อีริคสันเปิดตัว ‘EricssonEdge Academia Program’ ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

อีริคสันเปิดตัว 'EricssonEdge Academia Program' ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

อีริคสันเปิดตัว 'EricssonEdge Academia Program' ตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ผู้นำด้านโทรคมนาคมระดับโลก ประกาศเปิดตัว ‘EricssonEdge Academia Program’ โครงการซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างอาชีพและพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่รองรับภาคโทรคมนาคมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และอินเดีย

จากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ 5G, AI และ IoT และจากผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก อีริคสันจึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่จะเข้าไปทำงานในภาคโทรคมนาคม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการคัดสรรบัณฑิตของอีริคสันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และอินเดีย

EricssonEdge Academia Program ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความรู้และเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยี 5G, Cloud และ AI ให้กับนักศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตและก้าวเป็นผู้นำในภูมิทัศน์ของตลาดโทรคมนาคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ตลอดระยะเวลา 6 เดือน โครงการนี้จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้เชิงลึกให้กับนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 40 แห่ง จากอินเดีย ออสเตรเลีย ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม

โครงการนี้จะเป็นการผสมผสานการเรียนแบบตัวต่อตัวร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของอีริคสัน และการเรียนรู้แบบออนไลน์ช่วงเดือนที่สองและสาม ซึ่งจะมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรจะได้รับความก้าวหน้าและมีความเข้าใจที่ต่อเนื่อง โดยการเรียนรู้ในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์แก่ผู้เข้าเรียน พร้อมยังนำเสนอความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเตรียมพร้อมสำหรับอาชีพในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยนักศึกษาที่จบหลักสูตรจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาคัดสรรเป็นบัณฑิตในโครงการของอีริคสันในระดับภูมิภาค

ปริยันกา อานันท์ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และอินเดียของอีริคสัน กล่าวว่า “EricssonEdge Academia Program เป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาเพื่อมุ่งพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ ๆ ในด้านโทรคมนาคม ด้วยการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับนักศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดสู่ความสำเร็จ และเราไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสทางอาชีพให้กับพวกเขา แต่ยังเพิ่มความมั่นใจในด้านความก้าวหน้าและความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง”

โครงการนี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อนักศึกษาและระบบนิเวศโทรคมนาคมวงกว้าง โดยเพิ่มโอกาสการจ้างงานและพัฒนาขีดความสามารถในด้านอุตสาหกรรม การเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ของอีริคสัน และได้สัมผัสโดยตรงกับผู้นำในอุตสาหกรรม โดย EricssonEdge Academia Program ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับแรงงานที่พร้อมรับมือกับอนาคต

เรามุ่งมั่นกำหนดอนาคตของบุคลากรด้าน ICT ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมให้กับนักศึกษาบนเส้นทางด้านวิชาการของพวกเขา โครงการนี้จะช่วยจุดประกายการเรียนรู้ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และเพิ่มการใฝ่รู้ด้านเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี” อานันท์ กล่าวเพิ่มเติม

Ericsson Thailand launches 5G Innovation & Experience Studio at Thailand Digital Valley

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

Ericsson Thailand launches 5G Innovation & Experience Studio at Thailand Digital Valley

  • Ericsson’s latest 5G Innovation and Experience Studio in Thailand Digital Valley (TDV) will lay the foundation for new 5G use cases jointly developed with partners and ecosystem players
  • Set up in collaboration with the Royal Thai Government through the Digital Economy Promotion Agency (depa) the Studio is a hub for innovation and co-creation, and part of Ericsson’s commitment to help Thailand unleash the power of 5G 
  • The Company is open to collaboration with key stakeholders in the ecosystem, including partners, end-users and academia to develop new 5G use cases for industries and to accelerate Thailand’s transition to a digital economy

Ericsson (NASDAQ: ERIC) Thailand today officially inaugurated its 5G Innovation & Experience Studio at Thailand Digital Valley in Sri Racha, Chonburi, as part of its commitment to accelerating the digital transformation of Thailand, based on the strong 5G infrastructure it is driving in the country.

Leveraging its state-of-the-art 5G network solutions, together with its extensive experience and expertise in establishing efficient, reliable, and sustainable 5G networks worldwide, Ericsson is well poised to play a pivotal role in accelerating Thailand’s journey towards becoming a digital economy.

A cornerstone of Ericsson’s plans for Thailand is the newly completed 5G Innovation and Experience Studio that has been set up in collaboration with the Royal Thai Government through the Digital Economy Promotion Agency (depa).

The lab is designed to serve as a 5G co-creation space, featuring Ericsson’s state-of-the-art 5G sandbox network. It will be utilized to develop, test, verify, and certify new 5G use cases in collaboration with partners from around Thailand and the globe.

The innovation lab showcases several cutting-edge 5G use cases, including Automated Mobile Robots (AMR), an Automated Production Machine in collaboration with Mitsubishi, and 360-degree wearable CCTV cameras. These innovations demonstrate the transformative potential of 5G technology in various industries that can enable Thailand to be competitive on a global stage.

Anders Rian, President of Ericsson Thailand states, “5G is a platform for innovation. It enables new services for consumers, enterprises and industry. In line with the Thai government’s ambition to digitize the national economy and society, Ericsson Thailand is  committed to fostering partnerships and innovations to ensure that Thailand reaps the full benefits of a robust and sustainable 5G network. By working together with mobile operators and other eco system players, we will drive digital transformation that will benefit the Thai people, the economy, and the country.”

“Ericsson Thailand is open for further collaboration with key stakeholders in the ecosystem from both public and private sectors, including partners, end-users, academia, and others, to develop new 5G use cases for industries.”

According to the just released Ericsson Mobility Report, 5G subscriptions in the Southeast Asia and Oceania region, are predicted to reach around 560 million by the end of 2029. 5G subscriptions in Southeast Asia stood at 61 million at the end of 2023. The 5G subscriber base in the region continues to grow as subscribers migrate to 5G, driven by more affordable 5G devices, promotional plans and large data bundles from service providers. At the end of 2029, 5G mobile subscriptions are expected to reach 43% of all mobile subscriptions in the region. Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

5G is expected to become the dominant mobile access technology by subscription before the end of 2029.Although 5G population coverage is growing, 5G mid-band is only deployed in around 25 percent of all sites globally outside of mainland China. The 5G mid-band spectrum provides a sweet spot between both coverage and capacity, while improving user experience.

The June 2024 Ericsson Mobility Report shows continued strong uptake of 5G subscriptions. About 300 CSPs globally now offer 5G services, of which about 50 have launched 5G Standalone (5G SA).5G continues to grow in all regions and is expected to account for about 60 percent of all mobile subscriptions by the end of 2029. Ericsson is a global leader in 5G and currently powers 166 5G networks in 69 countries across the globe.

The latest report from business consulting firm Frost & Sullivan reaffirms Ericsson’s leadership in the 5G network infrastructure market, which spans radio access networks (RAN), transport networks, and core networks. Ericsson has been ranked as the leader in the Frost Radar™ 5G Network Infrastructure Market 2024 analysis for the fourth consecutive year, highlighting the impact of the company’s strategy to meet the evolving needs of communications service providers (CSPs).

 

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

  • 5G Innovation and Experience Studio ของอีริคสัน ในโครงการ Thailand Digital Valley ที่เปิดตัวล่าสุดนี้จะช่วยวางรากฐานสำคัญให้กับการพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ ที่ร่วมพัฒนาขึ้นกับพันธมิตรและทุกภาคส่วนในระบบนิเวศ
  • สตูดิโอแห่งนี้เป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทย ผ่านสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) จัดสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางความร่วมมือเพื่อการพัฒนานวัตกรรมและเป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของอีริคสันเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยขุมพลัง 5G  
  • บริษัทฯ ยังเปิดกว้างด้านความร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ ประกอบด้วย พันธมิตร ผู้ใช้งานและสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับภาคอุตสาหกรรม และเร่งการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทั

บริษัท อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio อย่างเป็นทางการ ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Thailand Digital Valley อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่มีความแข็งแกร่งและกำลังพัฒนายิ่งขึ้นในประเทศไทย

ด้วยการใช้ประสิทธิภาพจากโซลูชันเครือข่าย 5G ที่ทันสมัย ผนวกเข้ากับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้และยั่งยืนทั่วโลก ทำให้อีริคสันพร้อมมีบทบาทสำคัญเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยไปสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล

การจัดตั้ง 5G Innovation and Experience Studio ที่เพิ่งสร้างเสร็จนี้ คือ หมุดหมายสำคัญในแผนงานของอีริคสันเพื่อประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 5G ร่วมกัน โดยใช้เครือข่ายแซนด์บ็อกซ์ 5G ที่ทันสมัยของอีริคสัน มอบประโยชน์ทั้งในด้านการพัฒนา ทดสอบ ตรวจสอบ และรับรองยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและจากทั่วโลก

ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมแห่งนี้ยังจัดแสดงยูสเคส 5G ที่ล้ำสมัยไว้ในหลากหลายรูปแบบได้แก่หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เครื่องจักรการผลิตอัตโนมัติที่พัฒนาร่วมกับ Mitsubishi และกล้อง CCTV 360 องศา แบบสวมใส่ได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เผยให้เห็นถึงศักยภาพเทคโนโลยี 5G ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันบนเวทีโลก

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรม ช่วยสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่ต้องการนำดิจิทัลมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและหน่วยงานอื่น ๆ ในระบบนิเวศ เราจะสามารถขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนไทย เศรษฐกิจและประเทศชาติ”

อีริคสันประเทศไทยยังเปิดกว้างด้านความร่วมมือในอนาคตกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตร ผู้ใช้ปลายทาง สถาบันการศึกษา และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรม

จากรายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด คาดการณ์ภายในปี 2572 จะมีจำนวนผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ประมาณ 560 ล้านราย และเมื่อสิ้นปี 2566 มียอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ซึ่งผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาย่อมเยาลง รวมถึงโปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ ส่วนลดและแพ็กเกจที่รวมการใช้ปริมาณดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการ คาดว่าในปี 2572 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะมีสัดส่วน 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค และคาดว่ายอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นจาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2566 เป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2572

ก่อนสิ้นปี 2572 คาดว่า 5G จะกลายเป็นเครือข่ายมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากยอดการสมัครใช้ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band กลับถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดย 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้

รายงาน Ericsson Mobility เดือนมิถุนายน ปี 2567 เผยให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งของการสมัครใช้บริการ 5G โดยมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารประมาณ 300 รายทั่วโลก เปิดให้บริการ 5G และมี 50 ราย เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2572 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด อีริคสันคือผู้นำ 5G ระดับโลก ปัจจุบันเปิดบริการเครือข่าย 5G ไปแล้วถึง 166 เครือข่าย ใน 69 ประเทศทั่วโลก

รายงานล่าสุดจาก Frost & Sullivan ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ซึ่งครอบคลุมถึง Radio Access Networks (RAN), Transport Networks และ Core Networks โดยอีริคสันได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ 1 ในรายงานการวิเคราะห์ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ของ Frost Radar™ ประจำปี 2567 เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ซึ่งเน้นย้ำถึงผลจากกลยุทธ์ของบริษัทในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ให้บริการการสื่อสาร (CSPs)

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

  • Ericsson’s latest 5G Innovation and Experience Studio in Thailand Digital Valley will lay the foundation for new 5G use cases jointly developed with partners and eco system players
  • The Company is open to collaboration with key stakeholders in the ecosystem to fuel innovation
  • 5G subscriptions in the Southeast Asia and Oceania region, are predicted to reach around 560 million by the end of 2029.

Ericsson (NASDAQ: ERIC) Thailand today unveiled its ambitious vision to drive the digital transformation of Thailand based on the strong 5G infrastructure it is creating in the country. Leveraging its state-of-the-art 5G network solutions together with its extensive experience and expertise in establishing efficient, reliable, and sustainable 5G networks worldwide, Ericsson is well poised to play a pivotal role in accelerating Thailand’s journey towards becoming a digital economy.

A cornerstone of Ericsson’s plans for Thailand is the newly completed 5G Innovation and Experience Studio at Thailand Digital Valley that has been set up in collaboration with the Royal Thai Government through the Digital Economy Promotion Agency (depa). 

The lab is designed to serve as a 5G co-creation space, featuring Ericsson’s state-of-the-art 5G sandbox network. It will be utilized to develop, test, verify, and certify new 5G use cases in collaboration with partners from around the globe.

The innovation lab showcases several cutting-edge 5G use cases, including Automated Mobile Robots (AMR), an Automated Production Machine in collaboration with Mitsubishi, and 360-degree wearable CCTV cameras. These innovations demonstrate the transformative potential of 5G technology in various industries.

Ericsson Thailand is open for further collaboration with key stakeholders in the ecosystem from both public and private sectors, including partners, end-users, academia, and others to develop new 5G use cases for industries. 

Anders Rian, President of Ericsson Thailand states, “5G is a platform for innovation. It enables new services for consumers, enterprises and industry. We remain committed to fostering partnerships and innovations to ensure that Thailand reaps the full benefits of a robust and sustainable 5G network. The 5G Innovation and Experience Studio at Thailand Digital Valley, we hope will encourage new, innovative use cases in Thailand, leveraging the full potential of 5G. By working together with other eco system players, we will drive digital transformation that will benefit the Thai people, the economy, and the country.”

According to the just released Ericsson Mobility Report, 5G subscriptions in the Southeast Asia and Oceania region, are predicted to reach around 560 million by the end of 2029. 5G subscriptions in Southeast Asia stood at 61 million at the end of 2023. The 5G subscriber base in the region continues to grow as subscribers migrate to 5G, driven by more affordable 5G devices, promotional plans and large data bundles from service providers. At the end of 2029, 5G mobile subscriptions are expected to reach 43% of all mobile subscriptions in the region. Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

5G is expected to become the dominant mobile access technology by subscription before the end of the forecast period. Although 5G population coverage is growing, 5G mid-band is only deployed in around 25 percent of all sites globally outside of mainland China. The 5G mid-band spectrum provides a sweet spot between both coverage and capacity, while improving user experience. 

The June 2024 Ericsson Mobility Report shows continued strong uptake of 5G subscriptions. About 300 CSPs globally now offer 5G services, of which about 50 have launched 5G Standalone (5G SA).5G continues to grow in all regions and is expected to account for about 60 percent of all mobile subscriptions by the end of 2029. Ericsson isa global leader in 5G and currently powers 162 5G networks in 69 countries across the globe.

The latest report from business consulting firm Frost & Sullivan reaffirms Ericsson’s leadership in the 5G network infrastructure market, which spans radio access networks (RAN), transport networks, and core networks. Ericsson has been ranked as the leader in the Frost Radar™ 5G Network Infrastructure Market 2024 analysis for the fourth consecutive year, highlighting the impact of the company’s strategy to meet the evolving needs of communications service providers (CSPs).

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

  • 5G Innovation and Experience Studio ของอีริคสัน ในโครงการ Thailand Digital Valley จะเป็นฐานรากสำคัญสำหรับการพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ จากการร่วมมือกับพันธมิตรและผู้ให้บริการต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
  • บริษัทฯ เปิดกว้างด้านการร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม
  • พร้อมเผยอีก ปี ยอดผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย

บริษัท อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน 5G อันแข็งแกร่งที่กำลังพัฒนายิ่งขึ้นในประเทศไทย โดยอาศัยโซลูชันเครือข่าย 5G ล้ำสมัย ผสานเข้ากับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่าย 5G ทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้และยั่งยืน ซึ่งทำให้อีริคสันมีความพร้อมเป็นส่วนสำคัญเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคง 

แผนงานหลักประการหนึ่งของอีริคสันเพื่อประเทศไทยคือการจัดตั้ง 5G Innovation and Experience Studio (5GIX Studio) ที่สร้างเสร็จใหม่ในโครงการ Thailand Digital Valley โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

5GIX Studio แห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 5G ร่วมกัน โดยใช้เครือข่ายแซนด์บ็อกซ์ 5G ที่ทันสมัยของอีริคสัน สำหรับห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา ทดสอบ ตรวจสอบ และให้การรับรองยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรจากทั่วโลก

ห้องปฏิบัติการนี้ยังจัดแสดงความหลากหลายของยูสเคส 5G ระดับแถวหน้า รวมถึงหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เครื่องจักรการผลิตอัตโนมัติที่เป็นความร่วมมือกับมิตซูบิชิ และกล้อง CCTV 360 องศา  แบบสวมใส่ได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เผยให้เห็นศักยภาพในการนำเทคโนโลยี 5G มาเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

อีริคสัน ประเทศไทย เปิดกว้างรับความร่วมมือเพิ่มเติมจากผู้มีส่วนร่วมสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตร ผู้ใช้งาน สถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรม

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรม ช่วยให้ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถใช้บริการใหม่ ๆ ได้ โดยเรายังมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่าย 5G ที่ทั้งแข็งแกร่งและมีความยั่งยืน ผมหวังว่า 5G Innovation and Experience Studio ในโครงการ Thailand Digital Valley จะส่งเสริมให้เกิดยูสเคสใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทย และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการอื่น ๆ ในระบบนิเวศ จะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนไทย เศรษฐกิจ และประเทศชาติ

จากรายงาน Ericsson Mobility ที่เพิ่งเผยแพร่ออกไป คาดการณ์ ภายในปี 2029 จำนวนผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย โดย ณ สิ้นปี 2023 มียอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ซึ่งผู้สมัครใช้บริการ 5G ในระดับภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาไม่แพง โปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ  ส่วนลด และแพ็กเกจบันเดิลการใช้ดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการ และคาดว่าในปี 2029 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะเพิ่มสูงถึง 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค และในปี 2029 จะมียอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน เมื่อปี 2023

5G จะกลายเป็นเครือข่ายบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก่อนสิ้นสุดช่วงคาดการณ์ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคลื่นความถี่ 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ 

รายงาน Ericsson Mobility เผยมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั้งหมดกว่า 300 รายทั่วโลก ที่เปิดให้บริการ 5G โดยมี 50 ราย ที่เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2029 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 มีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 160 ล้านราย ณ ปัจจุบันอีริคสันคือผู้นำ 5G ระดับโลก โดยเปิดบริการเครือข่าย 5G ไปแล้วถึง 162 เครือข่าย ใน 69 ประเทศทั่วโลก 

รายงานล่าสุดจาก Frost & Sullivan ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ซึ่งครอบคลุมถึง Radio Access Networks (RAN), Transport Networks และ Core Networks โดยอีริคสันได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ ในรายงานการวิเคราะห์ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ของ Frost Radar™ ประจำปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ตอกย้ำให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากกลยุทธ์บริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs)