Alibaba Cloud โชว์ Wuying Cloudbook ณ การประชุม Apsara Conference

Alibaba Cloud โชว์ Wuying Cloudbook ณ การประชุม Apsara Conference

Alibaba Cloud โชว์ Wuying Cloudbook ณ การประชุม Apsara Conference

Wuying Cloudbook ใช้เทคโนโลยีจาก Wuying Architecture เพียบพร้อมด้วยความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความสามารถในการทำงานร่วมกัน เพื่อรองรับการทำงานในยุคดิจิทัล

อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป โชว์ Wuying Cloudbook ผลิตภัณฑ์ด้านคลาวด์คอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุดที่ใช้สมรรถนะต่าง ๆ จาก Wuying Architecture ณ งาน Apsara Conference, Wuying Cloudbook ออกแบบมาเพื่อมอบพลังแห่งการประมวลผลแบบไร้ขีดจำกัดให้แก่องค์กรธุรกิจ เพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูล คุ้มค่าใช้จ่ายมากขึ้น และรองรับการทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดที่มีความต้องการแตกต่างกัน

Wuying Cloudbook มาพร้อมความปลอดภัยที่รัดกุม สามารถปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการและสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่หลากหลาย ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของคลาวด์ จึงช่วยให้ผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์จากสมรรถนะของคลาวด์คอมพิวติ้ง และลดปริมาณเวิร์กโหลดที่อยู่ในตัวอุปกรณ์ให้เหลือน้อยที่สุด ผู้ใช้สามารถปรับขนาดการประมวลผลและขนาดของสตอเรจขึ้นลงได้ตามต้องการและในเวลาที่ต้องการ จึงสามารถขจัดข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพในการใช้ซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เช่น ซอฟต์แวร์ video-rendering และได้รับประสบการณ์การโต้ตอบแบบเรียลไทม์ที่มีการตอบสนองเร็วขึ้น และมีภาพคมชัด คุณภาพสูง

Wuying Cloudbook ช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลและการรับส่งทรัพยากรทางเทคโนโลยีจำนวนมหาศาลขององค์กรมีความปลอดภัย ด้วยการรวมศูนย์และบริหารจัดการทรัพยากรเหล่านั้นบนคลาวด์ จึงช่วยขจัดความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่มักเกิดกับสภาพแวดล้อมการทำงานขององค์กร เช่น ข้อมูลสูญหาย และช่องโหว่ต่าง ๆ ของอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานที่อาจถูกโจมตีได้ ในขณะที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงทรัพยากรทางเทคโนโลยีขององค์กรได้จากทุกที่ทุกเวลา

Wuying Cloudbook ยังช่วยขยายขอบเขตการทำงานร่วมกันได้กว้างขวางมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถรันระบบปฏิบัติการได้หลากหลายในคราวเดียวกัน เช่น Windows, Linux หรือ Android นอกจากนี้การใช้และรันซอฟต์แวร์บนคลาวด์ทำให้ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ไว้ในตัวอุปกรณ์ที่ใช้งานซึ่งช่วยลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และลดการใช้แบตเตอร์รี่ของอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Wuying Cloudbook จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการทำงานรูปแบบใหม่ เช่น การทำงานจากระยะไกล การจ้างงานภายนอกองค์กร (outsourcing) และ การทำงานร่วมกันของทีมที่อยู่ต่างสถานที่กัน

Wuying Cloudbook ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการปรับขนาดการทำงาน ความปลอดภัย และความยืดหยุ่น ของ Wuying Architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อผสานการทำงานของเวิร์กโหลดบนคลาวด์และที่อยู่ในอุปกรณ์ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นสถาปัตยกรรมระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมนี้ สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป และแท็บเล็ต ไปจนถึงฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่ต้องการพลังแห่งการประมวลผลที่แข็งแกร่ง สถาปัตยกรรมนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้สมรรถนะในการประมวลผล และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะทำการประมวลผลบนอุปกรณ์ใดก็ตาม

นายเจียงเหว่ย เจียง นักวิจัยอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “Wuying Architecture เป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการเพิ่มและขยายพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น และมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้น Wuying ใช้ประโยชน์จากความสามารถและเครื่องมือด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็น cloud-based ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าจะปกป้องคุ้มครองข้อมูลขององค์กรให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ Wuying Architecture ยังช่วยให้ฮาร์ดแวร์แบรนด์ต่าง ๆ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ องค์กรธุรกิจ ตลอดจนผู้ใช้ส่วนบุคคล ได้รับประโยชน์จากคุณลักษณะของคลาวด์คอมพิวติ้งอย่างเต็มประสิทธิภาพ”

Wuying Cloudbook มีตัวเครื่องบางเฉียบ มีความลึกเพียง 13.9mm และมีจอ touchscreen ขนาด 14 นิ้ว สามารถรับชมวิดีโอแกะกล่องได้ที่ลิงก์นี้ พร้อมกันนี้อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์คลาวด์คอมพิวติ้งในรูปแบบของ card, box, all-in-one PC, laptop และ แอปพลิเคชันในรูปแบบ Desktop-as-a-Service (DaaS)

ประสบการณ์ของลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคการศึกษาที่ใช้ Wuying

IM Motors บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแห่งหนึ่งในประเทศจีน เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งแรกที่นำ Wuying ไปใช้ในงานด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยในช่วงของการวิจัยและพัฒนา Wuying ช่วยให้ทีมงานหลายทีมที่ทำงานอยู่ต่างสถานที่และจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด สามารถเข้าใช้งานเอกสารการออกแบบต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น

นายเจี่ยว เซี่ยง ผู้อำนวยการบริหาร ศูนย์วิจัยอัจฉริยะของ IM Motors กล่าวว่า “ในอดีตอุตสาหกรรมยานยนต์อาศัยการทำงานร่วมกันแบบออฟไลน์อย่างมาก เนื่องจากขั้นตอนการทำงานหลายอย่างต้องใช้เวิร์กสเตชันขนาดใหญ่ Wuying ทำให้ความฝันของเราเป็นจริง เพราะไม่เพียงมอบพลังการประมวลผลที่สามารถรองรับเวิร์กโหลดหนัก ๆ ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในเวลาที่เรารับส่งและแชร์ไฟล์ด้านการออกแบบที่เป็นความลับ เราจึงสามารถมุ่งความสำคัญไปในเรื่องของการออกแบบได้อย่างหมดกังวล”

East China Normal University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งแรก ๆ ที่นำ Wuying ไปใช้ในภาคการศึกษา โดยนำคลาวด์คอมพิวเตอร์นี้ไปแทนที่ห้องเซิร์ฟเวอร์แบบเดิมที่ใช้ในโครงการวิจัยต่าง ๆ ช่วยให้นักศึกษาสามารถทำโครงการของตนได้อย่างราบรื่น แม้จะต้องย้ายจากห้องปฏิบัติการไปตามห้องเรียนและหอพักต่าง ๆ เพราะงานวิจัยล้วนรวมศูนย์อยู่บนคลาวด์ นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลบนคลาวด์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานวิจัยอย่างมาก

นายเว่ย หวัง อาจารย์ประจำ School of Data Science and Engineering, East China Normal University กล่าวว่า “โหมด mobile research ของ Wuying ได้พิสูจน์แล้วว่ามีคุณค่าและมีประโยชน์มากสำหรับอาจารย์และนักศึกษา ห้องปฏิบัติการบนคลาวด์ทำให้เราใช้สมรรถนะการประมวลผลได้ไม่จำกัดเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดด้านระยะเวลาในการตอบสนองและแบนด์วิดท์ นอกจากนี้ยังให้บริการด้วยประสิทธิภาพสูงได้ 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งช่วยให้เราได้รับผลการวิจัยเร็วขึ้นมาก”

Alibaba Cloud Launches ModelScope Platform and New Solutions to Lower the Threshold for Materializing Business Innovation

Alibaba Cloud เปิดตัวแพลตฟอร์ม ModelScope และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยลดข้อจำกัดในการสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กรธุรกิจ

Alibaba Cloud Launches ModelScope Platform and New Solutions to Lower the Threshold for Materializing Business Innovation

    • Hundreds of AI models are made accessible on a brand new open-source platform
    • Key serverless solutions launched to enable better product deployment and development

Alibaba Cloud, the digital technology and intelligence backbone of Alibaba Group, started its annual Apsara Conference today by announcing the launch of  ModelScope, an open-source Model-as-a-Service (MaaS) platform that comes with hundreds of AI models, including large pre-trained models for global developers and researchers. During its flagship conference, the global leading cloud provider also introduced a range of serverless database products and upgraded its integrated data analytics and intelligent computing platform to help customers further achieve business innovation through cloud te­chnologies.

“Cloud computing has given rise to a fundamental revolution in the way computing resources are organized, produced and put to commercial use while shifting the paradigm of software development and speeding up the integration of the cloud and endpoint terminals.” Jeff Zhang, President of Alibaba Cloud Intelligence, “As more customers are speeding up with their cloud adoption, we have been upgrading our cloud-based resources, services and tools to become serverless, more intelligent and digitalized in order to lower the barrier for companies to adopt new technology and capture more opportunities in the cloud era.”

MaaS to create transparent and inclusive technology community

The ModelScope platform is today launched with over 300 ready-to-deploy AI models developed by Alibaba DAMO Academy (“DAMO”), Alibaba’s global research initiative, in the past five years. These models cover various fields from computer vision to natural language processing (NLP) and audio. The platform also includes more than 150 state-of-the-art (SOTA) models, which are recognized globally as the best in their respective fields for achieving the results in a given task.

Also made available on the platform are Alibaba’s proprietary large pre-trained models such as Tongyi, which is capable of turning text into image with five billion parameters, and OFA (One-For-All), a six billion-parameter pre-trained model that excels at cross-modal tasks such as image captioning and visual question answering. Independant developers have also contributed dozens of models to the open-source platformn to date.

As an open-source community, ModelScope aims to make developing and running AI models easier and more cost effective. Developers and researchers can simply test the models online for free and get the results of their tests within minutes. They can also develop customized AI application by fine-tuning existing models, and run the models online backed by Alibaba Cloud, or deploy them on other cloud platforms or in a local setting.

The launch underscores DAMO’s ongoing efforts and commitment to promote transparent and inclusive technology by reducing the threshold for building and running AI models, enabling universities and smaller companies to easily use AI for their research and in their business respectively. The community is expected to grow further with more quality models available on the platform from DAMO, partners from research institutes and third-party developers in the near future.

New and upgraded solutions to increase computing efficiency

Staying ahead of the emerging trend of serverless software development, Alibaba Cloud is making its key cloud products serverless to enable customers to concentrate on product deployment and development without worrying about managing servers and infrastructure. Essentially, Alibaba Cloud’s updated products focus on turning computing power into an on-demand capability for users.

Examples of these are the cloud native database PolarDB, the cloud-native data warehouse AnalyticDB (ADB) and ApsaraDB for Relational Database Service (RDS). Leveraging Alibaba Cloud’s serverless technologies, customers can enjoy automatic scaling with extreme elasticity based on actual workloads and a pay-as-you-go billing model to reduce costs. The automatic elastic scaling time on demands can be as little as one second. The use of updated database products can help businesses in the Internet industry reduce their costs by 50%, on average, compared to using traditional ones. Currently, Alibaba Cloud has more than 20 serverless key products in total and is adding more product categories to become serverless.

Alibaba Cloud also upgraded its ODPS (Open Data Platform and Services), a self-developed integrated data analytics and intelligent computing platform, to provide companies with diversified data processing and analytics services. The platform can handle both online and offline data simultaneously in one system, providing businesses dealing with complex workloads with analytics for business decision-making with reduced cost and increased efficiency.

ODPS has refreshed global records for big data performance, according to recent results from the Transaction Processing Performance Council (TPC), an industry council that sets the standards for transaction processing and database benchmarking. Evaluated based on a 100 TB data benchmark, the performance of ODPS Maxcompute Cluster attained the top score for the sixth consecutive year. ODPS Hologres Cluster also shown a record-breaking result in the TPC-H 30000GB decision support benchmark test.

To drive workload collaboration between cloud and local hardware, Alibaba Cloud has announced the launch of the Wuying Architecture with a showcase on its applications on the Wuying Cloudbook. The Cloudbook with dedicated Architecture is designed to help users access unlimited computing power on the cloud in a more secure and agile manner while supporting collaboration and flexibility at a workplace.

Alibaba Cloud เปิดตัวแพลตฟอร์ม ModelScope และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยลดข้อจำกัดในการสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กรธุรกิจ

Alibaba Cloud เปิดตัวแพลตฟอร์ม ModelScope และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยลดข้อจำกัดในการสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กรธุรกิจ

Alibaba Cloud เปิดตัวแพลตฟอร์ม ModelScope และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยลดข้อจำกัดในการสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กรธุรกิจ

    • สามารถเข้าใช้งานโมเดล AI หลายร้อยรายการบนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สใหม่ล่าสุด
    • เปิดตัวโซลูชันสำคัญแบบ serverless เพื่อช่วยให้ใช้และพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจ
ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป จัดการประชุมประจำปี Apasara Conference พร้อมเปิดตัว ModelScope ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สในรูปแบบ Model-as-a-Service (MaaS) ที่ประกอบด้วยโมเดล AI หลายร้อยรายการ รวมถึงโมเดล pre-trained ขนาดใหญ่สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักวิจัยทั่วโลก ในการประชุมสำคัญนี้ Alibaba Cloud ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลกจะแนะนำผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสที่ไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ (serverless) อีกหลายรายการ และประกาศการอัปเกรดระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบบูรณาการ และแพลตฟอร์มการประมวลผลอัจฉริยะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจด้วยการใช้เทคโนโลยีคลาวด์

นายเจฟฟ์ จาง ประธาน อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “คลาวด์คอมพิวติ้งทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดระบบทรัพยากรที่ใช้ในการประมวลผล การผลิต และนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ทั้งยังปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และเร่งให้คลาวด์และอุปกรณ์ปลายทางที่เป็นจุดติดต่อกับผู้ใช้ (endpoint terminals) ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการนำคลาวด์มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว เราได้อัปเกรดทรัพยากรด้านคลาวด์ บริการและเครื่องมือต่าง ๆ ให้ทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ ให้มีความชาญฉลาดมากขึ้น และอยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อลดอุปสรรคให้บริษัทต่าง ๆ ในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ และคว้าโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้นในยุคของคลาวด์”

MaaS เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ด้านเทคโนโลยีที่โปร่งใสและครบวงจร

แพลตฟอร์ม ModelScope มาพร้อมโมเดล AI ที่พร้อมใช้งานมากกว่า 300 รายการที่พัฒนาในช่วงห้าปีที่ผ่านมาโดย Alibaba DAMO Academy (“DAMO”) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยระดับโลกของอาลีบาบาโมเดลเหล่านี้ครอบคลุมการทำงานด้านต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น computer vision ไปจนถึง NLP หรือการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ซึ่งเป็นตัวช่วยในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และมนุษย์ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเสียง แพลตฟอร์มนี้ยังมีโมเดลล้ำสมัย (state-of-the-art: SOTA) มากกว่า 150 รายการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าดีที่สุดในการทำงานแต่ละด้านที่เกี่ยวข้องให้สำเร็จตามเป้าที่กำหนด

แพลตฟอร์มนี้ยังมีโมเดล pre-trained ขนาดใหญ่ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของอาลีบาบา เช่น Tongyi ที่สามารถแปลงข้อความให้เป็นรูปภาพด้วยพารามิเตอร์ห้าพันล้านตัว และ OFA (One-For-All) ซึ่งเป็นโมเดล pre-trained ที่มีพารามิเตอร์หกพันล้านตัวที่มีการทำงานข้ามรูปแบบหรือวิธีได้อย่างยอดเยี่ยมเช่น คำบรรยายภาพ และ การตอบคำถามด้วยภาพ ทั้งนี้นักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระได้ช่วยส่งโมเดลต่าง ๆ ของตนมากมายเข้ามาสนับสนุนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส

ModelScope เป็นหนึ่งในคอมมิวนิตี้ด้านโอเพ่นซอร์ส และมีเป้าหมายที่จะทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ และการนำโมเดล AI มาใช้ ทำได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักวิจัยสามารถทำการทดสอบโมเดลต่าง ๆ ทางออนไลน์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่าย และจะได้รับผลการทดสอบเหล่านั้นภายในเวลาไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาและปรับแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ได้ตามต้องการด้วยการปรับแต่งจากโมเดลต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว และใช้โมเดลนั้นออนไลน์ผ่านอาลีบาบา คลาวด์ หรือบนแพลตฟอร์มคลาวด์อื่น หรือใช้บนระบบที่ติดตั้งไว้ภายในก็ได้

การเปิดตัวครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำความมุมานะและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของสถาบัน DAMO ที่ต้องการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่โปร่งใสและครอบคลุม ด้วยการลดกฎเกณฑ์ในการสร้างและใช้โมเดล AI ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถใช้ AI ในการวิจัย และบริษัทขนาดเล็กสามารถใช้ AI ในเชิงธุรกิจ ได้อย่างง่ายดาย เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าคอมมิวนิตี้นี้จะเติบโตต่อเนื่อง และในอนาคตอันใกล้จะมีโมเดลที่มีคุณภาพมากขึ้นบนแพลตฟอร์มจาก DAMO การสนับสนุนจากพันธมิตรจากสถาบันวิจัยต่าง ๆ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอก

โซลูชันใหม่และโซลูชันที่ได้รับการอัปเกรดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล

อาลีบาบา คลาวด์ กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านคลาวด์ที่สำคัญทั้งหลายให้เป็นแบบ serverless เพื่อให้ก้าวนำหน้าเทรนด์ใหม่ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ และเพื่อให้ลูกค้าให้ความสำคัญไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องกังวลกับการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์และโครงสร้างพื้นฐานไอที

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าว ได้แก่ cloud-native database PolarDB, cloud-native data warehouse AnalyticDB (ADB) และ ApsaraDB for Relational Database Service (RDS) ลูกค้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็น serverless ของอาลีบาบา คลาวด์ สามารถปรับขนาดการทำงานได้อัตโนมัติด้วยความยืดหยุ่นสูงมากตามการใช้เวิร์กโหลดที่แท้จริง และรูปแบบการจ่ายตามการใช้งานจริง

เพื่อลดค่าใช้จ่าย การปรับขนาดอย่างยืดหยุ่นได้แบบอัตโนมัติตามต้องการนั้นใช้เวลาเล็กน้อยเพียงหนึ่งวินาที การใช้ผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสที่อัปเกรดแล้วช่วยธุรกิจที่มีการให้บริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านทางเว็บไซต์ของตน (Internet industry) ลดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย 50% เมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิม ปัจจุบัน อาลีบาบา คลาวด์ มีผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นแบบ serverless โดยรวมมากกว่า 20 รายการและกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายประเภทให้เป็นแบบ serverless มากขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้อัปเกรด Open Data Platform and Services (ODPS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบ self-developed สำหรับการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้บริการด้านการประมวลผล และการวิเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลายแก่องค์กรธุรกิจ แพลตฟอร์มนี้สามารถรองรับและจัดการข้อมูลทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้พร้อม ๆ กันบนระบบเดียว ช่วยให้ธุรกิจจัดการกับความซับซ้อนของเวิร์กโหลดได้ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลวิจัยล่าสุดจาก Transaction Processing Performance Council (TPC) หน่วยงานที่กำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการเปรียบเทียบการประมวลผลธุรกรรมและประสิทธิภาพของดาต้าเบส ระบุว่า ODPS ได้สร้างสถิติใหม่ระดับโลกด้านประสิทธิภาพในการจัดการบิ๊กดาต้า จากการประเมินโดยอิงตามเกณฑ์มาตรฐานข้อมูลขนาด 100TB พบว่าประสิทธิภาพของ ODPS Maxcompute Cluster ได้คะแนนสูงสุดเป็นปีที่หกติดต่อกัน ส่วน ODPS Hologres Cluster ยังทำลายสถิติในการทดสอบเกณฑ์มาตรฐานการสนับสนุนการตัดสินใจของ TPC-H 30000GB ด้วย

อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้เปิดตัว Wuying Architecture เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับการทำงานร่วมกันระหว่างคลาวด์และฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งอยู่ตามสถานที่ทำงานต่าง ๆ บริษัทฯ ได้สาธิตและแสดงให้เห็นถึงการใช้แอปพลิเคชันของบริษัทฯ บน Wuying Cloudbook ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้พลังแห่งการประมวลผลบนคลาวด์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยความคล่องตัวและปลอดภัยมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็รองรับการทำงานร่วมกันและสร้างความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงานอีกด้วย

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

Asian leader and SaaS veteran sets sights on aggressive cloud adoption across the fastest-growing region for Infor

 Infor, the industry cloud company, today announced the appointment of Terry Smagh as senior vice president and general manager for Asia Pacific and Japan. Based in Singapore, Smagh will be responsible for growing Infor’s business and driving customer success across key markets in the region, including Australia and New Zealand, Greater China, Japan, India, Southeast Asia and Korea.

“Terry is a seasoned expert in the Asia Pacific enterprise software market and comes armed with over 20 years of international experience in driving exponential revenue and market growth,” shared Wolfgang Kobek, executive vice president and general manager for international business at Infor. “We are thrilled to have him onboard to lead our fast-growing APJ region, which is rife with opportunity. As Asia’s businesses seek to scale their investments in technology, they are looking for software that will help drive greater agility, efficiencies, resilience, and innovation across their operations, at speed and scale. With Terry’s passion for people and unyielding devotion to driving exceptional customer-centric outcomes, I am confident that he will lead our team and customers into the next stage of growth, and further strengthen Infor’s roots in the APJ region.”

Smagh brings a deep industry expertise in SaaS and data analytics to his role at Infor and has a proven track record in helping customers transform and grow their businesses across the region. He joins Infor following senior leadership roles at BlackLine, IBM, and Qlik, where he played an instrumental role in driving revenue growth opportunities and profitability.

A Singaporean at heart, Smagh also has an extensive understanding of local and regional market nuances and growth opportunities, having worked in regional roles for most of his career.

With a background in entrepreneurship, Smagh is passionate about scaling businesses and grooming leaders, and a huge believer of “get the right team, and the rest will follow”.  “We are in a people business — empathy, humility and respect are the attributes I look for in a leader,” said Smagh. “It’s about developing and motivating a high-performing team that’s collaborative, thrives under pressure and enjoys coming to work every day. I believe that we can foster success and commitment through culture and constant reinforcements on holistic customer engagements and experiences. My goal for talent retention and recruitment is simple – we must continue to stay interested and vested in our people, and create a Best Place to Work in the process.”

“Businesses today have moved past the point of merely navigating economic recovery and uncertainty. Instead, they are doubling down and investing aggressively in building the competencies, technologies and skillsets that will truly position them to thrive in a new era of business, and fast. Cloud will continue to play a crucial role in that,” said Smagh. “I am honored to be joining the Infor family and I believe that Infor’s unique, purpose-built CloudSuites for industry position us well to deliver on these demands, and to accelerate greater time-to-value for businesses. This is an increasingly crucial competitive differentiator for organizations, and I look forward to working closely with my team to deliver on that crucial difference for our customers.”

Smagh will be responsible for spearheading growth for Infor across a broad range of sectors in APJ, including industrial manufacturing, food and beverage, automotive, high tech, distribution and logistics.

อินฟอร์แต่งตั้ง เทอร์รี สมา เป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Infor Picks Singaporean Terry Smagh to Helm Asia Pacific and Japan

อินฟอร์แต่งตั้ง เทอร์รี สมา เป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับอินฟอร์ นำประสบการณ์ด้าน SaaS ทำให้เกิดการใช้คลาวด์อย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค

อินฟอร์ (Infor) บริษัทซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับอุตสาหกรรม แต่งตั้ง นายเทอร์รี สมา ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ รับผิดชอบการขยายธุรกิจและขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกค้า Infor ในตลาดสำคัญ ๆ ของภูมิภาค ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์, จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลี

นายโวล์ฟกัง โคเบ็ก รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Infor กล่าวว่า “เทอร์รีเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในตลาดซอฟต์แวร์ระดับองค์กรในเอเชียแปซิฟิก พร้อมประสบการณ์ระดับนานาชาติมากกว่า 20 ปีในการขับเคลื่อนรายได้และขยายตลาดให้เติบโตแบบทวีคูณ  บริษัทฯ รู้สึกยินดีที่ได้เทอร์รีมาเป็นผู้นำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยโอกาสในการดำเนินธุรกิจ  จากการที่ธุรกิจในเอเชียพยายามปรับเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยี ทำให้ต้องมองหาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่น และความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น ทั้งในด้านความเร็วและการปรับขยายเพื่อการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กร  ผมเชื่อมั่นว่าเทอร์รีจะนำพาทีมและลูกค้าของเราเติบโตไปอีกระดับ พร้อมเสริมรากฐานของ Infor ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้แข็งแกร่งต่อไป ด้วยความใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนและการอุทิศตนอย่างแน่วแน่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”

นายเทอร์รีนำประสบการณ์ของอุตสาหกรรมเชิงลึกด้าน SaaS ซึ่งเป็นบริการซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานบนระบบคลาวด์และการวิเคราะห์ข้อมูล มาใช้ในการบริหารงานที่ Infor พร้อมผลงานที่ประสบความสำเร็จในการช่วยพลิกโฉมและทำให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตทั่วทั้งภูมิภาค  ก่อนร่วมงานกับ Infor เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่ BlackLine, IBM และ Qlik โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้และผลกำไร

จากประสบการณ์การทำงานในระดับภูมิภาคต่างๆ ทำให้เทอร์รีมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความแตกต่างและโอกาสในการเติบโตของตลาดท้องถิ่นและตลาดระดับภูมิภาค 

ด้วยภูมิหลังของการเป็นผู้ประกอบการ ทำให้นายเทอร์รีกระตือรือร้นเกี่ยวกับการขยายธุรกิจและการสร้างผู้นำ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในประโยคที่ว่า “คัดสรรทีมที่เหมาะสม และส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้นเอง”  โดยนายเทอร์รีกล่าวว่า “จากการที่เราอยู่ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร ดังนั้นคุณลักษณะที่ผมมองหาในตัวผู้นำคือการเอาใจใส่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเคารพต่อผู้อื่น เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับการพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจทำให้ทีมงานมีประสิทธิภาพสูง และทำงานร่วมกันทุกวันภายใต้แรงกดดันได้อย่างมีความสุข ผมเชื่อมั่นว่า เราสามารถส่งเสริมความสำเร็จและความมุ่งมั่นผ่านวัฒนธรรมขององค์กร โดยมุ่งเน้นที่การมีส่วนร่วมและประสบการณ์ของลูกค้าแบบองค์รวม  เป้าหมายง่าย ๆ ของผมในแง่ของการรักษาผู้มีความรู้ความสามารถและการสรรหาบุคลากร คือเราต้องสนใจและเอาใจใส่บุคลากรของเราเสมอ เพื่อทำให้องค์กรของเราเป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุด”

นายเทอร์รีกล่าวว่า “ปัจจุบันธุรกิจได้ก้าวมาถึงจุดที่ไม่ใช่แค่เตรียมพร้อมรับมือกับการฟื้นตัว และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จะต้องมุ่งมั่นต่อแนวทางปฏิบัติและลงทุนอย่างจริงจังในการพัฒนาความสามารถ เทคโนโลยี และชุดทักษะ ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว โดยระบบคลาวด์ยังคงมีบทบาทที่สำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก  ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมครอบครัว Infor และเชื่อมั่นว่า CloudSuite ที่มีเอกลักษณ์และออกแบบอย่างเฉพาะเจาะจงให้กับแต่ละอุตสาหกรรมของ Infor จะทำให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยเร่งระยะเวลาที่ลูกค้ารับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรให้เร็วขึ้น เป็นตัวสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขันที่สำคัญมากขึ้นสำหรับองค์กร  และผมพร้อมที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม เพื่อสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นนั้นให้กับลูกค้าของเรา”

ทั้งนี้ นายเทอร์รีจะรับผิดชอบในการเป็นผู้นำการเติบโตของ Infor ในภาคส่วนต่าง ๆ ของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมด้านการผลิต, อาหารและเครื่องดื่ม, ยานยนต์, เทคโนโลยีชั้นสูง, การจัดจำหน่าย และโลจิสติกส์