Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

    • Ericsson ConsumerLab’s 5G: The Next Wave report is the largest consumer 5G research to date.  
    • Compared to 4G users – 5G users spend an average of one hour per-week more on metaverse-related services, such as gaming in virtual worlds, and augmented reality (AR).  
    • Half of 5G consumers who already use extended-reality (XR) related services believe AR apps will move from smartphones to XR headsets within two years 

As 5G uptake in many parts of the world bridges the milestone from early adopters to mass adoption, major new Ericsson (NASDAQ: ERIC) research – the industry’s largest global study of its kind to date – underlines consumers’ growing commitment to 5G and their expectations on next-generation uses cases. 

Called 5G: The Next Wave, the Ericsson ConsumerLab report addresses the impact 5G has had on early adopter consumers since launching in various countries, as well as gauging the intention of non-5G subscribers to take up the technology – and their related expectations. The report forecasts that at least 30 percent of smartphone users intend to take up a 5G subscription within the next year. 

The mix of Ericsson tracking data covering 5G launches since 2019, and the new consumer survey, has enabled Ericsson ConsumerLab to identify six key trends impacting the next wave of 5G adoption.  

The report covers the behavioral changes triggered by the bundling of digital services into 5G plans by communications service providers – particularly the increased use of enhanced video and augmented reality (AR) apps.   

The report also addresses the speed of mainstream 5G adoption, whether consumer demands are being met, and 5G-related changes in smartphone behavior – and their impact on network traffic.  

More than 49,000 consumers in 37 countries were interviewed in the research – the largest global 5G-related consumer survey in the industry to date and the largest consumer survey conducted by Ericsson on any topic.

The survey scope is representative of the opinions of about 1.7 billion consumers worldwide, including 430 million 5G subscribers. 

Igor Maurell, Head of Ericsson Thailand says: “The scale of the research gives us an authentic insight into consumers’ views and attitudes to 5G. The report shows that the next wave of potential 5G users have different expectations from the technology compared to early adopters. Overall, consumers see engaging with 5G as an essential part of their future lifestyles.” 

He adds: “It is interesting to note that 5G is emerging as an important enabler for early adopters to embrace metaverse-related services, such as socializing, playing and buying digital items in interactive 3D virtual gaming platforms. The amount of time spent on augmented reality apps by 5G users has also doubled over the past two years, compared to 4G users.” 

The report forecasts that 5G consumers with experience of using extended reality (XR) functionality are likely to be the first to embrace future devices as they are more positive about the potential of mixed-reality glasses. Half of 5G users who already use XR-related services weekly think that AR apps will move from smartphones to XR headsets within the next two years, compared to one-third of 4G consumer who hold this view.  

5G – the Next Wave Report: Six key trends 

    • 5G adoption to be inflation resilient: At least 510 million consumers across 37 markets are likely to take up 5G in 2023.  
    • The demanding next wave of users: The next wave of 5G users have high expectations on 5G performance, especially network coverage, compared to early adopters — who care about new innovative services enabled by 5G. 
    • Perceived 5G availability is emerging as the new satisfaction benchmark among consumers. Geographical coverage, indoor/outdoor coverage, and congregation hot-spot coverage are more important to building a user perception than population coverage.  
    • 5G is pushing up usage of enhanced video and augmented reality. Over the past two years, time spent on AR apps by 5G users has doubled to two hours per week. 
    • 5G monetization models are expected to evolve: Six in 10 consumers expect 5G offerings to move beyond more data volume and speeds to on-demand tailored network capabilities for specific needs. 
    • 5G adoption is setting the path to the metaverse. 5G users on average are already spending one hour more per-week in metaverse-related services than 4G users. They also expect two hours of more video content will be consumed weekly on mobile devices, 1.5 hours of which will be on AR/VR glasses by 2025. 

Thailand – According to the study, consumer 5G readiness is high in Thailand. 47 percent of users intend to sign up for 5G subscription in 2023. Furthermore, around 9 in 10 existing 5G users in Thailand say that despite rising costs they are not willing to go back to 4G. This shows a strong inclination towards 5G adoption. 1.5 times of the 5G potential users compared to current users see network coverage as the most important reason for signing up for 5G while 5G early adopters (92%) want more innovative service and devices.  

ผลการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอีริคสัน พบว่า 5G กำลังปูทางไปสู่โลกเมตาเวิร์ส

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

ผลการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอีริคสัน พบว่า 5G กำลังปูทางไปสู่โลกเมตาเวิร์ส

    • นับถึงวันนี้ รายงาน Ericsson ConsumerLab’s 5G: The Next Wave เป็นงานวิจัยด้าน 5G กับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด 
    • ผู้ใช้ 5G ใช้เวลาเฉลี่ยที่หนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์กับบริการบนเมตาเวิร์ส เช่น เกมส์เสมือนจริงและ AR เมื่อเทียบกับผู้ใช้ 4G  
    • ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภค 5G ที่ใช้บริการในกลุ่ม Extended-Reality (XR) เชื่อว่าแอปพลิเคชัน AR ต่าง ๆ จะย้ายจากสมาร์ทโฟนไปสู่อุปกรณ์ XR แบบสวมศีรษะภายใน ปี  

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เปิดรายงานใหม่ครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน ระบุถึงการใช้ 5G ในหลายส่วนของโลกเชื่อมหมุดหมายระหว่างผู้นำกระแส (Early Adopter) ไปสู่การยอมรับในวงกว้าง (Mass Adoption) พร้อมเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและความคาดหวังของพวกเขาต่อเครือข่าย 5G  กับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ในยุคถัดไป 

รายงาน Ericsson ConsumerLab หรือในชื่อ 5G: The Next Wave เผยผลกระทบของเครือข่าย 5G ที่มีต่อผู้บริโภคในกลุ่มผู้นำกระแสจากหลากหลายประเทศ รวมถึงประเมินความตั้งใจและความคาดหวังในการสมัครใช้เครือข่าย 5G ของกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่ได้เป็นผู้ใช้ 5G (Non-5G Subscribers) จากรายงานคาดการณ์ว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างน้อย 30% ตั้งใจสมัครใช้เครือข่าย 5G ภายในปีหน้า

รายงานนี้เป็นการผนวกและติดตามข้อมูลโดยอีริคสัน ครอบคลุมตั้งแต่การเปิดตัว 5G เมื่อปี 2562 ซึ่งการสำรวจผู้บริโภคครั้งล่าสุดนี้ ทำให้รายงาน Ericsson ConsumerLab สามารถระบุถึงแนวโน้มสำคัญ 6 ประการอันส่งผลกระทบต่อการนำ 5G มาใช้งานครั้งใหม่ 

รายงานยังครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่เกิดจากบริการดิจิทัลที่บันเดิลอยู่ในแผนหรือแพ็กเกจ 5G ของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แอปพลิเคชั่นวิดีโอและ AR ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น และในรายงานยังระบุถึงความเร็วในการนำเครือข่าย 5G ไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น การค้นพบความต้องการของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 5G และผลกระทบต่อการ รับ-ส่ง ข้อมูลในเครือข่าย 

งานวิจัยฉบับนี้ได้สัมภาษณ์ผู้บริโภคมากกว่า 49,000 ราย ใน 37 ประเทศ ถือเป็นการสำรวจผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 5G ทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน และเป็นแบบสำรวจผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดที่จัดทำโดยอีริคสันในทุกหัวข้อ ซึ่งขอบเขตในการสำรวจนี้จะเป็นตัวแทนความคิดเห็นของผู้บริโภคประมาณ 1.7 พันล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้เครือข่าย 5G ราว 430 ล้านราย 

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานกรรมการ บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การศึกษาเพิ่มเติมทำให้เราเข้าใจถึงมุมมองและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อเครือข่าย 5G อย่างแท้จริง รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าคลื่นลูกต่อไปของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริการ 5G มีความคาดหวังเทคโนโลยีที่แตกต่างจากเดิมเมื่อเทียบกับผู้ใช้ในกลุ่มผู้นำกระแส และในภาพรวม ผู้บริโภคมองว่าการมีส่วนร่วมกับ 5G เป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ในอนาคตของพวกเขา”  

“น่าสนใจที่ทราบว่าเครือข่าย 5G กำลังกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเปิดใช้งานสำคัญในบริการที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สของกลุ่มผู้นำกระแส อาทิ การเข้าสังคม การเล่น และการซื้อสินค้าดิจิทัลในแพลตฟอร์มเกมเสมือนจริง 3 มิติ แบบอินเตอร์แอคทีฟ นอกจากนี้ระยะเวลาที่ผู้ใช้ 5G ใช้ไปในแอปพลิเคชั่น Augmented Reality ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับผู้ใช้ 4G” มร.อิกอร์ กล่าวเพิ่มเติม 

รายงานยังคาดการณ์ว่าผู้บริโภค 5G ที่มีประสบการณ์ใช้ฟังก์ชัน Extended Reality (XR) จะเป็นผู้ใช้กลุ่มแรกที่เปิดรับอุปกรณ์ในอนาคต เนื่องจากพวกเขามีมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับศักยภาพของแว่นตา Mixed Reality Glasses โดยผู้ใช้ 5G ครึ่งหนึ่งที่ใช้บริการด้าน XR ทุกสัปดาห์คิดว่าแอปพลิเคชั่น AR จะย้ายจากสมาร์ทโฟนไปสู่อุปกรณ์ XR แบบสวมศีรษะภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ เมื่อเทียบกับ 1 ใน 3 ของผู้บริโภค 4G ที่มีมุมมองแบบเดียวกัน

6 แนวโน้มสำคัญในรายงาน 5G – the Next Wave  

    1. การใช้งานบริการ 5G ยังคงจะเติบโตสวนกระแสอัตราเงินเฟ้อ ผู้บริโภคอย่างน้อย 510 ล้านรายใน 37 ตลาดทั่วโลก มีแนวโน้มเปิดใช้งาน 5G ในปีหน้า (2566) 
    2. ความต้องการใช้งานใหม่ ๆ ของผู้ใช้: ผู้ใช้ 5G มีความคาดหวังสูงในด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย 5G โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความครอบคลุมของสัญญาณเครือข่าย ต่างจากผู้ใช้ในกลุ่มผู้นำกระแส ซึ่งสนใจเกี่ยวกับบริการที่เป็นนวัตกรรมที่เปิดใช้งานโดย 5G 
    3. ความพร้อมใช้งาน 5G ที่รับรู้ได้กำลังกลายเป็นมาตรฐานความพึงพอใจใหม่ในหมู่ผู้บริโภค ความครอบคลุมของสัญญาณเครือข่ายทางภูมิศาสตร์ ความครอบคลุมสัญญาณในอาคาร/นอกอาคาร และความครอบคลุมของสัญญาณในจุด Hot-Spot มีความสำคัญต่อการสร้างการรับรู้แก่ผู้ใช้มากกว่าความครอบคลุมของประชากร 
    4. 5G กำลังกระตุ้นการใช้วิดีโอและเทคโนโลยี AR ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมาผู้ใช้ 5G ใช้งานแอปพลิเคชั่น AR เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็นสองชั่วโมงต่อสัปดาห์ 
    5. โมเดลการสร้างรายได้ 5จะพัฒนามีความหลากหลายขึ้น: ผู้บริโภค 6 ใน 10 คาดหวังว่าข้อเสนอเกี่ยวกับ 5G จะมากกว่าแค่เรื่องปริมาณการใช้ข้อมูลและความเร็วที่มากขึ้นไปสู่ความสามารถเครือข่ายตามความต้องการเฉพาะ 
    6. การนำ 5G มาใช้งานกำลังกำหนดเส้นทางไปสู่เมตาเวิร์ส ผู้ใช้ 5G เฉลี่ยใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในบริการที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์ส มากกว่าผู้ใช้เครือข่าย 4G และยังคาดหวังจะใช้เวลาชมเนื้อหาประเภทวิดีโอบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อีกสองชั่วโมงทุกสัปดาห์ โดย 1.5 ชั่วโมงชมผ่านแว่นตา AR/VR ภายในปี 2568 

ประเทศไทย – จากการศึกษาของอีริคสันพบว่า ความพร้อมใช้งาน 5G ของผู้บริโภคในประเทศไทยอยู่ในระดับสูง โดยผู้ใช้ถึง 47% ตั้งใจสมัครใช้ 5G ในปี 2566 และประมาณ 9 ใน 10 ของผู้ใช้ 5G ในปัจจุบันระบุว่า พวกเขาไม่อยากกลับไปใช้เครือข่าย 4G อีก แม้ 5G จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อการนำ 5G ไปใช้งาน มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริการ 5G ประมาณ 1.5 เท่า ของผู้ใช้ 5G ปัจจุบัน โดยมองว่าเครือข่ายที่ครอบคลุมเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดในการสมัครใช้ 5G ขณะที่ผู้ใช้ 5G ในกลุ่มผู้นำกระแส (Early Adopter) 92% ต้องการบริการและอุปกรณ์ดีไวซ์ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น

อีริคสันจัดแสดงนวัตกรรม 5G ล่าสุด ที่งาน Imagine Live Thailand

อีริคสันจัดแสดงนวัตกรรม 5G ล่าสุด ที่งาน Imagine Live Thailand

อีริคสันจัดแสดงนวัตกรรม 5G ล่าสุด ที่งาน Imagine Live Thailand

    • อีริคสันและพันธมิตรในอุตสาหกรรมร่วมมือกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) ในประเทศไทย
    • อีริคสันได้นำบรรยากาศและประสบการณ์ของงาน Mobile World Congress 2022 ครั้งล่าสุดมาจัดแสดงให้ผู้ร่วมงานในประเทศไทยได้รับชม ผ่านการนำเสนอและสาธิตนวัตกรรมล่าสุด ข้อมูลเชิงลึก ข้อเสนอและผลงานต่าง ๆ

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เปิดงาน Imagine Live Thailand 2022 งานแสดงเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร 3 วันเต็ม สำหรับเป็นแพลตฟอร์มทำงานร่วมกันระหว่างพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของประเทศไทยบนพื้นฐานเทคโนโลยี 5G

โดยไฮไลท์ของงาน คือ การมีบทบาทและการมีส่วนร่วมของพันธมิตรมากมายจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน อาทิ สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นความมุ่งมั่นร่วมกันส่งเสริมและเร่งการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในประเทศไทย

อีริคสัน และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) จะร่วมมือกันแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด กลยุทธ์ต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลและไซเบอร์ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

ทั้งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อีริคสันและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ยังได้ลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อผนึกกำลังของทั้งสองหน่วยงานเพื่อส่งมอบความรู้เทคโนโลยี 5G ให้แก่นักศึกษาไทย โดยนักศึกษาของ มจธ. จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงแนวคิดการศึกษาของ ‘Ericsson Educate’ ที่เป็นโครงการริเริ่มด้านการศึกษาออนไลน์ของอีริคสัน ซึ่งจะช่วยเสริมการเรียนรู้ทางเทคนิคอย่างต่อเนื่องให้แก่นักศึกษาของ มจธ. ด้วยหลักสูตรต่าง ๆ ที่เพิ่มพูนทักษะด้านไอซีทีและเตรียมพร้อมนักศึกษาสำหรับการไปทำงานในภาคโทรคมนาคมของประเทศไทย

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อีริคสันจะทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบนิเวศตามวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ในฐานะผู้นำเทคโนโลยี 5G ระดับโลก อีริคสันจะนำเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ล้ำสมัย พร้อมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลกมาสนับสนุนประเทศไทยให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายการหลอมรวมเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมเข้าไว้ด้วยกัน”

ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า “เราจะทำงานร่วมกับอีริคสันในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) ในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ของประเทศไทย โดยภารกิจหลักของเราคือการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเพื่อจัดทำแผนกลยุทธ์สำหรับยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล พร้อมกับส่งเสริมนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของดีป้าในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”

ภายในงาน Imagine Live Thailand 2022 ประกอบด้วยการบรรยายบนเวทีจากผู้นำทางความคิดในวงการ พร้อมพื้นที่การสาธิตเทคโนโลยีที่มอบประสบการณ์โดดเด่น และมีการจัดแสดงนวัตกรรม ข้อมูลเชิงลึก ข้อเสนอล่าสุด รวมถึงผลงานต่าง ๆ ของอีริคสัน

โดยอีริคสันมีการจัดแสดงนวัตกรรมโซลูชันพร้อมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย ประกอบด้วย โซลูชันการสื่อสารผ่านโฮโลแกรม (Holographic Communication) เทคโนโลยีเกษตรกรรมอัจฉริยะในเมตาเวิร์ส (Smart Agricultural Technology in Metaverse) นวัตกรรมสื่อสารที่ต้องการความแม่นยำสูง (Time-Critical Communication) และตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจที่ใช้ 5G จากทั่วโลก

“โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมของเรา ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารเหล่านี้จะช่วยให้สามารถรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมที่เกิดขึ้นได้จากทั่วโลก และเรายังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มเครือข่าย 5G ที่มีศักยภาพสูงในวันนี้นั้นพัฒนาไปสู่ยุค 6G ที่จะนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ พร้อมมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า” มร.อิกอร์ มอเรล กล่าวสรุป

อีริคสันเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ระดับโลก ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G ไปแล้วจำนวน 130 เครือข่าย ใน 56 ประเทศ พร้อมเครือข่าย 5G แบบ Standalone จำนวน 17 เครือข่าย ทั่วโลก

 

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด

อีริคสัน และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จับมือกันเตรียมความพร้อมบุคลากรรับ 5G ในประเทศไทย

อีริคสัน และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จับมือกันเตรียมความพร้อมบุคลากรรับ 5G ในประเทศไทย

อีริคสัน และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จับมือกันเตรียมความพร้อมบุคลากรรับ 5G ในประเทศไทย

    • มุ่งเพิ่มทักษะด้านไอซีทีแก่นักศึกษาไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีระดับโลกและความเป็นผู้นำด้าน 5G ของอีริคสันมาใช้เรียนรู้
    • พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย ตามนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการสร้างบุคลากรรับ 5G

อีริคสัน (NASDAQ : ERIC) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ผนึกกำลังร่วมกันมอบความรู้เทคโนโลยี 5G ให้แก่นักศึกษาไทย โดยนักศึกษาของ มจธ. จะสามารถเข้าถึง ‘Ericsson Educate’ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านการศึกษาออนไลน์ของอีริคสัน เพื่อเตรียมความพร้อมพัฒนาบุคลากรรองรับการขับเคลื่อนไปสู่ Industry 4.0 และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ซึ่งแพลตฟอร์มการเรียนรู้ ‘Ericsson Educate’ จะช่วยส่งเสริมการเรียนทางเทคนิคของนักศึกษาอย่างต่อเนื่องด้วยหลักสูตรต่าง ๆ ที่เพิ่มพูลทักษะด้านไอซีที และเตรียมพร้อมนักศึกษาสำหรับการไปทำงานในภาคโทรคมนาคม

‘Ericsson Educate’ เป็นพอร์ทัลทักษะดิจิทัลที่ให้บริการสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหลัก ๆ รวมถึง 5G และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ระบบอัตโนมัติ (Automation), บล็อกเชน (Blockchain), คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science), อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) และ โทรคมนาคม (Telecommunication) ซึ่งเนื้อหาการเรียนรู้จากพอร์ทัล ‘Ericsson Educate’ จะช่วยให้นักศึกษาและคณาจารย์เข้าถึงแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพผ่านประสบการณ์ 145 ปีด้านโทรคมนาคมและไอซีทีของอีริคสัน

อีริคสันจะเปิดให้บริการแก่นักศึกษาของ มจธ. ในคณะวิศวกรรมศาสตร์และนวัตกรรม โดย มจธ.จะผนวกหลักสูตรต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพอร์ทัลของ Ericsson Educate เข้ากับหลักสูตรที่เปิดสอนอยู่ให้นักศึกษาสามารถใช้เป็นรายวิชาเรียนรู้เก็บหน่วยกิต เพื่อรับวุฒิการศึกษาและใบรับรองหลักสูตร นอกจากนี้อีริคสันจะจัดวิทยากรรับเชิญที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านการคัดเลือกจาก มจธ. ล่วงหน้า และคาดว่าในปีแรกเพียงปีเดียวจะมีนักศึกษาประมาณ 2,000 คนจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้

มร. อิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การร่วมมือกับ มจธ. ถือเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของความร่วมมือทางวิชาการในอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากรรองรับ 5G ในประเทศไทย ซึ่งการเสริมเนื้อหาการศึกษาของ Ericsson Educate อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของอีริคสัน จะเสริมสร้างทักษะและความรู้ด้านไอซีทีแก่นักศึกษาได้อย่างแข็งแกร่ง”

“ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการเร่งผลักดันประเทศเดินหน้าไปสู่ยุค Industry 4.0 ผ่านการเพิ่มพูลทักษะและเตรียมความพร้อม 5G ให้แก่บุคลากรที่มีความสามารถ” มร.อิกอร์ กล่าวเสริม

รศ. ดร. สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า “การเติมเต็มช่องว่างระหว่างทักษะของพนักงานด้านไอซีทีกับทักษะที่บริษัทไอซีทีต้องการมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการทักษะแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับอีริคสันเพื่อจัดการกับช่องว่างของทักษะที่ยังขาดอยู่ และเตรียมพร้อมนักศึกษาในเรื่อง 5G เพื่อให้พวกเขาสามารถมีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล”

มจธ. จะมอบหมายคณาจารย์และทีมงานผู้สอนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้ และส่งเสริมการมอบปริญญาออนไลน์ให้กับนักศึกษาของเรา รวมถึงนักศึกษาที่เป็นบุคคลทั่วไปในประเทศไทย อีริคสันจะร่วมมือกับ มจธ. บูรณาการหลักสูตรและสื่อการสอนที่มีอยู่แล้วใน Ericsson Educate เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรของมหาวิทยาลัยฯ สำหรับหลักสูตรออนไลน์ที่ไม่ใช่ปริญญา หลักสูตร Micro Credential และหลักสูตรปริญญา โดยอีริคสันจะอบรมคณาจารย์ของ มจธ. ผ่านเว็บบินาร์ต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนและเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาที่สอน

อีริคสัน ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยมายาวนานถึง 116 ปี สนับสนุนความก้าวหน้าของประเทศผ่านโมบายล์เจนเนอเรชั่นหลากหลาย ตั้งแต่ 2G ,3G ,4G และ 5G ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในทุก ๆ ด้านของวงการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศ

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยปีนี้ยอดผู้ใช้งาน 5G จะพุ่งแตะ 1 พันล้านบัญชี และจะเพิ่มเป็น 4.4 พันล้านบัญชี ในปี 2570

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยปีนี้ยอดผู้ใช้งาน 5G จะพุ่งแตะ 1 พันล้านบัญชี และจะเพิ่มเป็น 4.4 พันล้านบัญชี ในปี 2570

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยปีนี้ยอดผู้ใช้งาน 5G จะพุ่งแตะ 1 พันล้านบัญชี และจะเพิ่มเป็น 4.4 พันล้านบัญชี ในปี 2570

    • ปริมาณการใช้งานดาต้าบนมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปี 2570 จะมียอดผู้ใช้บริการ 5G สูงถึง 4.4 พันล้านบัญชี  
    • คาดว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมียอดการใช้งานดาต้าต่อสมาร์ทโฟนเติบโตพุ่งสูงแตะ 45 กิกกะไบท์ (GB) ต่อเดือน ในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี
    • ในปี 2570 60% ของการใช้ดาต้าบนมือถือทั่วโลกจะอยู่บนเครือข่าย 5G

ในปี 2565 คาดว่ายอดผู้สมัครใช้งาน 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มขึ้นสองเท่า จาก 15 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2564  ตามที่ระบุไว้ในรายงาน Ericsson Mobility Report ของอีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ฉบับล่าสุด และยังได้คาดการณ์ไว้อีกว่า ภายในสิ้นปี 2565 จะมียอดสมัครใช้บริการ 5G ทั่วโลกมากถึงหนึ่งพันล้านบัญชี

ภายในไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีการปรับใช้งานเครือข่ายมากขึ้นคาดว่าจะทำให้การสมัครใช้บริการ 5G จะเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ (CAGR) 83% ตลอดช่วงระยะเวลาคาดการณ์ซึ่งจะเพิ่มขึ้นแตะ 570 ล้านบัญชี ภายในปี 2570

ตัวเลขดังกล่าวนี้เกือบเท่ากับจำนวนการสมัครใช้บริการ 4G ทั้งหมดในภูมิภาคในช่วงเวลานั้น โดยปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือต่อสมาร์ทโฟนยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและคาดว่าจะพุ่งแตะ 45 กิกกะไบท์ (GB) ต่อเดือน ภายในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 30% โดยการใช้งาน 5G ที่กว้างขึ้นและบริการ XR ใหม่ จะช่วยผลักดันการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตในช่วงหลังของระยะเวลาคาดการณ์ของอีริคสันจนถึงปี 2570

Igor Maurell, Head of Ericsson Thailand

มร. อิกอร์ มอเรล  ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านจำนวนผู้ใช้บริการและปริมาณการใช้งาน 5G โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมียอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แตะระดับ 45 กิกกะไบท์ (GB) ต่อเดือน ภายในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ยที่ 30% ต่อปี จากตลาดในประเทศไทยมีความไดนามิกสูงมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่เป็น Tech Savvy ระดับต้น ๆ ของโลก”

“อีริคสันดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลานานและเรายังมุ่งมั่นเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงและนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพให้แก่ประเทศไทย เราพร้อมร่วมพัฒนาระบบนิเวศ 5G ของประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จาก 5G ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี XR/AR การเล่นเกมบนคลาวด์ และช่วยเหลือองค์กรต่าง ๆ เร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการนำเสนอคลื่น 5G ทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง ในประเทศไทย ที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เต็มไปด้วยสมรรถนะของสัญญาณ ความครอบคลุม และความเร็วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ 5G ในประเทศไทย”

คาดว่าในปี 2570 ภูมิภาคอเมริกาเหนือจะกลายเป็นผู้นำโลกด้านการสมัครใช้บริการ 5G โดยจากยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือในทุก ๆ 10 รายจะมีผู้สมัครใช้ 5G ถึง 9 ราย

จากไทม์ไลน์ปี 2570  มีการคาดการณ์เกี่ยวกับ 5G ที่น่าสนใจตามภูมิภาคต่าง ๆ  อาทิ ในยุโรปตะวันตก มีสัดส่วนการสมัครใช้บริการ 5G ที่ 82% ขณะที่ในภูมิภาคของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) มีสัดส่วนอยู่ที่ 80% และ 74% ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ 

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเป็นฉบับที่ 22 ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและการคาดการณ์ที่น่าสนใจ พร้อมยังเผยให้เห็นว่าปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา 

การเติบโตของยอดการใช้ดาต้านี้ได้รับแรงหนุนมาจากปริมาณการใช้สมาร์ทโฟนและบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตบนมือถือที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของภาคสังคมและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปสู่ดิจิทัล สถิติและการคาดการณ์ล่าสุดยังสะท้อนถึงความต้องการเชื่อมต่อข้อมูลและบริการดิจิทัลอย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีการระบาดของโควิด-19 และความไม่แน่นอนของภูมิศาสตร์ทางการเมืองเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ก็มีผู้คนหลายร้อยล้านคนสมัครใช้งานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตบนมือถือใหม่ทุกปี

รายงาน Ericsson Mobility Report เดือนมิถุนายน ปี 2565 ตอกย้ำให้เห็นว่าการเติบโตของ 5G เป็นเจนเนอเรชั่นเครือข่ายไร้สายที่มีการนำมาใช้งานรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีมือถือรุ่นก่อน ๆ ทั้งหมด โดยเวลานี้หนึ่งในสี่ของประชากรโลกสามารถเข้าถึงเครือข่าย 5G ได้ และเพียงช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 มีจำนวนการสมัครใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นประมาณ 70 ล้านบัญชี ซึ่งตามรายงานยังระบุว่า ภายในปี 2570 ประชากรทั่วโลกสามในสี่จะสามารถเข้าถึง 5G ได้ 

ในรายงานยังได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการเชื่อมต่อความเร็วสูงแบบ Fixed Wireless Access (FWA) ที่มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการให้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต โดยอีริคสันคาดการณ์ว่า ในปี 2565 นี้ จะมีการเชื่อมต่อแบบ FWA เกิน 100 ล้านจุด และจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2570 แตะระดับ 230 ล้านจุด

ในส่วนของ Internet of Thing  (IoT) ตามรายงานระบุว่าในปี 2564 บรอดแบนด์ IoT (4G/5G) แซงหน้า 2G และ 3G กลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมสัญญาณเซลลูลาร์แบบ IoT มากที่สุด หรือคิดเป็น 44% ของการเชื่อมต่อทั้งหมด

เทคโนโลยีเชื่อมต่อ IoT (NB-IoT, Cat-M) เพิ่มขึ้นเกือบ 80% ช่วงปี 2564 โดยมีการเชื่อมต่อแตะ 330 ล้านจุด และคาดว่าจำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้จะแซงหน้าเทคโนโลยี 2G/3G ภายในปี 2566