รวมถึงระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกมาขับเคลื่อนการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศ เราพร้อมทำงานร่วมกับดีป้า ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารของไทย องค์กรธุรกิจ และสตาร์ทอัพเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ 5G ผ่านการสร้างยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกัน”

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า “Thailand Digital Valley จะมีบทบาทสำคัญช่วยยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทยและเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล กระตุ้นบรรยากาศการลงทุน การค้า และความร่วมมือระดับโลก”

จากข้อมูลของดีป้าระบุว่า Thailand Digital Valley จะกลายเป็นระบบนิเวศดิจิทัลสำคัญ และเป็นฐานรากของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ โดยจะสนับสนุนการร่วมกันคิดค้นและพัฒนาฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะใหม่ ๆ (Hardware and Smart Devices) รวมถึงเทคโนโลยีด้านการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (BigData) เทคโนโลยี IoT, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ซอฟต์แวร์คอนเวอร์เจนซ์ (Software Convergence), นวัตกรรมคลาวด์ (Cloud Innovation) และบริการเนื้อหาดิจิทัล รวมถึงบริการดิจิทัลในด้านอื่น ๆ ครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมแอนิเมชัน เกม และอีสปอร์ต

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลก ปัจจุบัน บริษัทฯ เปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 147 เครือข่ายใน 63 ประเทศ พร้อมยังเปิดให้บริการเครือข่าย 5G Standalone 24 เครือข่ายทั่วโลก