Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

    • Ericsson ConsumerLab’s 5G: The Next Wave report is the largest consumer 5G research to date.  
    • Compared to 4G users – 5G users spend an average of one hour per-week more on metaverse-related services, such as gaming in virtual worlds, and augmented reality (AR).  
    • Half of 5G consumers who already use extended-reality (XR) related services believe AR apps will move from smartphones to XR headsets within two years 

As 5G uptake in many parts of the world bridges the milestone from early adopters to mass adoption, major new Ericsson (NASDAQ: ERIC) research – the industry’s largest global study of its kind to date – underlines consumers’ growing commitment to 5G and their expectations on next-generation uses cases. 

Called 5G: The Next Wave, the Ericsson ConsumerLab report addresses the impact 5G has had on early adopter consumers since launching in various countries, as well as gauging the intention of non-5G subscribers to take up the technology – and their related expectations. The report forecasts that at least 30 percent of smartphone users intend to take up a 5G subscription within the next year. 

The mix of Ericsson tracking data covering 5G launches since 2019, and the new consumer survey, has enabled Ericsson ConsumerLab to identify six key trends impacting the next wave of 5G adoption.  

The report covers the behavioral changes triggered by the bundling of digital services into 5G plans by communications service providers – particularly the increased use of enhanced video and augmented reality (AR) apps.   

The report also addresses the speed of mainstream 5G adoption, whether consumer demands are being met, and 5G-related changes in smartphone behavior – and their impact on network traffic.  

More than 49,000 consumers in 37 countries were interviewed in the research – the largest global 5G-related consumer survey in the industry to date and the largest consumer survey conducted by Ericsson on any topic.

The survey scope is representative of the opinions of about 1.7 billion consumers worldwide, including 430 million 5G subscribers. 

Igor Maurell, Head of Ericsson Thailand says: “The scale of the research gives us an authentic insight into consumers’ views and attitudes to 5G. The report shows that the next wave of potential 5G users have different expectations from the technology compared to early adopters. Overall, consumers see engaging with 5G as an essential part of their future lifestyles.” 

He adds: “It is interesting to note that 5G is emerging as an important enabler for early adopters to embrace metaverse-related services, such as socializing, playing and buying digital items in interactive 3D virtual gaming platforms. The amount of time spent on augmented reality apps by 5G users has also doubled over the past two years, compared to 4G users.” 

The report forecasts that 5G consumers with experience of using extended reality (XR) functionality are likely to be the first to embrace future devices as they are more positive about the potential of mixed-reality glasses. Half of 5G users who already use XR-related services weekly think that AR apps will move from smartphones to XR headsets within the next two years, compared to one-third of 4G consumer who hold this view.  

5G – the Next Wave Report: Six key trends 

    • 5G adoption to be inflation resilient: At least 510 million consumers across 37 markets are likely to take up 5G in 2023.  
    • The demanding next wave of users: The next wave of 5G users have high expectations on 5G performance, especially network coverage, compared to early adopters — who care about new innovative services enabled by 5G. 
    • Perceived 5G availability is emerging as the new satisfaction benchmark among consumers. Geographical coverage, indoor/outdoor coverage, and congregation hot-spot coverage are more important to building a user perception than population coverage.  
    • 5G is pushing up usage of enhanced video and augmented reality. Over the past two years, time spent on AR apps by 5G users has doubled to two hours per week. 
    • 5G monetization models are expected to evolve: Six in 10 consumers expect 5G offerings to move beyond more data volume and speeds to on-demand tailored network capabilities for specific needs. 
    • 5G adoption is setting the path to the metaverse. 5G users on average are already spending one hour more per-week in metaverse-related services than 4G users. They also expect two hours of more video content will be consumed weekly on mobile devices, 1.5 hours of which will be on AR/VR glasses by 2025. 

Thailand – According to the study, consumer 5G readiness is high in Thailand. 47 percent of users intend to sign up for 5G subscription in 2023. Furthermore, around 9 in 10 existing 5G users in Thailand say that despite rising costs they are not willing to go back to 4G. This shows a strong inclination towards 5G adoption. 1.5 times of the 5G potential users compared to current users see network coverage as the most important reason for signing up for 5G while 5G early adopters (92%) want more innovative service and devices.  

ผลการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอีริคสัน พบว่า 5G กำลังปูทางไปสู่โลกเมตาเวิร์ส

Ericsson’s largest consumer study shows 5G is already paving the path to the metaverse

ผลการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของอีริคสัน พบว่า 5G กำลังปูทางไปสู่โลกเมตาเวิร์ส

    • นับถึงวันนี้ รายงาน Ericsson ConsumerLab’s 5G: The Next Wave เป็นงานวิจัยด้าน 5G กับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด 
    • ผู้ใช้ 5G ใช้เวลาเฉลี่ยที่หนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์กับบริการบนเมตาเวิร์ส เช่น เกมส์เสมือนจริงและ AR เมื่อเทียบกับผู้ใช้ 4G  
    • ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภค 5G ที่ใช้บริการในกลุ่ม Extended-Reality (XR) เชื่อว่าแอปพลิเคชัน AR ต่าง ๆ จะย้ายจากสมาร์ทโฟนไปสู่อุปกรณ์ XR แบบสวมศีรษะภายใน ปี  

อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) เปิดรายงานใหม่ครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน ระบุถึงการใช้ 5G ในหลายส่วนของโลกเชื่อมหมุดหมายระหว่างผู้นำกระแส (Early Adopter) ไปสู่การยอมรับในวงกว้าง (Mass Adoption) พร้อมเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและความคาดหวังของพวกเขาต่อเครือข่าย 5G  กับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ในยุคถัดไป 

รายงาน Ericsson ConsumerLab หรือในชื่อ 5G: The Next Wave เผยผลกระทบของเครือข่าย 5G ที่มีต่อผู้บริโภคในกลุ่มผู้นำกระแสจากหลากหลายประเทศ รวมถึงประเมินความตั้งใจและความคาดหวังในการสมัครใช้เครือข่าย 5G ของกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่ได้เป็นผู้ใช้ 5G (Non-5G Subscribers) จากรายงานคาดการณ์ว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างน้อย 30% ตั้งใจสมัครใช้เครือข่าย 5G ภายในปีหน้า

รายงานนี้เป็นการผนวกและติดตามข้อมูลโดยอีริคสัน ครอบคลุมตั้งแต่การเปิดตัว 5G เมื่อปี 2562 ซึ่งการสำรวจผู้บริโภคครั้งล่าสุดนี้ ทำให้รายงาน Ericsson ConsumerLab สามารถระบุถึงแนวโน้มสำคัญ 6 ประการอันส่งผลกระทบต่อการนำ 5G มาใช้งานครั้งใหม่ 

รายงานยังครอบคลุมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมที่เกิดจากบริการดิจิทัลที่บันเดิลอยู่ในแผนหรือแพ็กเกจ 5G ของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSP) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แอปพลิเคชั่นวิดีโอและ AR ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น และในรายงานยังระบุถึงความเร็วในการนำเครือข่าย 5G ไปใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น การค้นพบความต้องการของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 5G และผลกระทบต่อการ รับ-ส่ง ข้อมูลในเครือข่าย 

งานวิจัยฉบับนี้ได้สัมภาษณ์ผู้บริโภคมากกว่า 49,000 ราย ใน 37 ประเทศ ถือเป็นการสำรวจผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 5G ทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน และเป็นแบบสำรวจผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดที่จัดทำโดยอีริคสันในทุกหัวข้อ ซึ่งขอบเขตในการสำรวจนี้จะเป็นตัวแทนความคิดเห็นของผู้บริโภคประมาณ 1.7 พันล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้เครือข่าย 5G ราว 430 ล้านราย 

มร.อิกอร์ มอเรล ประธานกรรมการ บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “การศึกษาเพิ่มเติมทำให้เราเข้าใจถึงมุมมองและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อเครือข่าย 5G อย่างแท้จริง รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าคลื่นลูกต่อไปของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริการ 5G มีความคาดหวังเทคโนโลยีที่แตกต่างจากเดิมเมื่อเทียบกับผู้ใช้ในกลุ่มผู้นำกระแส และในภาพรวม ผู้บริโภคมองว่าการมีส่วนร่วมกับ 5G เป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ในอนาคตของพวกเขา”  

“น่าสนใจที่ทราบว่าเครือข่าย 5G กำลังกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเปิดใช้งานสำคัญในบริการที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สของกลุ่มผู้นำกระแส อาทิ การเข้าสังคม การเล่น และการซื้อสินค้าดิจิทัลในแพลตฟอร์มเกมเสมือนจริง 3 มิติ แบบอินเตอร์แอคทีฟ นอกจากนี้ระยะเวลาที่ผู้ใช้ 5G ใช้ไปในแอปพลิเคชั่น Augmented Reality ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับผู้ใช้ 4G” มร.อิกอร์ กล่าวเพิ่มเติม 

รายงานยังคาดการณ์ว่าผู้บริโภค 5G ที่มีประสบการณ์ใช้ฟังก์ชัน Extended Reality (XR) จะเป็นผู้ใช้กลุ่มแรกที่เปิดรับอุปกรณ์ในอนาคต เนื่องจากพวกเขามีมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับศักยภาพของแว่นตา Mixed Reality Glasses โดยผู้ใช้ 5G ครึ่งหนึ่งที่ใช้บริการด้าน XR ทุกสัปดาห์คิดว่าแอปพลิเคชั่น AR จะย้ายจากสมาร์ทโฟนไปสู่อุปกรณ์ XR แบบสวมศีรษะภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ เมื่อเทียบกับ 1 ใน 3 ของผู้บริโภค 4G ที่มีมุมมองแบบเดียวกัน

6 แนวโน้มสำคัญในรายงาน 5G – the Next Wave  

    1. การใช้งานบริการ 5G ยังคงจะเติบโตสวนกระแสอัตราเงินเฟ้อ ผู้บริโภคอย่างน้อย 510 ล้านรายใน 37 ตลาดทั่วโลก มีแนวโน้มเปิดใช้งาน 5G ในปีหน้า (2566) 
    2. ความต้องการใช้งานใหม่ ๆ ของผู้ใช้: ผู้ใช้ 5G มีความคาดหวังสูงในด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย 5G โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความครอบคลุมของสัญญาณเครือข่าย ต่างจากผู้ใช้ในกลุ่มผู้นำกระแส ซึ่งสนใจเกี่ยวกับบริการที่เป็นนวัตกรรมที่เปิดใช้งานโดย 5G 
    3. ความพร้อมใช้งาน 5G ที่รับรู้ได้กำลังกลายเป็นมาตรฐานความพึงพอใจใหม่ในหมู่ผู้บริโภค ความครอบคลุมของสัญญาณเครือข่ายทางภูมิศาสตร์ ความครอบคลุมสัญญาณในอาคาร/นอกอาคาร และความครอบคลุมของสัญญาณในจุด Hot-Spot มีความสำคัญต่อการสร้างการรับรู้แก่ผู้ใช้มากกว่าความครอบคลุมของประชากร 
    4. 5G กำลังกระตุ้นการใช้วิดีโอและเทคโนโลยี AR ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมาผู้ใช้ 5G ใช้งานแอปพลิเคชั่น AR เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็นสองชั่วโมงต่อสัปดาห์ 
    5. โมเดลการสร้างรายได้ 5จะพัฒนามีความหลากหลายขึ้น: ผู้บริโภค 6 ใน 10 คาดหวังว่าข้อเสนอเกี่ยวกับ 5G จะมากกว่าแค่เรื่องปริมาณการใช้ข้อมูลและความเร็วที่มากขึ้นไปสู่ความสามารถเครือข่ายตามความต้องการเฉพาะ 
    6. การนำ 5G มาใช้งานกำลังกำหนดเส้นทางไปสู่เมตาเวิร์ส ผู้ใช้ 5G เฉลี่ยใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในบริการที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์ส มากกว่าผู้ใช้เครือข่าย 4G และยังคาดหวังจะใช้เวลาชมเนื้อหาประเภทวิดีโอบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อีกสองชั่วโมงทุกสัปดาห์ โดย 1.5 ชั่วโมงชมผ่านแว่นตา AR/VR ภายในปี 2568 

ประเทศไทย – จากการศึกษาของอีริคสันพบว่า ความพร้อมใช้งาน 5G ของผู้บริโภคในประเทศไทยอยู่ในระดับสูง โดยผู้ใช้ถึง 47% ตั้งใจสมัครใช้ 5G ในปี 2566 และประมาณ 9 ใน 10 ของผู้ใช้ 5G ในปัจจุบันระบุว่า พวกเขาไม่อยากกลับไปใช้เครือข่าย 4G อีก แม้ 5G จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อการนำ 5G ไปใช้งาน มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริการ 5G ประมาณ 1.5 เท่า ของผู้ใช้ 5G ปัจจุบัน โดยมองว่าเครือข่ายที่ครอบคลุมเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดในการสมัครใช้ 5G ขณะที่ผู้ใช้ 5G ในกลุ่มผู้นำกระแส (Early Adopter) 92% ต้องการบริการและอุปกรณ์ดีไวซ์ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022 Gartner® Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises

Infor Positioned, for the Second Consecutive Time, as a Leader in the 2022 Gartner® Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises

Infor®, the industry cloud company, today announced that Gartner® Inc. has positioned Infor, for the second consecutive time, as a Leader in the 2022 Gartner Magic Quadrant™ for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises.  

Infor also announced today that Gartner, in its 2022 Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, a companion report to the Magic Quadrant, scored Infor highest in three Use Cases – including the ERP for Midsize Enterprises Use Case, the ERP for Process Manufacturing Use Case, and the ERP for Discrete Manufacturing Use Case. In addition, Infor received the second highest score from Gartner in the ERP for Distribution of Goods Use Case.

Infor’s position as one of the Leaders in this Gartner Magic Quadrant was based on the Gartner evaluation of Infor’s Ability to Execute and Completeness of Vision.

Download a complimentary copy of the 2022 Gartner Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, published Sept. 26.

“We are honored to again be recognized by Gartner as a Leader in this Magic Quadrant – and to receive the highest scores in three Use Cases evaluated in the companion Critical Capabilities report,” said Soma Somasundaram, Infor Chief Technology Officer and President of Products. “As a company with deep vertical industry expertise, Infor strives to deliver prescribed industry processes as part of our products, which accelerates our customers’ time-to-value.

“Following this prescribed delivery approach cuts down on customizations, variability, time to implement, and cost,” he noted. “Our customers can deploy industry-specific, out-of-the-box cloud solutions and uptake new functionality quickly and easily.”

In its 2022 Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Gartner notes that, “Product-centric organizations are rapidly adopting cloud ERP applications with superior process automation and analytic capabilities. Application leaders should use this Magic Quadrant to evaluate cloud ERP vendors as part of a composable strategy that emphasizes standardization and agility.”

Infor CloudSuite solutions are industry-specific and are delivered as cloud services on Amazon Web Services’ (AWS’) secure and scalable infrastructure. Infor CloudSuites utilize Infor’s leading technology platform, Infor OS, to power next-generation user experiences, integration and workflows – which can help increase productivity and collaboration. Visit Infor’s Industry solutions page to learn more. 

Gartner, Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Greg Leiter, Dixie John, Robert Anderson, Tim Faith, 26 September 2022.

Gartner, Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, 28 September 2022, Dixie John, et al.

Gartner does not endorse any vendor, product or service depicted in its research publications, and does not advise technology users to select only those vendors with the highest ratings or other designation. Gartner research publications consist of the opinions of Gartner’s research organization and should not be construed as statements of fact. Gartner disclaims all warranties, expressed or implied, with respect to this research, including any warranties of merchantability or fitness for a particular purpose.

Gartner and Magic Quadrant are registered trademarks of Gartner, Inc. and/or its affiliates in the U.S. and internationally and are used herein with permission. All rights reserved.

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

Infor ครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน 2022 Gartner® Magic Quadrant

อีกทั้งยังได้รับคะแนนสูงสุดด้านการใช้งานเฉพาะสามประเภท ในรายงาน Gartner Critical Capabilities Cloud ERP for Product-Centric Enterprise 

Infor® บริษัทผู้ให้บริการด้านคลาวด์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท ประกาศว่า Gartner® Inc. ได้จัดให้ Infor เป็นผู้นำด้าน Cloud ERP for Product-Centric Enterprises เป็นปีที่สองติดต่อกันใน Gartner Magic Quadrant™ ประจำปี 2022

Infor ยังเปิดเผยว่า ใน Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นรายงานร่วมกับ Magic Quadrant ได้จัดให้ Infor ได้คะแนนสูงสุดด้านการใช้งานใน 3 ประเภทนี้ ได้แก่ ERP for Midsize Enterprises Use Case, ERP for Process Manufacturing Use Case และ ERP for Discrete Manufacturing Use Case นอกจากนี้ Infor ยังได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับสองจาก Gartner ในด้าน ERP for Distribution of Goods Use Case ด้วยเช่นกัน

การได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้นำใน Gartner Magic Quadrant ครั้งนี้ มาจากการประเมินความสามารถของ Infor ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดที่เกิดจากการตอบโจทย์ลูกค้าในปัจจุบัน และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับความต้องการทางการตลาดในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต

ลิงก์สำหรับดาวน์โหลดสำเนาของ Gartner Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 กันยายน 

นายโซมา โซมาซันดาราม หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Infor กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยกย่องจาก Gartner Magic Quadrant ให้เป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ และได้รับคะแนนสูงสุดด้านการใช้งานเฉพาะ 3 ประเภทจากการประเมินในรายงาน Critical Capabilities  ในฐานะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะด้านอย่างลึกซึ้ง Infor จึงมุ่งมั่นที่จะรวบรวมกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่เป็นมาตรฐานทั้งหลายไว้ในผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งจะช่วยเร่งระยะเวลาที่ลูกค้ารับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรให้เร็วขึ้น”

นายโซมากล่าวว่า “การปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานที่บริษัทฯ เตรียมไว้ให้นี้ จะช่วยลดการปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการ, ความเปลี่ยนแปลง, เวลาในการใช้งาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  ทำให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โซลูชันคลาวด์ที่พร้อมใช้งานทันทีสำหรับอุตสาหกรรมแต่ละประเภท และใช้ฟังก์ชันใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

Gartner ได้ระบุไว้ใน Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises ประจำปี 2022 ว่า “องค์กรที่เป็น product-centric ที่เน้นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์และความต้องการของลูกค้า กำลังปรับใช้แอปพลิเคชัน cloud ERP ที่มีคุณสมบัติด้านกระบวนการอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ที่เหนือกว่าอย่างรวดเร็ว ผู้นำด้านแอปพลิเคชันควรใช้ Magic Quadrant นี้เพื่อประเมินผู้จำหน่าย cloud ERP โดยกำหนดให้อยู่ในส่วนของกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างมาตรฐานและความคล่องตัว”

Infor CloudSuite เป็นโซลูชันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท และให้บริการแบบคลาวด์บนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ของ Amazon Web Services (AWS) โดยใช้ Infor OS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำของ Infor ขับเคลื่อนประสบการณ์ ตลอดจนการบูรณาการและเวิร์กโฟลว์ของผู้ใช้งานยุคใหม่ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและการทำงานร่วมกัน เยี่ยมชมและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Industry solutions page 

Gartner, Magic Quadrant for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, Greg Leiter, Dixie John, Robert Anderson, Tim Faith, 26 September 2022.

Gartner, Critical Capabilities for Cloud ERP for Product-Centric Enterprises, 28 September 2022, Dixie John, et al.

Gartner does not endorse any vendor, product or service depicted in its research publications, and does not advise technology users to select only those vendors with the highest ratings or other designation. Gartner research publications consist of the opinions of Gartner’s research organization and should not be construed as statements of fact. Gartner disclaims all warranties, expressed or implied, with respect to this research, including any warranties of merchantability or fitness for a particular purpose.

Gartner and Magic Quadrant are registered trademarks of Gartner, Inc. and/or its affiliates in the U.S. and internationally and are used herein with permission. All rights reserved.

 

PropertyGuru Group, parent company of DDproperty and thinkofliving.com repositions brand

DDproperty and thinkofliving.com repositions brand

PropertyGuru Group, parent company of DDproperty and thinkofliving.com repositions brand

with ‘Guidance’ at its core, promising property seekers, sellers, and owners – “We’ll see you home.”

    • The new brand positioning aims to establish PropertyGuru as a trusted advisor that delivers beyond ‘property search’, and provides guidance to everyone in the real estate ecosystem – seekers, sellers, agents, and developers
    • The repositioning reflects PropertyGuru’s growth in its leading marketplaces, and continued investments in Fintech and Data along with the introduction of a new enterprise brand ‘PropertyGuru For Business’
    • The Group today launched its biggest regional brand campaign to date across Singapore, Malaysia, Vietnam, and Thailand

October 5, 2022 – PropertyGuru Group Limited (NYSE: PGRU) (“PropertyGuru” or the “Group”), Southeast Asia’s leading[1], property technology (“PropTech”) company, today announced its brand repositioning that is centered around guidance to everyone in the property journey – including property seekers, sellers, agents, developers, banks, valuers, and city planners.

The new brand positioning – “Where every step of your journey will be guided by Guru”, reflects PropertyGuru’s vision to be a trusted advisor. It echoes the Group’s mission to help property seekers, sellers and owners make confident property decisions, beyond ‘property search’– as it journeys towards becoming Southeast Asia’s property ‘Trust Platform’.

The Group today introduced a new enterprise brand, ‘PropertyGuru For Business’ as it doubles down on innovative solutions that will guide its property enterprise partners to achieve their business goals. PropertyGuru For Business unifies PropertyGuru’s business-to-business (B2B) offerings and is designed to guide enterprise clients such as property developers, agencies, banks, valuers, and policy/city planners. Including proprietary solutions such as PropertyGuru FinanceDataSenseValueNet,  FastKey and event solutions, PropertyGuru For Business will deliver synergies by leveraging data and technology, to help all enterprise clients tap into new growth opportunities and optimise efficiency.

Announcing the brand repositioning, Hari V. Krishnan, Chief Executive Officer and Managing Director, PropertyGuru Group, said, “As Southeast Asia’s market leader, the Group is acting upon the responsibility of helping everyone in their property journey make more confident decisions. We will be the infrastructure through which anyone seeking or selling property can make confident property decisions because every interaction is upheld by principles that create trust between users. That infrastructure is the ‘Property Trust Platform’. We are introducing data solutions that bring transparency, use our innovations in technology to deliver efficiency and digitise property buying and selling, as we guide all our stakeholders on their property journey.

As we move beyond ‘property search’ and offer more end-to-end solutions, we will continue to deepen our investments in home finance, data, operating systems, and more – enabling every stakeholder with the right information and tools to make high-stakes decisions confidently.”

Remona Duquesne, Director of Brand, PropertyGuru Group, added, “Our brand repositioning reflects a strategic pivot into the Group’s new phase of growth outlining our value proposition that the Group offers, beyond search. We want to be right there at every step of the property journey, providing guidance in a market that is filled with complexity, mistrust, and anxiety. We will be that guide.

The brand repositioning sees a new narrative that better reflects our evolution. We will also enhance the experiences created across all platforms, from our offline presence to website, apps, and social platforms.”

The Group’s new brand positioning around ‘Guidance’ brings together all its business units. The brand tagline “We’ll see you home.” reflects different meaning of ‘home’ for stakeholders (seeker, owner, agent, developer, bank, valuer) – it could be their place of stay or their personal ambitions and goals. PropertyGuru will offer more data-led products, services, experiences, and marketing initiatives under this brand repositioning to guide consumers and partners throughout their property journeys.”

Undertaking its biggest integrated regional brand campaign that starts today and runs till the end of this year, unveils the Group’s new logo that is akin to a Trustmark – a symbol of trust in the property sector. The brand campaign spanning paid, earned, and owned channels, both above and below the line, targets property seekers, sellers, agents, and enterprise clients.  More details of the campaign can be found here.