ครั้งแรกของการนำเทคโนโลยีระบบหลัก ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว มาทำงานบนอาลีบาบา คลาวด์

ครั้งแรกของการนำเทคโนโลยีระบบหลัก ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

ครั้งแรกของการนำเทคโนโลยีระบบหลัก ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว มาทำงานบนอาลีบาบา คลาวด์

อาลีบาบา สนับสนุนระบบดิจิทัลให้กับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว เพิ่มประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และความทั่วถึง

ด้วยความมุ่งมั่นของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในการนำระบบดิจิทัลมาใช้ ทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง ประจำปี 2022 (ปักกิ่งเกมส์ 2022) ประสบความสำเร็จในการนำบริการทางเทคโนโลยีที่ใช้ในการแข่งขันไปทำงานบนอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป  การโยกย้ายเทคโนโลยีหลักของปักกิ่งเกมส์ไปทำงานบนอาลีบาบา คลาวด์ ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานและผู้รับชมทั่วโลกได้รับความปลอดภัย ด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้น ยั่งยืน และครบถ้วนทั่วถึง

Jeff Zhang ประธานอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “ปักกิ่งเกมส์ 2022 ไม่เพียงแต่จะได้รับการจดจำถึงเรื่องความตื่นเต้นและความสำเร็จอันน่าทึ่งของเหล่านักกีฬาจากทั่วโลก แต่ยังรวมไปถึงการจัดการรูปแบบใหม่ในการแข่งขัน เพื่อทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และครอบคลุม เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และเราหวังว่าประสบการณ์ของเราในการเป็นผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการหลักของปักกิ่งเกมส์ 2022 ด้วยอาลีบาบาคลาวด์ จะเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ในอนาคต”

ช้สมรรถนะที่ล้ำหน้าของคลาวด์เพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้จัดงาน

IOC และ คณะกรรมการผู้จัดงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ปักกิ่งเกมส์ (BOCOG) ได้ดำเนินงานตามแผนแม่บทการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว รวมถึงการใช้งานระบบปฏิบัติการหลักที่ให้บริการโดย Atos ผู้เป็นพันธมิตรด้านไอทีระดับโลกของ IOC เช่น ระบบการจัดการเกม (Game Management System -GMS) ระบบการจัดการโอลิมปิก (Olympics Management System – OMS) และระบบกระจายข้อมูลโอลิมปิก (Olympics Distribution System – ODS) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของอาลีบาบา

ปักกิ่งเกมส์ 2020 ได้รับประโยชน์จากความสำเร็จในการใช้บริการต่าง ๆ ที่ทำงานบนคลาวด์ สามารถลดเวลาและลดการลงทุนด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานไอที ฮาร์ดแวร์ และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกัน  ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาดแบบเรียลไทม์ที่ล้ำหน้าของคลาวด์ ช่วยให้สามารถวางแผนงานและบริหารจัดการปักกิ่งเกมส์ 2022 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและทันสมัย เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ผู้จัดงานต่าง ๆ เช่น IOC สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เช่น ความสามารถในการปรับขนาดการทำงาน ความเชื่อถือได้ และความปลอดภัย เพื่อลดความซับซ้อนของการวางแผนการแข่งขัน โดยทำการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ จากข้อมูลที่วิเคราะห์มาแล้วอย่างชาญฉลาด ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทรัพยากรที่มีอยู่ และการสร้างทรัพยากรใหม่ และนั่นทำให้เมืองที่เป็นเจ้าภาพสามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบเดิมได้ตั้งแต่เริ่มต้น

เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกใกล้ชิดกันมากขึ้น

ปักกิ่งเกมส์ 2022 ยังได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนากลุ่มนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่นำมาซึ่งการมอบประสบการณ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นให้กับแฟนกีฬาที่อยู่ในสถานที่ต่าง ๆ  โดยอาลีบาบา ได้เปิดตัว Cloud ME ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการฉายภาพเสมือนจริงที่ใช้คลาวด์เป็นพลังขับเคลื่อน และช่วยให้การปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันจากระยะไกลทำได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เทคโนโลยีนี้ท้าทายข้อจำกัดด้านระยะทาง ด้วยการทำให้ผู้คนพบและสนทนากันได้เสมือนจริง ทั้งจากการฉายภาพขนาดเท่าตัวจริง และเสมือนอยู่ในสถานที่เดียวกัน

อาลีบาบายังได้เปิดตัว ตง ตง (Dong Dong) เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์วัย 22 ปี ตง ตง เป็นหญิงสาวชาวปักกิ่ง ที่สร้างขึ้นเพื่อให้สามารถโต้ตอบกับแฟน ๆ กีฬาทั่วโลก ร่วมแบ่งปันความสนุกสนานและข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก ด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้หลากหลาย ช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 20 กุมภาพันธ์ มีผู้รับชมการถ่ายทอดสดของ ตง ตง กว่า 2 ล้านคน และ ตง ตง มีแฟนคลับมากกว่า 100,000 คน

เพื่อนำเสนอเนื้อหาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ดีที่สุดแก่ผู้ชมทั่วโลก เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งของอาลีบาบายังสนับสนุน Olympic Channel Services ที่จะนำโปรแกรมการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาคุณภาพสูงมาสู่แฟน ๆ กีฬาทั่วโลก เพื่อให้มีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้จากทุกที่ ทุกเวลา และจากทุกอุปกรณ์

นวัตกรรมที่ยั่งยืนสำหรับโอลิมปิกในอนาคต

นับเป็นครั้งแรกที่มีการกระจายสัญญาณสดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกผ่านระบบคลาวด์ ทำให้ผู้ออกอากาศที่ซื้อสิทธิ์ทางโทรทัศน์และวิทยุในการแข่งขัน (Rights Holding Broadcasters: RHBs)  มีตัวเลือกที่มีความคล่องตัวและคุ้มค่า ตลอดช่วงการแข่งขันปักกิ่งเกมส์ OBS ได้ทำการผลิตฟุตเทจที่มีความยาวรวมกว่า 6,000 ชั่วโมง และแพร่ภาพและเสียงไปยังพื้นที่และประเทศต่าง ๆ มากกว่า 220 แห่ง

OBS Video Server ซึ่งติดตั้งทำงานอยู่บนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้ RHBs สามารถปรับขนาดการทำงานของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังลดการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ที่ต้องติดตั้งไว้ ณ หน้างาน นอกจากนี้ Content+ ยังช่วยให้ RHBs สามารถเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดที่ผลิตระหว่างการแข่งขันได้จากระยะไกล และการรายงานข่าวจากระยะไกลได้อย่างไม่ยุ่งยาก  การใช้ OBS Live Cloud ยังช่วยให้ RHBs และเมืองที่เป็นเจ้าภาพจัดงานมีทางเลือกอื่นนอกจากการต้องลงทุนจำนวนมาก การที่สามารถส่งข้อมูลและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันโอลิมปิกผ่านพับลิคคลาวด์ได้นั้น เป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการทำงานที่เกี่ยวกับการแพร่ภาพกระจายเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ OBS ยังใช้ประสิทธิภาพจากการเล่นภาพซ้ำจากมุมกล้องหลาย ๆ ตัวของอาลีบาบา ในการฉายภาพซ้ำของไฮไลท์ในการแข่งขันกีฬา เช่น มุมเลี้ยวและความเร็วในการแข่งขันสเก็ตที่เกิดขึ้นในไม่กีวินาทีนำประสบการณ์การรับชมที่สมจริง และมีชีวิตชีวามาสู่ผู้ชมทั่วโลกผ่าน RHBs บนคลาวด์

Ilario Corna ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของ IOC กล่าวว่า “นวัตกรรมในปักกิ่งเกมส์ 2022 เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับความสำเร็จด้านกีฬา ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้ในปักกิ่งเกมส์ ที่ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์กับนักกีฬา แฟนกีฬา และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้เกียรติกับความปรารถนาอันแรงกล้าของเราที่จะทำให้การแข่งขันโอลิมปิกเป็นการจัดการแข่งขันกีฬาที่อยู่ในระดับแนวหน้าที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน”

การถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกผ่านระบบคลาวด์ นำนวัตกรรม และประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วม

การถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกผ่านระบบคลาวด์

การถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกผ่านระบบคลาวด์ นำนวัตกรรม และประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วม

    • ใช้สัญญาณการถ่ายทอดสดแบบ Live Cloud ครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้
    • ใช้เทคโนโลยีเอดจ์คลาวด์ในการถ่ายวิดีโอที่สมจริงเป็นครั้งแรก
    • ลดการใช้บุคลากร ณ หน้างาน ด้วยระบบการทำงานจากระยะไกลผ่านคลาวด์ที่ยืดหยุ่นกว่า

อาลีบาบา คลาวด์ ร่วมมือกับหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิก (Olympic Broadcasting Services: OBS) นำเทคโนโลยีคลาวด์ของอาลีบาบามาใช้ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่งเกมส์ 2022 เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การแพร่ภาพกระจายเสียงมีประสิทธิภาพมากขึ้น สนับสนุนให้สามารถรายงานข่าวการแข่งขันต่าง ๆ ไปยังแฟนกีฬาทั่วโลกได้อย่างครอบคลุมในวงกว้าง

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ เป็นครั้งแรกที่องค์กรที่ออกอากาศทั้งหมดที่ซื้อสิทธิ์ทางโทรทัศน์และวิทยุในการแข่งขัน (Rights-Holding Broadcasters: RHBs) สามารถรับภาพและเสียงจากการถ่ายทอดสดผ่านโครงสร้างพื้นฐานพับลิคคลาวด์ที่เป็นทางเลือกที่มีความคล่องตัวมากกว่า ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับวิธีการส่งสัญญาณแบบอื่น นอกจากนี้ โซลูชันเอดจ์คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของอาลีบาบา ยังช่วยให้แฟนกีฬาทั่วโลกได้รับประสบการณ์การรับชมจังหวะการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นอย่างสมจริงจากมุมที่ดีที่สุดหลากหลายมุมมอง

อาลีบาบา คลาวด์

ถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านคลาวด์เป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

Yiannis Exarchos ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OBS ให้ความเห็นว่า “แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แต่ความร่วมมือของเรากับอาลีบาบา คลาวด์ ก็ได้เปลี่ยนวิธีการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของเราอย่างต่อเนื่อง OBS Cloud คือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ลุ่มลึกที่สุด ซึ่งนอกจาก OBS Cloud จะมอบประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่องค์กรแพร่ภาพกระจายเสียงแล้ว ยังเปิดโอกาสด้านนวัตกรรมอย่างไร้ขอบเขต และถ่ายทอดความตื่นเต้นของกีฬาโอลิมปิกสู่ผู้ชมในวงกว้างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

Live Cloud สำหรับการถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์

ในระหว่างการแข่งขันกีฬาปักกิ่งเกมส์ 2022 องค์กรผู้เผยแพร่ภาพกระจายเสียงมากกว่า 20 แห่งใช้ Live Cloud เพื่อรับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ในรูปแบบความคมชัดสูงพิเศษ (UHD) หรือความคมชัดสูง (HD) ผ่าน OBS Cloud เป็นครั้งแรกในการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่มีการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการส่งข้อมูลการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก และสามารถแข่งขันกับโซลูชันเดิม ๆ เช่น จากส่งผ่านสายโทรคมนาคม หรือจากการส่งข้อมูลผ่านดาวเทียม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาลีบาบา คลาวด์

ถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านคลาวด์เป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

Live Cloud เป็นส่วนหนึ่งของ OBS Cloud ซึ่งเป็นโซลูชันการถ่ายทอดสดที่มีประสิทธิภาพที่สร้างสรรค์โดย OBS และอาลีบาบา มีการนำ Live Cloud มาเป็นบริการมาตรฐานให้กับ RHBs ในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ณ กรุงปักกิ่ง  ก่อนหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ผู้ทำการถ่ายทอดสดจะต้องพึ่งพาวงจรออปติคัลโทรคมนาคมระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งใช้เวลาในการตั้งค่าอุปกรณ์ เพื่อส่งข้อมูลการถ่ายทอดสดกลับไปยังประเทศของตน ในปัจจุบัน OBS ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับขนาดได้ และปลอดภัยสูงของอาลีบาบาคลาวด์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ทำให้ OBS สามารถนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงต่าง ๆ ทั้งหมดผ่านระบบพับลิคคลาวด์โดยใช้เวลาในการตั้งค่าเพียงไม่นานและมีค่าใช้จ่ายไม่มาก

ประสิทธิภาพของระยะเวลาในการตอบสนองที่ต่ำและมีความยืดหยุ่นสูงของคลาวด์ ช่วยให้การส่งเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านระบบคลาวด์กำลังจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าวิธีการกระจายเนื้อหาแบบอื่น ในแง่ของความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และค่าใช้จ่าย ซึ่งจะส่งผลกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกอากาศของผู้แพร่ภาพกระจายเสียงอย่างมีนัยสำคัญ และด้วยความเสถียร ความยืดหยุ่น และความคล่องตัวของระบบคลาวด์ทั่วโลก ยังช่วยให้มั่นใจถึงคุณภาพในการออกอากาศ แม้ในช่วงเวลาที่มีคนชมการสตรีมสดการแข่งขันเป็นจำนวนมากก็ตาม

OBS ยังใช้ประโยชน์สูงสุดจากความคล่องตัวของ Live Cloud เพื่อส่งผ่านข้อมูลบนคลาวด์ ด้วยการใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงเลือกได้ว่าจะรับข้อมูลจากฟีดไหนได้ในเวลาที่ต้องการ

Selina Yuan ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Alibaba Cloud Intelligence กล่าวว่า “การส่งข้อมูลสดผ่านระบบคลาวด์เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับผู้ให้บริการถ่ายทอดสดที่ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวได้ด้วยตนเอง หรือต้องลงทุนจำนวนมากในโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กร เราหวังว่าเทคโนโลยีคลาวด์จะไม่เพียงช่วยลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศ แต่ยังสนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวได้อย่างครอบคลุม เนื่องด้วย RHBs ต่างๆ สามารถเข้าถึงฟุตเทจสดและเลือกฟีดที่ต้องการเพื่อถ่ายทอดออกไปได้ สุดท้ายนี้ เราหวังว่าแฟน ๆ กีฬาทั่วโลกจะเพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้”

Multi-Camera Replay System และ High-Quality Reconstruction on Cloud

OBS และอาลีบาบาได้ติดตั้งระบบ multi-camera replay สำหรับการเล่นซ้ำแบบสโลว์โมชันที่สามารถหยุดเฟรมระหว่างการแข่งขันได้ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่มีชีวิตชีวาและมีส่วนร่วมกับปักกิ่งเกมส์ 2022 มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่การออกอากาศในโอลิมปิกครั้งนี้ใช้เวิร์กโฟลว์บนคลาวด์สำหรับการเผยแพร่ซ้ำ (replay) ทำให้แฟน ๆ กีฬาทั่วโลกได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้นจากหลากหลายมุมมองจากมุมกล้องที่ติดตั้งไว้ทั่วสนามแข่งขัน

อาลีบาบา คลาวด์

ระบบ multi-camera replay สำหรับการเล่นซ้ำแบบสโลว์โมชันที่สามารถหยุดเฟรมระหว่างการแข่งขันได้

โซลูชันเอดจ์ คลาวด์ ที่มีประสิทธิภาพสูงของอาลีบาบา ช่วยให้ภาพฟุตเทจสดของวงเลี้ยวและความเร็วของสเก็ตจากหลายมุมมองได้รับการบันทึกและรวบรวมผ่านเอดจ์ คลาวด์ เพื่อการประมวลผลและการตัดต่อแบบเรียลไทม์ ก่อนที่จะนำช่วงเวลาที่คัดสรรแล้วไปเผยแพร่ซ้ำผ่านฟีดรูปแบบต่าง ๆ และการสร้างช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดขึ้นมาใหม่อย่างราบรื่นนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการเตรียมพร้อมในระบบคลาวด์และผสานรวมเป็นส่วนหนึ่งเดียวในการถ่ายทอดสด

สำหรับการรายงานข่าวที่ต้องใช้เวลารวดเร็วและเจาะจงในแต่ละวัน เช่น ไฮไลท์ หรือเหตุการณ์สำคัญของวันนั้น ๆ สามารถประมวลผลฟุตเทจบนคลาวด์ที่ใช้กับ Intel’s 3rd Gen Xeon Scalable processors เพื่อสร้างการแสดงภาพ 3 มิติคุณภาพสูงของการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ด้วยความละเอียดระดับ 4K ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การรับชมที่สมจริงและน่าสนใจมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ที่ผ่านการทดสอบแล้วของอาลีบาบาร่วมกับพลังการประมวลผลของ Intel ทำให้สามารถเรนเดอร์ซีน 3 มิติที่เสมือนจริงได้ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาที

Live Content Editing และ Remote Production

Content+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดส่งเนื้อหาของ OBS ที่โฮลต์บนระบบคลาวด์ของอาลีบาบาจะยังคงให้บริการการออกอากาศกับ RHBs อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การเข้าถึง short-form content ไลฟ์สตรีมแบบ HD รวมถึงเนื้อหาเพิ่มเติมที่ผลิตโดย OBS ทั้งหมด ในระดับความละเอียดสำหรับการรับชมและการดาวน์โหลด ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว มีการคาดการณ์ว่า OBS จะผลิตเนื้อหามากกว่า 6,000 ชั่วโมง เพื่อให้ RHBs ได้รับเนื้อหาต่าง ๆ รวมถึงการถ่ายทอดสดกีฬาและพิธีการ 900 ชั่วโมง และฟุตเทจการแข่งขันกีฬาอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก 1,200 ชั่วโมงผ่าน Multi Clip Feeds – ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากจำนวนการแข่งขันกีฬาที่เกิดขึ้นที่ PyeongChang 2018

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ RHBs สามารถสร้างคลิปย่อย ๆ จากไลฟ์เซสชันบน Content+ ได้ โดยอนุญาตให้สามารถทำการเริ่มตัดต่อในขณะที่การสตรีมสดกำลังออกอากาศ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการทำงานจากระยะไกลในการจัดการกับเนื้อหาจำนวนมาก พร้อมทั้งทำการผลิตคลิปสำหรับการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย OBS จะใช้วิธีการตัดต่อข้อมูลบนคลาวด์เพื่อเพิ่มความเร็วของการจัดการเผยแพร่ข้อมูลด้วยทีมบรรณาธิการที่ทำงานจากระยะไกลเป็นครั้งแรก

ด้วยแรงผลักดันจากการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นของการต้องทำงานจากระยะไกลโดยใช้บริการบนคลาวด์ และจากผลกระทบของการแพร่ระบาดทั่วโลกนี้ ขนาดของทีมงานที่ทำการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวจึงลดลงอย่างมาก  ทั้งนี้จำนวนบุคลากรทำหน้าที่กระจายภาพและเสียง ณ หน้างานที่ปักกิ่งเกมส์ 2022 ลดลงเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว PyeongChang 2018

ชมวิดีโอเกี่ยวกับ OBS Cloud ได้ที่นี่ https://www.alizila.com/media-resource/b-roll-handout-olympic-broadcasting-services-on-the-cloud-at-beijing-2022/  และวิดีโอเกี่ยวกับ Camera Replay System ได้ที่นี่ https://www.alizila.com/media-resource/b-roll-handout-alibaba-cloud-multi-camera-replay-system-at-beijing-2022/

อาลีบาบาเปิดตัว ตง ตง ‘เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์’ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่งเกมส์ 2022

อาลีบาบาเปิดตัว ดอง ดอง 'เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์'

อาลีบาบาเปิดตัว ตง ตง 'เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์' ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่งเกมส์ 2022

ตง ตง ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI เปิดตัวครั้งแรก ณ โอลิมปิกฤดูหนาว ด้วยการเข้าร่วมการสตรีมสดกับแฟน ๆ โอลิมปิก

อาลีบาบา กรุ๊ป พันธมิตรระดับโลกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เปิดตัว ตง ตง (Dong Dong) เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์ใหม่ล่าสุด ณ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2556 ที่กรุงปักกิ่ง อาลีบาบาใช้เทคโนโลยีคลาวด์สร้าง Dong Dong ให้เป็นแบบจำลองบุคคลแบบดิจิทัลที่ล้ำหน้า เพื่อให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับแฟน ๆ กีฬาทั้งหลาย นับว่าเป็นการนำศักยภาพของนวัตกรรมที่ทำงานบนคลาวด์มาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

Dong Dong พัฒนาโดย Alibaba DAMO Academy ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยระดับโลกของอาลีบาบา กรุ๊ป Dong Dong เป็นแบบจำลองของหญิงสาววัย 22 ปีที่เกิดในกรุงปักกิ่ง มีความกระตือรือร้น กล้าพูด และชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว Dong Dong เป็นที่รู้จักจากรูปพรรณสัณฐานที่เสมือนมนุษย์จริงอย่างมาก มีบุคลิกที่มีเสน่ห์ และมีความพิเศษในการโต้ตอบและเข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้ชม ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับแฟน ๆ กีฬาโอลิมปิก โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี

อาลีบาบา กรุ๊ป พันธมิตรระดับโลกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เปิดตัวดอง ดอง (Dong Dong) เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์ใหม่ล่าสุด ณ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2556 ที่กรุงปักกิ่ง อาลีบาบาใช้เทคโนโลยีคลาวด์สร้าง Dong Dong ให้เป็นแบบจำลองบุคคลแบบดิจิทัลที่ล้ำหน้า เพื่อให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับแฟน ๆ กีฬาทั้งหลาย นับว่าเป็นการนำศักยภาพของนวัตกรรมที่ทำงานบนคลาวด์มาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมากขึ้น Dong Dong พัฒนาโดย Alibaba DAMO Academy ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยระดับโลกของ อาลีบาบา กรุ๊ป Dong Dong เป็นแบบจำลองของหญิงสาววัย 22 ปีที่เกิดในกรุงปักกิ่ง มีความกระตือรือร้น กล้าพูด และชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว Dong Dong เป็นที่รู้จักจากรูปพรรณสัณฐานที่เสมือนมนุษย์จริงอย่างมาก มีบุคลิกที่มีเสน่ห์ และมีความพิเศษในการโต้ตอบและเข้าไปมีส่วนร่วมกับผู้ชม ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับแฟน ๆ กีฬาโอลิมปิก โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี

Dong Dong มีความสามารถมากมาย นอกจากจะสามารถโปรโมทสินค้าที่ระลึกงานกีฬาโอลิมปิกที่สามารถซื้อหาได้ในร้านขายสินค้าโอลิมปิกอย่างเป็นทางการในประเทศจีน บน Tmall ระหว่างการถ่ายทอดสดการแสดงต่าง ๆ ของเธอแล้ว เธอยังสามารถตอบคำถามด้วยเสียงที่เหมือนเสียงธรรมชาติของมนุษย์ตามความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา และสามารถแสดงอิริยาบทต่าง ๆ เช่น ยกนิ้วโป้ง โพสต์ท่านิ้วมือเป็นรูปหัวใจ และเช็ดน้ำตาเมื่อเกิดความผิดหวังได้อีกด้วย นอกจากนี้ Dong Dong ยังสามารถนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจต่าง ๆ เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิกด้วยอิริยาบถที่สนุกสนานแก่ผู้ชม รวมถึงแสดงท่าเต้นที่ร่าเริงและกระตือรือร้นไปพร้อมกับเพลงประกอบโอลิมปิก เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ของ Dong Dong ล้วนขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลบนระบบคลาวด์

เสี่ยวหลง ลี, Leader of Alibaba Virtual Human & Intelligent Customer Service กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อยกระดับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวให้เข้าสู่โลกดิจิทัล พร้อมทั้งส่งมอบประสบการณ์กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวแก่แฟน ๆ กีฬาโอลิมปิกอย่างสร้างสรรค์ ผ่านการให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์และอีคอมเมิร์ซ นั่นเป็นเหตุผลที่เราพัฒนา Dong Dong ขึ้นมาด้วยความหวังว่า เวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์คนนี้ จะช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเยาวชนที่ใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลด้วยวิธีที่น่าตื่นเต้นและเป็นธรรมชาติ”

อาลีบาบา สร้างโมเดล AI แบบเฉพาะเจาะจงบนคลาวด์ ซึ่งใช้ Text to Speech เพื่อสังเคราะห์เสียงต่าง ๆ ของมนุษย์ และใช้เทคโนโลยีแบบสามมิติ เพื่อจำลองการแสดงออกทางสีหน้าที่สมจริง และการเคลื่อนไหวร่างกายที่เป็นธรรมชาติ เพื่อทำให้ Dong Dong มีบุคลิกที่ไดนามิก มีเสน่ห์และดึงดูดใจเสมือนคนจริง ๆ และมีเสียงที่เป็นธรรมชาติ Dong Dong ใช้เทคโนโลยี AI และคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทำให้สามารถมอง พูด และแสดงท่าทางเหมือนหญิงสาวทั่วไปได้อย่างมีชีวิตชีวา ในขณะเดียวกัน  มีการนำอัลกอริธึมหลากหลายของอาลีบาบา ซึ่งใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP), การสังเคราะห์คำพูดตามอารมณ์ความรู้สึก (Emotional Speech Synthesis) และคอมพิวเตอร์วิชันบนคลาวด์ มาใช้ร่วมกันทำให้ Dong Dong “ฉลาด” เพียงพอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์ ด้วยสคริปต์ทั้งหมดที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีคลาวด์

ลี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอนาคต เราจะผลักดันเทคโนโลยีให้ขยายขอบเขตกว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก เพื่อผสมผสานความสมจริงอันน่าหลงใหลนี้เข้าด้วยกัน แบบจำลองบุคคลแบบดิจิทัลหรือเวอร์ชวล อินฟลูเอนเซอร์จะสร้างแนวทางใหม่ ๆ ในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมผ่านประสบการณ์ที่สมจริง หรือจากเมทาเวิร์ส ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ระดับโลก เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การประชุมเสมือนจริง หรือการเที่ยวชมนิทรรศการแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ พวกเขายังมีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยนักข่าวที่ขยัน ฉลาด และมีประสิทธิภาพอย่างมากอีกด้วย ”

เทคโนโลยีสร้างสรรค์อื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมกับแฟนกีฬาโอลิมปิก ที่จะเปิดเผยในช่วงการแข่งขันปักกิ่งเกมส์ 2022 มีดังนี้

Cloud Showcasing

Beijing 2022 Cloud Showcasing เป็นนิทรรศการเสมือนจริง เพื่อใช้แนะนำผู้สนับสนุนงานกีฬาโอลิมปิกต่าง ๆ รวมถึงการแจกของที่ระลึกให้กับแฟน ๆ กีฬาโอลิมปิก ผ่านการจับฉลากและการเล่นเกม พัฒนาโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ปักกิ่งเกมส์ 2022 (BOCOG) และได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีดิจิทัลของอาลีบาบา อาลีบาบายังได้เปิดตัว Cloud Showcasing ของตัวเอง ด้วยการใช้ความรู้ของ Alibaba DAMO Academy บนคลาวด์ ซึ่งเป็นนิทรรศการ 3 มิติเสมือนจริงที่แสดงข้อมูลของเส้นทางในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรระดับโลกในงานกีฬาโอลิมปิกของอาลีบาบา ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้เข้าสู่โลกดิจิทัล รวมถึงนวัตกรรมของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกงานกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ

ร้านขายของที่ระลึกในงานโอลิมปิกอย่างเป็นทางการบนคลาวด์ใน Tmall

Tmall แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาได้จัดแสดงสินค้าที่ระลึกงานโอลิมปิก ปักกิ่งเกมส์ 2022 เป็นเวลา 100 วันก่อนเกมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเริ่มขึ้น ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ของอาลีบาบาบนร้านค้ามากกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศจีน จากแผงขายสินค้าในร้าน ผู้บริโภคสามารถออกแบบสินค้าที่ระลึกกีฬาโอลิมปิกในรูปแบบของตนเองได้ เช่น เสื้อยืดและกระเป๋าที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ และสินค้าที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเหล่านี้จะจัดส่งไปถึงที่บ้านภายในเวลาสองถึงสามวัน

คริส ถัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “ด้วยชุดเทคโนโลยีดิจิทัลของเรา เราต้องการมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับแฟน ๆ กีฬา ให้เข้ามามีส่วนร่วม มีปฎิสัมพันธ์ด้วยความเป็นส่วนตัวมากที่สุด และร่วมสนุกไปกับปักกิ่งเกมส์ 2022 ในขณะที่เรารังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และสร้างรูปแบบการเข้ามามีส่วนร่วมแบบใหม่ ๆ เราหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้กับเกมกีฬาระดับโลก หรือกิจกรรมอื่น ๆ ในอนาคต เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่อยู่บนคลาวด์”

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการพัฒนา Dong Dong และการมีปฏิสัมพันธ์ของ Dong Dong กับผู้ชมกรุณาชมวิดีโอของ Alizila https://www.alizila.com/video/alibabas-virtual-influencer-dong-dong-makes-her-debut-at-the-olympic-games/

“Cloud ME” คือเทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะห่าง และช่วยให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ปักกิ่ง ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

“Cloud ME” คือเทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะห่าง

“Cloud ME” คือเทคโนโลยีที่ช่วยลดระยะห่าง และช่วยให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ปักกิ่ง ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

โซลูชันที่ทำงานบนคลาวด์มอบประสบการณ์ในการสื่อสารระหว่างกันอย่างสมจริง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

อาลีบาบา เปิดตัว “Cloud ME” นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทำงานบนคลาวด์ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่งในปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดเรื่องโควิดและระยะห่างของผู้คนที่อยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ  “Cloud ME” เป็นโซลูชันด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ (real-time communication: RTC) ช่วยให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น สามารถสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงด้วยกันระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งช่วยให้ผู้คนพบปะและเพลิดเพลินกับการสนทนาแบบเรียลไทม์ผ่านการยิงภาพเท่าของจริงเหมือนอยู่ในสถานการณ์จริง

เมื่อผู้ร่วมงานก้าวเข้าไปยังป๊อป-อัพสตูดิโอในบูธของ Cloud ME ฟังก์ชันการฉายภาพจากระยะไกลที่ติดตั้งได้ง่าย จะยิงภาพเต็มตัวเท่าขนาดจริงของพวกเขาไปปรากฎในบูธอื่นที่อยู่ไกลออกไป และผู้เข้าร่วมงานนั้น ๆ ก็จะได้พบปะกับคู่สนทนาและทักทายกันเหมือนอยู่ในสถานที่เดียวกัน นอกจากนี้ฟังก์ชันนี้ยังช่วยให้สามารถจัดประชุมร่วมกับผู้คนที่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด

แดเนียล จาง ประธานและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “อาลีบาบามุ่งมั่นที่จะนำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเข้าสู่โลกดิจิทัล และมอบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมให้เกิดประสบการณ์ที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วมมากขึ้น เราหวังว่าจะเชื่อมโยงนักกีฬาและแฟนกีฬาทั่วโลกไว้ด้วยกันผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ของเรา และช่วยให้สปิริตของโอลิมปิกเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนในเวลาที่เราสนุกสนานกับกีฬาประเภทต่าง ๆ ร่วมกัน”

โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กล่าวว่า “เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์ ณ กรุงปักกิ่งด้วยความร่วมมือกับอาลีบาบา ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีหลักที่จำเป็นต้องใช้ใoโอลิมปิคฤดูหนาวทำงานบนอาลีบาบา คลาวด์นเช่น เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับโอลิมปิกออนไลน์สโตร์ในประเทศจีน, เทคโนโลยีในการแพร่ภาพและกระจายเสียง OBS คลาวด์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้รองรับสื่อจากทั่วโลกที่รวมตัวกันในกรุงปักกิ่ง นับว่าเทคโนโลยีของอาลีบาบา คลาวด์ กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ และยกระดับมาตรฐานขึ้นอีกระดับ”

บูธ Cloud ME สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ด้วยอุปกรณ์สตูดิโอทั่วไป เช่น กล้องวิดีโอและคอมพิวเตอร์เพื่อจับภาพวิดีโอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพิ่มเติมในพื้นที่ติดตั้ง และไม่ต้องทำการปรับแต่งอินเทอร์เน็ตแบนด์วิดท์ใหม่ให้เหมาะสมในการดำเนินการบันทึกและส่งข้อมูล ทั้งหมดนี้ล้วนใช้ขุมพลังของการประมวลผลแบบคลาวด์

วิดีโอและไฟล์เสียงที่สร้างขึ้นในบูธ Cloud ME จะถูกส่งต่อไปยังอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป โซลูชันด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ (RTC) ที่ได้รับการยอมรับแล้วนี้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังการประมวลผลบนระบบคลาวด์ประสิทธิภาพล้ำหน้าของอาลีบาบาที่ครอบคลุมเครือข่ายกว้างขวางทั่วโลก

กระบวนการดังกล่าวข้างต้นสามารถทำให้เสร็จได้ภายใน 200 milliseconds ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ ที่มีคุณสมบัติในการทำงานพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง มีความพร้อมใช้สูง และมีความหน่วงต่ำ บันทึกการแข่งขันสดสามารถยิงส่งไปยังจอภาพความละเอียดสูงระดับ 4K ที่อยู่ในระยะไกล สร้างภาพเอฟเฟกต์โฮโลแกรมที่เหมือนจริง สร้างรายละเอียดต่าง ๆ ใหม่ด้วยความละเอียดสูง เช่น จับรายละเอียดการแสดงออกทางสีหน้า และเสื้อผ้าที่สวมใส่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว

ลี่จวน เฉิน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชัน อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “โซลูชันในการสื่อสารแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีคลาวด์มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้โลกสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาลีบาบา คลาวด์มีเครือข่ายคลาวด์ทั่วโลก และอัลกอริธึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเอง ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะนำประโยชน์ของการสื่อสารแบบเรียลไทม์มาใช้ในสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การเรียนออนไลน์ กิจกรรมด้านความบันเทิงที่สามารถโต้ตอบกันได้ การประชุมทางวิดีโอ และบริการต่าง ๆ ขององค์กรในอุตสาหกรรมอื่น ๆ

บูธ Cloud ME ของอาลีบาบา มีให้บริการทั้งในระบบการจัดการแบบปิดในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่กรุงปักกิ่ง และบริการให้กับผู้เข้าร่วมงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวจากภายนอก เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับประสบการณ์ที่น่าสนใจจากการสร้างปฏิสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่สมจริงนี้ การใช้ Cloud ME ครั้งแรกในงานโอลิมปิกครั้งนี้ ได้ใช้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการประชุมทางไกลระหว่างแดเนียล จาง และ โทมัส มัค ซึ่งไม่สามารถเดินทางมาประชุมร่วมกันแบบพบปะกันตัวจริงกันได้ เนื่องจากข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน

อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

อาลีบาบาคาดการณ์ 10 อันดับเทรนด์เทคโนโลยีพุ่งแรง

Alibaba DAMO Academy (DAMO) สถาบันเพื่อการวิจัยด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ระดับโลกของอาลีบาบา กรุ๊ป นำเสนอการคาดการณ์แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

DAMO นำเสนอแนวโน้ม 10 อันดับเทคโนโลยีสำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงสองถึงห้าปีข้างหน้า ซึ่งได้จากการวิเคราะห์เอกสารที่ตีพิมพ์เผยแพร่สู่สาธารณะ การยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตรในช่วงสามปีที่ผ่านมา และการสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์เกือบ 100 คน ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมทุกภาคส่วนในวงกว้าง

นายเจฟฟ์ จาง Head of Alibaba DAMO Academy กล่าวว่า “ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดความก้าวหน้าทางดิจิทัลและการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีไปใช้ได้ขยายขอบเขตจากโลกทางกายภาพไปสู่โลกที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน (mixed reality: MR) ในขณะเดียวกันก็มีการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ

“เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมใด เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ประหยัดพลังงาน หรือในกิจกรรมประจำวัน เช่น สำนักงานไร้กระดาษ เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าเราจะสร้างอนาคตที่ดีขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี”

Alibaba Unveils Forecast of Top 10 Leading Tech Trends

คาดการณ์แนวโน้มสำคัญ: ในอีกสองปีถึงห้าปีข้างหน้าจะมีแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่บนระบบการประมวลผลแบบใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนี้

#1 Cloud-Network-Device Convergence
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านเครือข่ายใหม่ ๆ จะขับเคลื่อนวิวัฒนาการของคลาวด์คอมพิวติ้ง ไปสู่ระบบการประมวลผลแบบใหม่ ที่เป็นการรวมอุปกรณ์เครือข่ายบนคลาวด์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งคลาวด์ เน็ตเวิร์ก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบใหม่นี้จะมีการแบ่งงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การรวมเครือข่ายระบบคลาวด์ ไว้ด้วยกันจะเป็นตัวเร่งผลักดันให้เกิดแอปพลิเคชันใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองงานที่มีความต้องการมากขึ้น เช่น การจำลองทางอุตสาหกรรมที่มีความแม่นยำสูง การตรวจสอบคุณภาพทางอุตสาหกรรมแบบเรียลไทม์ และ mixed reality ในอีก 2 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบประมวลผลใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในอีกสามปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ การใช้ชิปซิลิคอนโฟโตนิคที่ส่งข้อมูลด้วยแสง (Silicon Photonic Chips) การใช้ AI ปูทางไปสู่การรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า การรักษาแบบแม่นยำจำเพาะที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษา (people-centric precision medicine) ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญ การปรับปรุงที่ก้าวล้ำด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการเข้าใจการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว รวมถึงแว่นตา XR รุ่นใหม่ที่รวมองค์ประกอบของ VR และ AR เพื่อแสดงภาพดิจิทัลเหนือสภาพแวดล้อมจริง เป็นต้น

#2 AI for Science (AI กับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์)
เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา ชุมชนวิทยาศาสตร์มีกระบวนทัศน์พื้นฐานสองประการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์เชิงทดลองและวิทยาศาสตร์เชิงทฤษฎี ทุกวันนี้ความก้าวหน้าของ AI ทำให้กระบวนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ เป็นไปได้ แมชชีนเลิร์นนิ่งสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากที่มีหลากหลายมิติและในหลายรูปแบบ พร้อมแก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ ช่วยให้การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เติบโตขึ้นในเรื่องที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่เพียงแต่ AI จะเป็นตัวเร่งให้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์รวดเร็วขึ้นเท่านั้นแต่ยังช่วยในการค้นพบกฎทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ อีกด้วย ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะมีการนำ AI ไปใช้อย่างกว้างขวางในกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และใช้เป็นเครื่องมือการผลิตในวิทยาศาสตร์พื้นฐานด้านต่าง ๆ

#3 Silicon Photonic Chips (ชิปซิลิคอนที่ส่งข้อมูลด้วยแสง)
เมื่อขนาดของทรานซิสเตอร์ใกล้ถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ความเร็วของการพัฒนาชิปอิเล็กทรอนิกส์จะไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการประมวลผลประสิทธิภาพสูงอีกต่อไป silicon photonic chips ต่างจากชิปอิเล็กทรอนิกส์ตรงที่ใช้โฟตอน (photons) แทนอิเล็กตรอน (electrons) เพื่อส่งข้อมูล โฟตอนจะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกันโดยตรง และสามารถเคลื่อนที่ในระยะทางที่ไกลกว่า ดังนั้น silicon photonic chips จึงสามารถเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลและประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้สูงขึ้น ส่วนการเติบโตของคลาวด์คอมพิวติ้งและ AI ก็ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยี silicon photonic chips อย่างรวดเร็ว ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราสามารถคาดหวังว่าจะได้เห็นการใช้ silicon photonic chips อย่างแพร่หลายในการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงในดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่

#4 AI for Renewable Energy (AI กับพลังงานหมุนเวียน)
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานน่าสนใจที่จะเพิ่มเข้าไปในโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ปัญหาต่าง ๆ เช่น ความยุ่งยากในการรวมระบบโครงข่าย อัตราการใช้พลังงานต่ำ และการจัดเก็บพลังงานส่วนเกิน ล้วนเป็นอุปสรรคใหญ่ในการดำเนินการ เนื่องจากลักษณะที่คาดเดาไม่ได้ของการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และการรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า ทำให้เกิดความท้าทายที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้า การประยุกต์ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรมจึงมีความสำคัญยิ่งต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ และระบบอัตโนมัติของระบบไฟฟ้ากำลัง ตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีเสถียรภาพ ซึ่งจะเอื้อให้บรรลุเป้าหมาย carbon neutrality ที่จะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น ในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีการนำ AI ไปใช้เพื่อปูทางไปสู่การรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า ตลอดจนมีส่วนสนับสนุนในการดำเนินงานของโครงข่ายไฟฟ้าที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้

#5 High-precision Medicine (การรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะสูง)
การแพทย์เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะของแต่ละบุคคลเป็นอย่างมาก และมักจะเกี่ยวข้องกับการลองผิดลองถูกอย่างสูง และท้ายที่สุดอาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามผู้ป่วยแต่ละราย เป็นที่คาดกันว่าการนำ AI มารวมกับการรักษาที่แม่นยำ จะช่วยกระตุ้นการบูรณาการความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการวินิจฉัยใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น และทำหน้าที่เป็นเข็มทิศนำทางที่มีความแม่นยำสูงสำหรับเวชศาสตร์คลีนิก ซึ่งแพทย์สามารถใช้เข็มทิศนี้วินิจฉัยโรคและตัดสินใจทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความก้าวหน้าเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวัด คำนวณ คาดการณ์ และป้องกันโรคร้ายแรงได้ ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราคาดว่า จะได้เห็นการรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะโดยอาศัยข้อมูลทางพันธุกรรม หรือข้อมูลในระดับโมเลกุลมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษา ซึ่งจะกลายเป็นเทรนด์สำคัญที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในด้านต่าง ๆ รวมถึงการป้องกัน การวินิจฉัย และการรักษาโรค AI จะเปรียบเสมือนกับเข็มทิศที่มีความแม่นยำสูง ที่จะช่วยให้เราสามารถระบุโรคและการรักษาได้

#6 Privacy-preserving Computation (การประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว)
เนื่องจากข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ การขาดความมั่นใจในเทคโนโลยี และข้อกังวลด้านมาตรฐานต่าง ๆ ทำให้การประยุกต์ใช้การประมวลผลเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ถูกจำกัดให้อยู่ในขอบเขตแคบ ๆ ของการประมวลผลที่มีขนาดเล็กมาตลอด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีมีการบูรณาการมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ชิปที่มีการทำงานเฉพาะ อัลกอริธึมการเข้ารหัส การใช้งานไวท์บ็อกซ์ (whitebox) ที่เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือเซิร์ฟเวอร์ประกอบเองที่ไม่มีแบรนด์ รวมถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูล ฯลฯ กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นจึงจะมีการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัวนำมาใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และการผสานรวมข้อมูลจากทุกโดเมน ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่เกิดจากการประมวลผลข้อมูลจำนวนเล็กน้อย และข้อมูลจากโดเมนส่วนตัวเข้าไว้ด้วยกัน การนำไปใช้งานจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลจากทุกโดเมน ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราจะเห็นการปรับปรุงที่ก้าวล้ำด้านประสิทธิภาพ และความสามารถในการเข้าใจการประมวลผลแบบรักษาความเป็นส่วนตัว และจะได้เห็นหน่วยงานด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ให้บริการแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น

#7 Extended Reality: XR (เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง – XR)
การพัฒนาเทคโนโลยี เช่น การประมวลผลแบบเอดจ์บนคลาวด์ การเชื่อมต่อเครือข่าย และดิจิทัลทวิน
ทำให้เทคโนโลยี XR เติบโตเต็มที่ แว่นตา XR ให้คำมั่นที่จะทำให้โลกเสมือนบนอินเทอร์เน็ตใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด นวัตกรรมนี้ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ที่จะแตกหน่อในระบบนิเวศอุตสาหกรรมใหม่ ที่รวมถึงส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการ และการใช้งานในด้านต่าง ๆ เทคโนโลยี XR จะเปลี่ยนโฉมแอปพลิเคชันดิจิทัล และปฏิวัติวิธีที่ผู้คนมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความบันเทิง โซเชียลเน็ตเวิร์ก ออฟฟิศ ช็อปปิ้ง การศึกษา และการดูแลสุขภาพ ฯลฯ ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นแว่นตา XR รุ่นใหม่ที่มีรูปลักษณ์ และให้ความรู้สึกที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากแว่นตาทั่วไปออกสู่ตลาด และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสู่อินเทอร์เน็ตในยุคต่อไป

#8 Perceptive Soft Robotics
หุ่นยนต์นิ่ม (Perceptive Soft Robotics) แตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไป ตรงที่มีส่วนต่าง ๆ ที่ยืดหยุ่นได้ และมีความสามารถในการรับรู้ต่อแรงกด การมองเห็น และเสียง หุ่นยนต์เหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ล้ำสมัย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยืดหยุ่นได้ วัสดุที่รองรับแรงกด และ AI ซึ่งช่วยให้ทำงานพิเศษและงานที่มีความซับซ้อนสูง อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนรูปเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่แตกต่างกันได้ การเกิดขึ้นของหุ่นยนต์นิ่มจะช่วยเปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรมการผลิต ตั้งแต่การผลิตสินค้ามาตรฐานจำนวนมาก ไปจนถึงสินค้าเฉพาะกลุ่มที่มีการผลิตจำนวนน้อย ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการนำหุ่นยนต์นิ่มมาใช้แทนที่หุ่นยนต์ทั่วไปในอุตสาหกรรมการผลิต และปูทางไปสู่การใช้เป็นหุ่นยนต์บริการในชีวิตประจำวันมากขึ้น

#9 Satellite-terrestrial Integrated Computing (การประมวลผลแบบบูรณาการผ่านดาวเทียมและภาคพื้นดิน – STC)
เครือข่ายภาคพื้นดินและระบบการประมวลผลมีการให้บริการดิจิทัลสำหรับพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น แต่จะไม่มีบริการในพื้นที่ที่มีประชากรเบาบาง เช่น ทะเลทราย ทะเล และอวกาศ เป็นต้น STC จะเชื่อมต่อกับดาวเทียมแบบ High-Earth Orbit (HEO) ที่มีวงโคจรสูง และแบบ Low-Earth Orbit (LEO) ที่มีวงโคจรต่ำ และเครือข่ายการสื่อสารเคลื่อนที่ภาคพื้นดิน ครอบคลุมไร้รอยต่อในทุกมิติ นอกจากนี้ STC ยังสร้างระบบประมวลผลที่รวมดาวเทียม เครือข่ายดาวเทียม ระบบสื่อสารภาคพื้นดิน และเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการเข้าถึงบริการดิจิทัลได้มากขึ้น และครอบคลุมทั่วโลก ในอีก 5 ปีข้างหน้า ดาวเทียมและระบบภาคพื้นดินจะทำงานร่วมกันเป็นโหนดการประมวลผล เพื่อสร้างระบบเครือข่ายแบบครบวงจรที่ให้การเชื่อมต่อทั่วทุกพื้นที่

และยิ่งไปกว่านั้น เราคาดหวังว่าในอนาคต AI จะเปลี่ยนไปเป็นวิวัฒนาการร่วมกันของโมเดลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ผ่านระบบคลาวด์ เอดจ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ

#10 วิวัฒนาการร่วมของโมเดล AI ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
โมเดลก่อนการฝึกอบรม หรือที่เรียกกันว่าโมเดลพื้นฐาน เป็นเทคนิคก้าวล้ำในการพัฒนาพื้นฐานตั้งแต่ AI เฉพาะทาง (Weak AI) ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ไปจนถึง AI ทั่วไป (General AI) ที่มีความสามารถดัดแปลงความรู้และทักษะได้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยใช้การเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ข้อดีในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และข้อเสียในด้านการใช้พลังงานนั้นไม่สมดุลกัน จึงทำให้การสำรวจโมเดลขนาดใหญ่มีข้อจำกัด AI ในอนาคตกำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านความสามารถในการปรับขนาดของโมเดลพื้นฐาน ไปสู่การพัฒนาร่วมกันของโมเดลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ผ่านระบบคลาวด์ เอดจ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าในทางปฏิบัติ