Micro Leasing Becomes a Leader in Loan Services Using Nutanix to Bolster its Infrastructure

Micro Leasing ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินเชื่อครบวงจร เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้วย Nutanix

Micro Leasing Becomes a Leader in Loan Services Using Nutanix to Bolster its Infrastructure

Nutanix technology enables Micro Leasing to expand and help its customers be successful

Nutanix (NASDAQ: NTNX), a leader in hybrid multicloud computing, today said Micro Leasing PCL. used the Nutanix platform to modernize its datacenter, which enabled it to create a centralized environment to handle applications used by all of its branches across Thailand. 

Micro Leasing PCL (MICRO:BKK) is listed on the Stock Exchange of Thailand and has almost 3 decades of expertise in used truck hire-purchase. It realizes the significance and necessity of incorporating technology to transform its operating procedures to tackle various challenges and embrace the digital age. It also strives to become a market leader offering a complete range of financial loan services by expanding its businesses and product offerings to support the company’s growth and meet customer demands.

Mr. Preeda Iramaneerat, deputy managing director of Business Resources and Investment for Micro Leasing PCL said, “Because we are a financial institution offering hire-purchase services, we must adhere to stringent standards for operational reliability, timeliness, and transparency for all customer services and have robust security for customer data to comply with regulatory requirements.

“Therefore, we require high-performance, flexible, and efficient solutions that are scalable, can handle massive workloads, and provide our branches in 25 locations around the country with simultaneous access to our core applications.  Our hire-purchase sales department also must be able to function seamlessly from anywhere, at any time, enhancing our professional image. 

“We can confidently say Nutanix helps us meet every one of our needs.”

Preeda also noted COVID-19 had presented an unexpected influx of challenges including opportunities to broaden Micro Leasing’s services. The logistics industry became the fastest-growing segment during that time frame, so Micro Leasing seized on the opportunity to expand its offerings in that area. The new offerings include refinancing, loans, motorcycle hire-purchase, insurance brokers, and more. “We are able to be resilient during unexpected situations and achieve our goals because we have a long-term strategy to support technological changes today and in the future, which has included using Nutanix since 2018,” he said. 

Micro Leasing modernized the legacy infrastructure in its datacenter using Nutanix’s hyperconverged infrastructure. Moreover, Nutanix solutions have enabled it to improve its programs and disaster recovery systems, including the virtual desktops that enable its employees to access the company operating system from anywhere, and centralize and simplify the management of its IT from any one of its branches nationwide.  

Micro Leasing also aims to strengthen its IT through automation and cloud computing. Preeda said, “We are currently evaluating Nutanix’s hybrid multicloud solution and expect to install it soon since we are confident it will enable us to utilize the performance and capabilities of the cloud with total efficiency and achieve the security needed to protect our customers’ data.”

Mr. Han Chon, MD Sales – ASEAN, at Nutanix, said, “Having our products and services chosen by Micro Leasing is a tremendous honor for Nutanix. Nutanix’s hyperconverged infrastructure and our extensive solution suite are helping Micro Leasing achieve its current and future objectives”.

“Our hybrid multicloud solution will also help Micro Leasing achieve its goals of embracing private and public clouds. Moreover, it will enable them to develop innovative businesses and customer services, both online and offline, across multiple platforms in a short time with safety and stability.” 

Micro Leasing ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินเชื่อครบวงจร เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้วย Nutanix

Micro Leasing ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินเชื่อครบวงจร เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้วย Nutanix

Micro Leasing ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินเชื่อครบวงจร เสริมแกร่งโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้วย Nutanix

เทคโนโลยีของ Nutanix ช่วยให้ Micro Leasing ขยายธุรกิจ และเสริมความสำเร็จให้ลูกค้า

 นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศว่า บริษัทไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (Micro Leasing) เลือกใช้แพลตฟอร์มของ Nutanix ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีและดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย เพื่อรองรับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานแบบรวมศูนย์ และการใช้แอปพลิเคชันต่าง ๆ จากสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ

Micro Leasing (MICRO:BKK) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกใช้แล้วด้วยความเชี่ยวชาญเกือบสามทศวรรษ เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อรับมือกับความท้าทายนานัปการ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล โดยตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านสินเชื่อครบวงจร ด้วยการขยายธุรกิจและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รองรับการเติบโตของบริษัทฯ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า

นายปรีดา ไอรมณีรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการด้านทรัพยากรและการลงทุน บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากเราเป็นสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ การดำเนินงานต่าง ๆจึงต้องมีการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินงานด้านบริการลูกค้าทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และให้บริการได้สะดวกรวดเร็ว ตลอดจนมีการรักษาความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าอย่างรัดกุมให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ

ดังนั้น เราจึงต้องการใช้โซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่น และปรับขนาดได้ เพื่อรองรับปริมาณงานจำนวนมหาศาล และให้ผู้ปฏิบัติงานจาก 25 สาขาทั่วประเทศของเราสามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันหลักของบริษัทฯ ได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังช่วยให้ฝ่ายสินเชื่อเช่าซื้อสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นจากทุกที่ทุกเวลา เสริมภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพขององค์กร”

“เราพูดได้อย่างมั่นใจว่า Nutanix ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ทั้งหมด”

วิกฤตโควิด-19 นำมาซึ่งความท้าทายมากมายที่คาดไม่ถึง และนำมาซึ่งโอกาสที่ Micro Leasing ได้รับประโยชน์จากการขยายบริการเพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์ที่กลายเป็นกลุ่มมีอัตราการที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงนั้น และเป็นโอกาสให้บริษัทฯ ขยายผลิตภัณฑ์และบริการเพิ่มขึ้น อาทิ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ บริการนายหน้าประกันภัย เป็นต้น  นายปรีดากล่าวว่า “ในสภาวการณ์วิกฤตนี้ ไมโครลิสซิ่งยังคงสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น และบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ เพราะเรามีการวางกลยุทธ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในระยะยาว โดยมี Nutanix เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่อยู่ในกลยุทธ์ของเราตั้งแต่ปี 2561” 

Micro Leasing ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเดิมในศูนย์ข้อมูลให้ทันสมัย โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จของ Nutanix โซลูชันอื่น ๆ ของ Nutanix ได้เปิดใช้งานเพื่อปรับปรุงโปรแกรมและระบบการกู้คืนความเสียหาย พร้อมให้บริการเวอร์ชวลเดสก์ท็อป ที่ช่วยให้พนักงานสามารถทํางานผ่านระบบปฏิบัติการได้จากทุกที่ รวมศูนย์และลดความซับซ้อนของการจัดการแบบบูรณาการได้จากทุกสาขาทั่วประเทศ

Micro Leasing ตั้งเป้าหมายที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยระบบอัตโนมัติและคลาวด์คอมพิวติ้ง “ปัจจุบันเรากําลังประเมินโซลูชันไฮบริดมัลติคลาวด์ของ Nutanix และวางแผนที่จะดำเนินการติดตั้งเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเราเล็งเห็นถึงสมรรถนะและประโยชน์จากการใช้โซลูชันเหล่านี้ที่จะช่วยให้ระบบคลาวด์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความมั่นใจกับระบบการรักษาความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลของลูกค้าอีกด้วย” นายปรีดากล่าว

นายฮาน ชนม์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียนของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “Nutanix รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Micro Leasing วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีและโซลูชันของเรา โครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จและชุดโซลูชันที่ครอบคลุมของ Nutanix สามารถช่วยให้ Micro Leasing บรรลุเป้าหมายทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

“เราเชื่อมั่นว่าโซลูชันไฮบริดมัลติคลาวด์ของบริษัทฯ จะช่วยให้ Micro Leasing บรรลุแผนงานในการใช้ไพรเวทและพับลิคคลาวด์ร่วมกันได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังช่วยให้สร้างนวัตกรรมทั้งด้านบริการและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเสถียร ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ”

Ericsson Mobility Report Business Review edition: 5G drives revenue growth

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

Ericsson Mobility Report Business Review edition: 5G drives revenue growth

    • Communications Service Providers in Top 20 5G markets enjoying revenue growth
    • Enhanced Mobile broadband and Fixed Wireless Access proving popular early use cases
    • Cloud gaming, enterprise and industrial deployments gaining momentum

New research from the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report team provides encouraging evidence for communication service providers (CSPs) worldwide by identifying a correlation between 5G uptake and revenue growth.

Flattening revenues have been a challenge for service providers in all parts of the world, often impacting network investment decisions as part of their business growth strategies, known as ‘monetization’ in the industry.

A special Ericsson Mobility Report edition – called the Business Review edition – addresses these monetization opportunities as they relate to 5G.

The report highlights a positive revenue growth trend since the beginning of 2020 in the top 20* 5G markets – accounting for about 85 percent of all 5G subscriptions globally – that correlates with increasing 5G subscription penetration in these markets.

The report finds:

    • Tiered pricing models are key for service providers, both for effectively addressing the individual needs of each customer and for continuing to drive long-term revenue growth.
    • The top 20 5G markets have seen a significant network performance boost following the introduction of 5G services.
    • After a period of slow or no growth, wireless service revenue curves are again pointing upwards in these leading markets. This correlate with 5G subscription penetration growth.

Fredrik Jejdling, Executive Vice President and Head of Networks, Ericsson, says: “Meeting our customers’ challenges is at the heart of our R&D efforts and every resulting product we develop. The link between 5G uptake and revenue growth in the top 20 5G markets underlines that not only is 5G a game changer, but that early adopters benefit. What is particularly encouraging about this is that while 5G is still at a relatively early phase, it is growing fast with proven early use cases and a clear path to medium and long-term use cases.”

As expected, Enhanced Mobile Broadband (eMBB) is the main early use case for 5G, driven by increasing geographical coverage and differentiated offerings. More than one billion 5G subscriptions are currently active across some 230 live commercial networks globally. 5G eMBB offers the fastest revenue opportunities for 5G, as it is an extension of service providers’ existing business, relying on the same business models and processes. Even in the top 20 5G markets, about 80 percent of consumers have yet to move to 5G subscriptions – one pointer to the potential for revenue growth.

As highlighted in the November 2022 Ericsson Mobility Report, Fixed Wireless Access (FWA) is the second biggest early 5G use case, particularly in regions with unserved or underserved broadband markets. FWA offers attractive revenue growth potential for CSPs as it largely utilizes mobile broadband assets. FWA connections are forecast to top 300 million within six years.

Beyond consumer subscribers, there are growing opportunities in enterprise and public sector applications across the world.

5G enables significant value for enterprises, with private 5G networks and wireless wide area networks being deployed for enterprise and industrial use.

Upgrading existing 4G sites to 5G has the potential to realize increases of 10 times in capacity and reduce energy consumption by more than 30 percent, offering the possibility of growing revenue and lowering costs, while addressing sustainability.

Jejdling adds: “Revenue growth and sustainability are recurring themes in my discussions with customers. In this special Ericsson Mobility Report edition, we have explored how service providers are tapping 5G opportunities. We see initial signs of revenue growth in advanced 5G markets with extensive coverage build-out and differentiated service offerings. An equally crucial aspect of 5G is that it brings cost advantages and helps service providers handle the data growth needed to drive future revenue. This can make 5G the growth catalyst that the market has been waiting for.”

Read the full Ericsson Mobility Report Business Review Edition report here.

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษ Business Review edition เผย 5G ขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้

    • ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก พอใจกับรายได้ที่เติบโต
    • บริการ Enhanced Mobile broadband (eMBB) และ Fixed Wireless Access (FWA) เป็น Use Case ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในเบื้องต้น
    • ภาคอุตสาหกรรมและองค์กรต่างนำบริการคลาวด์เกมมิ่ง (Cloud Gaming) มาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง

ผลวิจัยล่าสุดจากทีม Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report เผยหลักฐานสนับสนุนสำคัญแก่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ทั่วโลก ซึ่งชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของการนำ 5G มาปรับใช้และการเติบโตของรายได้

การเติบโตของรายได้เป็นความท้าทายของผู้ให้บริการทั่วโลกที่มักส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนด้านเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจของพวกเขาหรือเรียกว่า ‘การสร้างรายได้ (Monetization)’ ในอุตสาหกรรม

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษที่เรียกว่า Business Review edition นำเสนอโอกาสต่าง ๆ สำหรับการสร้างรายได้จากบริการ 5G

โดยรายงานนี้เน้นย้ำถึงแนวโน้มการเติบโตของรายได้แง่บวกตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2020 ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 แห่ง* คิดเป็น 85% ของยอดผู้ใช้บริการ 5G ทั้งหมดทั่วโลก และสัมพันธ์กับยอดผู้ใช้บริการ 5G ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในตลาดเหล่านี้

รายงานฉบับนี้พบว่า:

    • โมเดลการกำหนดราคาตามกลุ่มลูกค้า (Tiered Pricing) เป็นกุญแจสำคัญของผู้ให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของแต่ละลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องระยะยาว
    • ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 แห่ง พบว่ามีประสิทธิภาพเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลัง 5G เปิดให้บริการ
    • เส้นกราฟรายได้จากบริการเครือข่ายไร้สายจะพุ่งขึ้นอีกครั้งในตลาด 5G ชั้นนำเหล่านี้ หลังจากช่วงเติบโตช้าหรือไม่มีการเติบโต ซึ่งสัมพันธ์กับยอดการขยายตัวของผู้ใช้บริการ 5G

เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของอีริคสันกล่าวว่า “การรับมือกับความท้าทายของลูกค้าคือหัวใจสำคัญของความมุ่งมั่นพยายามในด้านการวิจัยและพัฒนาในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ของอีริคสัน โดยความเชื่อมโยงระหว่างการนำเครือข่าย 5G มาปรับใช้และการเติบโตของรายได้ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก ตอกย้ำให้เราเห็นว่าเครือข่าย 5G ไม่เพียงแต่เป็น Game Changer เท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์แก่ผู้นำไปใช้ระยะแรกอีกด้วย แม้ว่า 5G จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีการเติบโตรวดเร็วจากกรณีการใช้งานที่ได้รับการยืนยันแล้ว และยังมีแผนการสร้างกรณีการใช้งานทั้งในระยะกลางและระยะยาวที่ชัดเจน”

ตามที่คาดไว้ บริการ Enhanced Mobile Broadband (eMBB) จะเป็นการใช้งานหลักของเครือข่าย 5G ในช่วงแรก โดยได้รับแรงหนุนมาจากความต้องการเพิ่มความครอบคลุมสัญญาณทางด้านภูมิศาสตร์และมอบข้อเสนอที่แตกต่าง ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน 5G มากกว่าหนึ่งพันล้านรายอยู่บนเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ที่เปิดให้บริการอยู่230 เครือข่ายทั่วโลก โดยบริการ 5G eMBB มอบโอกาสในการสร้างรายได้ที่รวดเร็วที่สุดสำหรับ 5G เนื่องจากเป็นบริการส่วนขยายจากธุรกิจที่มีอยู่เดิมของผู้ให้บริการ อาศัยโมเดลธุรกิจและใช้กระบวนการแบบเดียวกัน แม้แต่ในตลาด 5G ชั้นนำ 20 อันดับแรก ก็ยังมีผู้บริโภคประมาณ 80% ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ 5G นับว่าเป็นตัวชี้ชัดสำคัญถึงศักยภาพในการเติบโตของรายได้

ตามที่ระบุไว้ในรายงาน Ericsson Mobility ฉบับเดือนพฤศจิกายนปีก่อนว่าบริการ Fixed Wireless Access (FWA) จะมีกรณีการใช้งาน 5G ในช่วงแรกขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ยังไม่มีตลาดบรอดแบนด์และผู้บริโภคยังเข้าไม่ถึงบริการดังกล่าว สำหรับบริการ FWA นั้นมีศักยภาพการเติบโตของรายได้ที่น่าสนใจสำหรับ CSPs เนื่องจากใช้ศักยภาพของบรอดแบนด์มือถือเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่าจะมีการเชื่อมต่อ FWA สูงถึง 300 ล้านครั้งภายในหกปี

นอกเหนือจากผู้บริโภคที่ใช้บริการ 5G แล้ว ยังมีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นจากการนำเครือข่าย 5G ไปใช้ในระดับองค์กรและภาครัฐทั่วโลก

5G ช่วยทำให้เกิดคุณค่าสำคัญสำหรับองค์กร ด้วยเครือข่าย 5G แบบส่วนตัวและเครือข่ายไร้สายที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างที่นำมาใช้ในองค์กรและในภาคอุตสาหกรรม

การอัปเกรดเครือข่าย 4G ที่มีอยู่เดิมให้เป็นเครือข่าย 5G ที่มีศักยภาพมากกว่าถึง 10 เท่า และลดปริมาณการใช้พลังงานได้มากกว่า 30% ช่วยเพิ่มรายได้พร้อมลดต้นทุนและยังสอดรับกับความยั่งยืน

“การเติบโตของรายได้และความยั่งยืนเป็นหัวข้อสนทนาประจำระหว่างเรากับลูกค้า โดยรายงาน Ericsson Mobility ฉบับพิเศษนี้ เราได้สำรวจวิธีที่ผู้ให้บริการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G และเห็นสัญญาณเริ่มต้นของการเติบโตของรายได้ในตลาด 5G ชั้นนำ จากการขยายความครอบคลุมของสัญญาณที่กว้างขวางและการมอบข้อเสนอด้านบริการที่แตกต่าง โดยยังมีด้านที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือสามารถสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนและช่วยจัดการกับการเติบโตด้านข้อมูลที่มีผลต่อการขับเคลื่อนรายได้ในอนาคต ตอกย้ำให้เห็นว่าเครือข่าย 5G เป็นตัวเร่งการเติบโตที่ตลาดรอคอย” เฟรดริก เจดลิง กล่าวเพิ่มเติม

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ Ericsson Mobility Report Business Review Edition report

Top 6 predictions for the food and beverage industry in 2023

Supply Chain’s Wild Ride Continues

Top 6 predictions for the food and beverage industry in 2023

Expect rising automation and deployment of AI/ML, supply chain agility & cost, food innovation, and demand for consumer transparency and sustainability

By Terry Smagh, Senior Vice President and General Manager for Asia Pacific and Japan, Infor

As we roll into 2023, the food & beverage industry will explore new avenues for products, sourcing, and technology to become better equipped for the unexpected. The industry has been greatly affected by consumer preferences in the past decade, which has catalyzed and pushed businesses to innovate quickly. Food & beverage organizations will further lean on cloud-based solutions to get to the next level in 2023 and will scale their businesses to meet consumer demand while addressing the pressures of supply chain instability and climate change. 

Anticipated trends and predictions that food & beverage organizations should consider in 2023 include:

    1. Supply chain agility & cost: Disruption is the new normal. An unpredictable future is the only certainty we know for the global supply chain. Coupled with the inflation of commodity prices and other external factors such as geopolitical tensions and the global chip shortage, the food & beverage supply chain needs agility in planning to spot issues sooner and meet demand. Food manufacturers need to be agile and plan for the unexpected with frequent changes in demand and supply and keep a close eye on its impact on production. Food & beverage businesses will diversify their raw material and supplier options further in 2023 to make up for supply disruptions. Organizations will need to meet demand as accurately as possible to ensure smooth operations and optimize production.
    2. Manufacturing automation: Undoubtedly, the global labor shortage has become a post-pandemic issue affecting the output of the food & beverage industry. The new generation of workers is not looking for life-long employment and is interested in careers that align with their values. Given the pressure to maintain supply with heightened demand, food & beverage organizations will need to invest in Industry 4.0 technologies to make up for the lack of employees. An example is using image recognition with machine learning (ML) so robots can automate labor-intensive tasks that previously required human eyes and decisions, such as in sorting, grading, cutting, and slicing. Food and beverage organizations that embrace these new technologies sooner will likely become the future leaders.
    3. Rise of artificial intelligence & ML: Artificial intelligence (AI) and machine learning (ML) solutions will be more heavily adopted for businesses in the cloud. For example, a dairy company implemented a machine learning model that optimizes the yield and minimizes waste in cheese making. In the past, the company could only analyze production output and a few contributing parameters such as protein, butterfat, and temperature looking backwards, which was too late to improve the yield. Today, the dairy can adjust the process continuously, considering many more contributing parameters. A 1 percent improvement in yield already equals $500,000 of cost savings. We will see more of these smart cost-saving use cases being implemented next year.
    4. Accelerated food innovation: Swapping out ingredients, sourcing from alternative suppliers, and decreasing pack sizes because of shortages and price increases will be a top trend. Besides that, true food innovation is becoming the new norm. Many startups in alternative proteins, lab-grown meats or synthetic dairy will be scaling up rapidly thanks to consumer adoption and the willingness of large food companies to invest in these innovations. There is also accelerated speed of product innovation to respond to consumers request, introduce different packaging sizes, to swap ingredients, or to source from alternative suppliers.
    5. Consumer transparency: Consumers are looking to learn more about the product, e.g., where is it from, are farmers and animals treated well, environmental impact, what are the functional benefits, etc. There is an ask from consumers but also an opportunity for food and beverage processors to tell their story with smart packaging showing traceability, freshness, etc., but also to connect and interact with the consumer in a digital way. There is a wealth of data that can be collected and analyzed, and then used in improving existing products and/or for new product innovation.
    6. Sustainability and transparency: As climate change becomes a more imminent threat, the food and beverage industry will undoubtedly be affected. Organizations will need to consider alternative local sourcing for products and lean into machine learning for energy, water, and food waste reduction. Within manufacturing, businesses primarily reduce waste (water, energy, food), as well as extending up and downstream the supply chain, e.g., farming practices, certifications, transportation. It’s important to evaluate suppliers based on total carbon footprint, i.e., within manufacturing and in transportation. Sourcing locally is not only about supporting the community but overall reducing the larger carbon footprint. For businesses to be more sustainable with packaging, the use of more environmentally friendly, reusable or even edible options can reduce waste and a carbon footprint. Full supply chain transparency will continue to be top of mind, as governmental and public pressures push organizations to share their progress on sustainability and transparency.

Learn more about how we deliver cloud-based software innovation to food and beverage businesses.