Nutanix Announces Nutanix Central, Cloud to Edge Management Solution

Nutanix เปิดตัว Nutanix Central โซลูชันบริหารจัดการตั้งแต่ Cloud จนถึง Edge

Nutanix Announces Nutanix Central, Cloud to Edge Management Solution

Company Will Extend Universal Cloud Operating Model to Consistently Run Apps and Data Anywhere

Nutanix (NASDAQ: NTNX), a leader in hybrid multicloud computing, today announced Nutanix Central, a cloud-delivered solution that provides a single console for visibility, monitoring and management across public cloud, on-premises, hosted or edge infrastructure. This will extend the universal cloud operating model of the Nutanix Cloud Platform to break down silos and simplify consistently managing apps and data anywhere.

Most organizations today are struggling with the complexity of managing an increasing number of environments across on-premises, public cloud and the edge, leading to management silos, costs, security risks and more, according to the Enterprise Cloud Index. Organizations looking for a seamless hybrid multicloud experience require a universal cloud operating model, meaning consistent management across endpoints, integrated security, self-service and on-demand resources, governance and full license portability that allow customers to run apps and data anywhere. The Nutanix Central solution will greatly simplify management at a large, federated scale across endpoints.

“The reality for most enterprise customers today is that they’re managing a vast number of applications across multiple environments. This is leading to significant management challenges that are only going to increase as hybrid multicloud deployments grow,” said Thomas Cornely, SVP, Product Management at Nutanix. “With Nutanix Central, we will extend our hybrid multicloud platform to deliver a truly universal cloud operating model to include consistent management across public clouds, on-premises, hosted and edge environments.”

Nutanix Central will provide cloud-delivered unified management and reporting of the entire Nutanix environment distributed across private, public, and edge clouds from a single place. It will also support multi-domain use cases including federated identity and access management (IAM), global projects and categories, global fleet management, all enabling IT teams to deliver self-service infrastructure at scale while remaining in control of governance and security.

From the Nutanix Central dashboard, customers will access domain and cluster-level metrics, including capacity utilization and alert summary statistics, to get a quick overview of the state of each domain. This functionality will also enable seamless navigation to individual domains, based on individual user role-based access control (RBAC), across all domains registered. Additionally, customers will be able to discover, deploy, and manage Nutanix solutions and interoperable partner solutions. Nutanix Central will be available to customers as part of their Nutanix Cloud Infrastructure (NCI) license.

Organizations struggling with managing applications and data across environments, including multiple public clouds, on-premises, hosted datacenter and edge endpoints, will benefit from Nutanix Central and a universal cloud operating model. For example, an organization with hosted datacenters in multiple locations, as well as different public cloud vendors across geographies will be able to enable a centralized governance and security program. Similarly, retailers with a large number of stores would greatly benefit from having one control plane to manage edge locations.

In addition to Nutanix Central, the company today also announced new capabilities in the Nutanix Cloud Platform to support higher performant and more secure applications and data – all of which will be managed through Nutanix Central. Specifically, the improvements enable independent scaling of compute-only nodes running database virtual machines on either AHV or ESXi, to tune performance and reduce total cost of ownership, and the introduction of high-performance storage-only nodes. Nutanix will also deliver enhanced software-defined networking and simplified micro-segmentation capabilities across customer, partner, and hyperscaler-owned networks by using Flow Virtual Networking (FVN) capabilities and Flow Network Security (FNS) features, allowing customers to exercise defense-in-depth for greater cyber resilience.

Nutanix Central and new functionality in Flow Network Security are under development. New performance capabilities in the Nutanix Cloud Platform and new functionality in Flow Virtual Networking are available to customers now. More information is available here.

Supporting Quotes:

“Leading Global Enterprises rely on TCS to help them choose, orchestrate, and optimize their hybrid multi-cloud strategy. Nutanix is often TCS’ platform of choice for delivering this technology ask and creating business value. With its seamless governance & security management, Nutanix Central helps TCS and its customers break down IT silos and bring the focus back to business metrics.”

    • Dinanath Kholkar, SVP and Global Head of Partner Ecosystems & Alliances at TCS

“One of the biggest shifts in IT that we have seen since the pandemic is that businesses don’t want to be caught flat footed anymore. One of the elements of ensuring this is cloud adoption and datacenter modernization but the other, equally important, element is developing an operational approach that is universal across environments. With Nutanix Central, Nutanix will push the envelope on what hybrid multicloud means by delivering the same operating model and management across multiple clouds along with full license portability.”

           – Scott Sinclair, Practice Director, ESG

 

Nutanix เปิดตัว Nutanix Central โซลูชันบริหารจัดการตั้งแต่ Cloud จนถึง Edge

Nutanix เปิดตัว Nutanix Central โซลูชันบริหารจัดการตั้งแต่ Cloud จนถึง Edge

Nutanix เปิดตัว Nutanix Central โซลูชันบริหารจัดการตั้งแต่ Cloud จนถึง Edge

บริษัทจะขยายโมเดลการดำเนินงานที่ใช้กับคลาวด์ต่างๆ ได้ครอบคลุมเพื่อรันแอปพลิเคชันและดาต้าที่ใดก็ได้

นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศเปิดตัว Nutanix Central โซลูชัน cloud-delivered ที่มอบสมรรถนะในการมองเห็นสถานะความเป็นไป การติดตามตรวจสอบ และการบริหารจัดการบนสภาพแวดล้อมพับลิคคลาวด์, ระบบที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร, โครงสร้างพื้นฐานที่โฮสต์กับผู้ให้บริการ หรือที่เอดจ์ ได้ครบถ้วนจากคอนโซลเดียว นับเป็นการขยายการใช้ Nutanix Cloud Platform ซึ่งเป็นโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้ครอบคลุมกับคลาวด์ที่หลากหลาย ไปใช้ขจัดการทำงานที่เป็นไซโล และช่วยให้บริหารจัดการแอปพิเคชันและข้อมูลได้จากทุกที่เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไม่ยุ่งยาก

ข้อมูลจากผลสำรวจ Enterprise Cloud Index ของนูทานิคซ์ ระบุว่า องค์กรจำนวนมากในปัจจุบัน ต่างติดกับดักความยุ่งยากในการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมไอทีที่ต่างกันจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ภายในองค์กร อยู่บนพับลิคคลาวด์ และที่เอดจ์ ทำให้การบริหารจัดการเป็นไซโลแยกส่วน ต้องจัดการกับเรื่องต้นทุน ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมาก องค์กรต่างมองหาและต้องการใช้ไฮบริดมัลติคลาวด์ที่ผสานการทำงานได้แบบไร้รอยต่อ ซึ่งต้องเป็นโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลายประเภท สามารถบริหารจัดการได้อย่างสอดคล้องกันทุกจุดการใช้งาน (endpoint: เอ็นด์พอยต์) มีความปลอดภัยติดตั้งมาแล้วเบ็ดเสร็จ บริการตนเองได้ และมีแหล่งทรัพยากรที่เรียกใช้ได้ตามต้องการ กำกับดูแลได้ และสามารถนำไลเซนส์ของโมเดลนั้นไปใช้กับสภาพแวดล้อมอื่นได้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถรันแอปพลิเคชันและดาต้าที่ใดก็ได้ โซลูชัน Nutanix Central นี้จะช่วยให้การบริหารจัดการทำได้ง่ายขึ้นมาก เป็นการรวมศูนย์การดำเนินงานจากทุกเอ็นด์พอยต์มาบริหารจัดการจากที่เดียว

นายโธมัส คอร์เนลี รองประธานอาวุโสด้านการจัดการผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “ปัจจุบันลูกค้าที่เป็นองค์กรเกือบทั้งหมดต้องบริหารจัดการแอปพลิเคชันจำนวนมากที่อยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีที่หลากหลาย ทำให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการเรื่องสำคัญหลายประการมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้คลาวด์หลายประเภทร่วมกัน (ไฮบริดมัลติคลาวด์) เพิ่มขึ้น เราขยายแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์ของนูทานิคซ์ผ่าน Nutanix Central เพื่อมอบโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลากหลายอย่างแท้จริง เพื่อรวมการบริหารจัดการหนึ่งเดียวที่สอดคล้องกันเข้ากับการใช้พับลิคคลาวด์ต่าง ๆ, ระบบที่ติดตั้งในองค์กร, ที่โฮสต์กับผู้ให้บริการต่าง ๆ และที่เอดจ์”

Nutanix Central จะให้บริการการบริหารจัดการ cloud-delivered แบบรวมศูนย์ และการรายงานสภาพแวดล้อมที่อยู่บนนูทานิคซ์ทั้งหมดจากจุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นไพรเวท พับลิค และเอดจ์ ทั้งยังรองรับการใช้งานหลายโดเมนร่วมกัน รวมถึงการจัดการระบบพิสูจน์อัตลักษณ์และการเข้าใช้ทรัพยากร (IAM) แบบรวมศูนย์, โปรเจกต์และหมวดหมู่ต่าง ๆ ทั่วโลก, การจัดการ fleet ทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมไอทีสามารถให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่บริการตนเองได้ตามความต้องการ และยังสามารถควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยได้

ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพรวมของสถานะของแต่ละโดเมน รวมถึงการใช้พื้นที่และสถิติสรุปการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ตัวชี้วัดของโดเมนและคลัสเตอร์ต่าง ๆ ผ่านแดชบอร์ดของ Nutanix Central ฟังก์ชันนี้ยังช่วยนำทางไปยังโดเมนแต่ละรายการ โดยเป็นไปตามการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงตามบทบาทของผู้ใช้แต่ละคน (RBAC) ในโดเมนทุกรายการที่ลงทะเบียนไว้ ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ลูกค้าจะสามารถค้นหา ใช้งาน และบริหารจัดการโซลูชันต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ และโซลูชันของพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันได้ Nutanix Central จะพร้อมให้บริการลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของไลเซนส์ Nutanix Cloud Infrastructure™ (NCI) ของลูกค้าแต่ละราย

องค์กรที่ติดขัดกับการบริหารจัดการแอปพลิเคชันและดาต้าที่อยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีต่าง ๆ เช่น มัลติพับลิคคลาวด์, ระบบที่ติดตั้งในองค์กร, ที่โฮสต์ไว้กับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ และเอนด์พอยต์ที่เอดจ์ จะได้รับประโยชน์จาก Nutanix Central และโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลากหลาย เช่น องค์กรที่โฮสต์ไว้กับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในโลเคชันหลายแห่ง รวมถึงเวนเดอร์ที่ให้บริการพับลิคคลาวด์ที่แตกต่างกันในที่จัดเก็บหลายแห่ง จะสามารถใช้โปรแกรมการควบคุมกฎระเบียบและความปลอดภัย ณ จุดศูนย์กลางแห่งเดียว เช่นเดียวกับผู้ค้าปลีกที่มีร้านค้าจำนวนมาก จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากความสามารถในการบริหารจัดการร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้จากศูนย์ควบคุมแห่งเดียว

นอกจาก Nutanix Central แล้ว นูทานิคซ์ยังได้เปิดตัวความสามารถใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้าไปยัง Nutanix Cloud Platform เพื่อรองรับแอปพลิเคชันและดาต้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้นที่ได้รับการบริหารจัดการผ่าน Nutanix Central โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถสเกลเฉพาะ compute-only nodes ที่รันดาต้าเบสเวอร์ชวลแมชชีนบน AHV หรือ ESXi เพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพและลดต้นทุนรวม และนำสู่การใช้ storage-only nodes ที่มีประสิทธิภาพสูง นูทานิคซ์ยังคงนำเสนอระบบเน็ตเวิร์กที่ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์และได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการทำ micro-segmentation ที่ง่ายขึ้นให้กับลูกค้า พันธมิตร และ hyperscaler-owned networks ผ่านการใช้ความสามารถของ Flow Virtual Networking™ (FVN) และฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Flow Network Security™ (FNS) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถนำการป้องกันเชิงลึกมาใช้ เพื่อจะได้มีความยืดหยุ่นทางไซเบอร์มากขึ้น

Nutanix Central และฟังก์ชันใหม่ ๆ ของ Flow Network Security อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่วนความสามารถด้านประสิทธิภาพใหม่ ๆ ของ Nutanix Cloud Platform และฟังก์ชันใหม่ของ Flow Virtual Networking พร้อมให้บริการลูกค้าแล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

คำกล่าวสนับสนุน

“องค์กรระดับแนวหน้าของโลกใช้ TCS เพื่อช่วยพวกเขาเลือก, ผสานการทำงาน, และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์ของตน นูทานิคซ์เป็นแพลตฟอร์มที่ TCS มักเลือกใช้เพื่อให้บริการเทคโนโลยีนี้ และสร้างมูลค่าทางธุรกิจ Nutanix Central มอบการบริหารจัดการด้านการกำกับดูแลและความปลอดภัยอย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ TCS และลูกค้าของเราขจัดไซโลด้านไอทีและหันมาโฟกัสที่ตัวชี้วัดทางธุรกิจต่าง ๆ”

    • Dinanath Kholkar, SVP and Global Head of Partner Ecosystems & Alliances at TCS

“การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อย่างหนึ่งในด้านไอทีที่เราได้เห็นตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 คือ การที่ธุรกิจต่าง ๆ ไม่ต้องการตกอยู่ในภาวะยากลำบากโดยไม่รู้ตัวมาก่อนอีกต่อไป หนึ่งในองค์ประกอบที่มั่นใจได้ว่าจะช่วยให้ไม่ตกอยู่ในภาวะเดียวกันนี้อีก คือการใช้คลาวด์และการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย แต่ยังมีองค์ประกอบที่สำคัญเท่าเทียมกัน คือ การพัฒนาแนวทางการดำเนินงานที่ใช้ได้กับสภาพแวดล้อมไอทีหลากหลายในวงกว้าง Nutanix Central คือการที่นูทานิคซ์ขยายขีดความสามารถของไฮบริดมัลติคลาวด์ให้ไกลกว่าเดิม ด้วยการให้บริการโมเดลการดำเนินงานและการบริหารเดียวเพื่อใช้กับมัลติคลาวด์ ที่มาพร้อมความสามารถในการพกพาไลเซนส์ไปใช้ได้เต็มรูปแบบ”

           – Scott Sinclair, Practice Director, ESG

 

Alibaba Cloud Unveils Plans to Strengthen Global Partnership Ecosystem

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดแผนงานเสริมแกร่งระบบนิเวศพันธมิตรทั่วโลก

Alibaba Cloud Unveils Plans to Strengthen Global Partnership Ecosystem

New initiatives launched on ISV acceleration, partner training empowerment and new reselling incentives at Alibaba Cloud Partner Summit 2023

Alibaba Cloud, the digital technology and intelligence backbone of Alibaba Group, is set to further empower its ecosystem partners through a series of new initiatives, including the launch of an Independent Software Vendor (ISV) Acceleration Program, a training empowerment program for partners, as well as new incentives to reward partner excellency.

“We are committed to growing together with our global partners and providing them with even stronger support to expand their businesses into Southeast Asia and beyond,” said Edward Cai, Chief Commercial Officer, Alibaba Cloud Intelligence at the company’s Partner Summit 2023 in Singapore. “All new initiatives underscore how much value we place on our partners. Together with our partners’ industry know-how, technology capabilities and market insights, we can deliver significant benefits to our customers.” 

New Initiatives to Support Partners’ Growth

Alibaba Cloud’s ISV Acceleration Program was launched to provide global ISVs with new financial incentives and more robust technical support to expand their business opportunities in Southeast Asia. As part of the program, the cloud leader will help its ISV partners to optimize the marketplace listing fee on Alibaba Cloud’s marketplace platform, and expand the product sales through Alibaba Cloud’s sales team and its vast network of channel partners.

Alibaba Cloud also pledges to enhance technical support for global ISV partners, offering comprehensive technical enablement resources to help them build, publish and operate their solutions on the cloud platform. In addition, the company will invest to co-develop customized products and solutions with its ISV partners, in order to meet the diverse digital transformation demands from customers across Southeast Asia.

ISV partners including Neo4J (graph database provider), 6Estates (AI fintech platform), One2Cloud Pte Ltd (multi-cloud solution and blockchain services provider) and SCash Global Pte Ltd (technology innovation SaaS company) have already joined the acceleration program to get the most benefits from their partnership with Alibaba Cloud.

At the same summit, the APAC cloud leader also announced the launch of a new training empowerment portal for global partners. The Alibaba Cloud Partner Empowerment Portal provides product and service trainings and certifications, educational content on topical technology developments, as well as resources and tools to increase partners’ service capabilities. The portal aims to empower 500 global partners including channel partners, Managed Service Partners (MSPs) and ISVs in the current financial year, with training topics covering cloud, AI, Web3 and more.

To bring more tangible benefits to Alibaba Cloud’s partners outside China, the company also announced a series of new financial incentives including discounts and rebates for rewarding resellers and distributors as well as some joint go-to-market initiatives. This is part of the USD1 billion investment that Alibaba Cloud announced in 2022 in order to support its global partners’ technology innovation and their market expansion.

Selina Yuan, President of International Business, Alibaba Cloud Intelligence delivered a keynote speech at Alibaba Cloud Partner Summit 2023 (PRNewsfoto/Alibaba Cloud)
Selina Yuan, President of International Business, Alibaba Cloud Intelligence delivered a keynote speech at Alibaba Cloud Partner Summit 2023 (PRNewsfoto/Alibaba Cloud)

“Our new initiatives showcase our unwavering commitment to helping our global partners thrive and innovate on Alibaba Cloud,” said Selina Yuan, President of International Business, Alibaba Cloud Intelligence. “Partners play an essential role in enhancing and delivering Alibaba Cloud’s services and offering to our global customers. Together with partners, we can bring world-class technologies, products and solutions to our customers for their greater business success.” 

New Partnership on Security, Blockchain and Talent Development

During the summit, Alibaba Cloud also unveiled deeper collaboration with its ecosystem partners. The cloud leader has announced its new collaboration with IBM to provide a best-in-class security solution for businesses across APAC.

The security solution integrates features of IBM’s security products – QRadar SIEM and QRadar SOAR – as well as Alibaba Cloud’s wide range of security capabilities. It provides services including real-time reporting and centralized visibility into the cloud environment to detect threats such as ransomware, insider threats and cloud attacks. The co-developed solution aims to mitigate mounting cybersecurity risks while creating a secure, stable and protected cloud environment for clients during their digital transformation journey.

Another collaboration unveiled is with Avalanche, a leading blockchain platform, providing a launchpad for businesses to rapidly deploy metaverses on the Avalanche public blockchain. Cloudverse is a one-stop solution for businesses to seamlessly customize, launch and maintain their own metaverse space, creating new dimensions for engaging with customers.

Alibaba Cloud also announced collaboration with training partners to bolster talent development in Southeast Asia. With the target to train 100,000 general public talents in the region by the current financial year, the SEA Talent Empowerment Program aims to attract training partners to contribute to the talent development drive. The initial training partners include Rahi Systems (information technology services and solutions provider), Solutions for Asia (security service solution provider), Lightning Cloud (multi-cloud operation solution platform) and Edu360 Cloud (digital certification service platform).

The leading cloud service provider recognized a wide range of partners for their collaboration and innovation in contributing to customers’ success over the past year. The Asia Partner of the Year honors eight partners including IBM, AI Rudder (from Singapore), LGMS Berhad (from Malaysia), PT Sigma Cipta Caraka (from Indonesia), and Digital One (from Hong Kong).

Alibaba Cloud currently works with about 12,000 partners worldwide, including Salesforce, VMware, Fortinet, IBM and Neo4j.

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดแผนงานเสริมแกร่งระบบนิเวศพันธมิตรทั่วโลก

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดแผนงานเสริมแกร่งระบบนิเวศพันธมิตรทั่วโลก

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดแผนงานเสริมแกร่งระบบนิเวศพันธมิตรทั่วโลก

เปิดตัวโครงการใหม่ด้าน ISV acceleration, การเสริมศักยภาพการฝึกอบรมพันธมิตร และรางวัลจูงใจด้านการขาย ณ งาน Alibaba Cloud Partner Summit 2023

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป พร้อมเดินหน้าเสริมศักยภาพให้กับพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ผ่านชุดโครงการใหม่ ๆ เช่น การเปิดตัว Independent Software Vendor (ISV) Acceleration Program ซึ่งเป็นโปรแกรมฝึกอบรมเพื่อเสริมศักยภาพให้กับพันธมิตร รวมถึงรางวัลจูงใจต่าง ๆ เพื่อเป็นการตอบแทนพันธมิตรที่มีผลงานเป็นเลิศ

Edward Cai, Chief Commercial Officer, Alibaba Cloud Intelligence กล่าว ณ งาน Partner Summit 2023 ของบริษัทฯ ว่า “เรามีพันธสัญญาที่จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับพันธมิตรทั่วโลกของเรา และสนับสนุนพันธมิตรให้ขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่น ๆ อย่างแข็งขัน โครงการใหม่ ๆ ทั้งหมดที่ริเริ่มขึ้นมานี้ ตอกย้ำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญและให้คุณค่าแก่พันธมิตรของเรามากเพียงใด การทำงานร่วมกับความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของพันธมิตร บวกกับความสามารถทางเทคโนโลยีต่าง ๆ และข้อมูลเชิงลึกในตลาด ช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับประโยชน์สูงสุด”

โครงการริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของพันธมิตร

Alibaba Clouds ISV Acceleration Program เป็นโปรแกรมที่เปิดตัวมาเพื่อมอบรางวัลจูงใจทางการเงินแบบใหม่ ให้กับ ISV ทั่วโลก รวมถึงให้การสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อให้พันธมิตรสามารถขยายโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น โดยบริษัทจะช่วยพันธมิตรด้าน ISV ในการปรับค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนในมาร์เก็ตเพลสบนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสของอาลีบาบา คลาวด์ ให้เหมาะสม และขยายการขายสินค้าผ่านทีมงานด้านการขายของอาลีบาบา คลาวด์ และเครือข่ายพันธมิตรด้านช่องทางการขายที่กว้างขวาง

อาลีบาบา คลาวด์ ยังให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนด้านเทคนิคให้พันธมิตรด้าน ISV ทั่วโลกมากขึ้น เพื่อช่วยให้พันธมิตรสามารถสร้าง เผยแพร่ และใช้งานโซลูชันของตนบนคลาวด์แพลตฟอร์มของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทจะลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการเฉพาะทาง และโซลูชันต่าง ๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้าน ISV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้กับลูกค้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

พันธมิตรด้าน ISV ที่เข้าร่วม acceleration program แล้ว เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเป็นพันธมิตรกับอาลีบาบา คลาวด์ ประกอบด้วย Neo4J (ผู้ให้บริการดาต้าเบสแบบกราฟ), 6Estates (แพลตฟอร์ม AI fintech), One2Cloud Pte Ltd (ผู้ให้บริการมัลติคลาวด์โซลูชัน และบล็อกเชน) และ SCash Global Pte Ltd (บริษัทด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี SaaS)

ในงานนี้ บริษัทยังได้เปิดตัว Alibaba Cloud Partner Empowerment Portal ซึ่งเป็นพอร์ทัลใหม่เพื่อ เสริมศักยภาพการอบรมให้กับพาร์ทเนอร์ทั่วโลก พอร์ทัลนี้ให้การอบรมและให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ มอบเนื้อหาด้านการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะต่าง ๆ รวมถึงแหล่งทรัพยากรและเครื่องมือเพื่อเพิ่มความสามารถของพันธมิตรในการให้บริการ พอร์ทัลนี้มีเป้าหมายส่งเสริมพันธมิตรทั่วโลก 500 ราย ประกอบด้วย พันธมิตรด้านช่องทางการขาย, Managed Service Partners (MSP) และ ISV ณ ปีการเงินปัจจุบัน โดยมีหัวข้ออบรมครอบคลุมเรื่องคลาวด์, AI, Web3 และอื่น ๆ อีกมาก

อาลีบาบา คลาวด์ ยังมอบประโยชน์ที่จับต้องได้ให้กับพันธมิตรที่อยู่นอกประเทศจีน ด้วยการประกาศชุดรางวัลจูงใจทางการเงินใหม่ รวมถึงส่วนลดและเงินคืนเพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ค้าปลีก (reseller) และผู้จัดจำหน่าย (distributor) รวมถึงโครงการการบุกตลาดร่วมกันบางรายการ ชุดรางวัลจูงใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศไปเมื่อปี 2565 เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการขยายตลาดของพันธมิตรทั่วโลก

เซลินา หยวน ประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวคำปราศรัย ในงาน Alibaba Cloud Partner Summit 2023 (PRNewsfoto/Alibaba Cloud)
เซลินา หยวน ประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวคำปราศรัย ในงาน Alibaba Cloud Partner Summit 2023 (PRNewsfoto/Alibaba Cloud)

Selina Yuan, President of International Business, Alibaba Cloud Intelligence กล่าวว่า “โครงการที่ริเริ่มใหม่ ๆ ของเราแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการช่วยพันธมิตรทั่วโลกของเราให้เติบโตอย่างงดงามและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ บนอาลีบาบา คลาวด์ พันธมิตรมีบทบาทสำคัญในการขยายและส่งมอบบริการและข้อเสนอต่าง ๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ สู่ลูกค้าทั่วโลกมากขึ้น ความร่วมมือกับพันธมิตรช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถใช้เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์/บริการ และโซลูชันประสิทธิภาพระดับโลกเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจมากขึ้น”

ความร่วมมือใหม่ ๆ ด้านความปลอดภัย, บล็อกเชน และการพัฒนาบุคคลากรที่มีความสามารถพิเศษ

อาลีบาบา คลาวด์ยังได้เปิดเผยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในระบบนิเวศ โดยบริษัทได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ IBM เพื่อมอบโซลูชันด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดทางด้านนี้ให้กับธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก

โซลูชันด้านความปลอดภัยนี้เป็นการผสานรวมฟีเจอร์จากผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยของ IBM คือ QRadar SIEM และ QRadar SOAR รวมถึงความสามารถด้านความปลอดภัยที่หลากหลายของอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น การรายงานแบบเรียลไทม์ และการมองเห็นความเป็นไปบนสภาพแวดล้อมคลาวด์จากจุดศูนย์กลาง เพื่อตรวจจับภัยคุกคาม เช่น แรนซัมแวร์ ภัยคุกคามจากวงใน และการโจมตีบนคลาวด์ โซลูชันที่ร่วมกันพัฒนามีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ ในขณะเดียวกันก็สร้างสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ปลอดภัย มอบความเสถียรให้กับลูกค้าที่อยู่ระหว่างเส้นทางการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล

อีกหนึ่งความร่วมมือที่ได้ประกาศในงานนี้คือ ความร่วมมือกับ Avalanche ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนชั้นนำ เพื่อมอบ launchpad สำหรับธุรกิจเพื่อการใช้ metaverses อย่างรวดเร็วบนพับลิค บล็อกเชนของ Avalanche โดยมี Cloudverse เป็นโซลูชันครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจปรับแต่ง เริ่มต้น และดูแลสเปซ metaverse ของตนเองได้อย่างราบรื่น เป็นการสร้างมิติใหม่ในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรด้านการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคคลที่มีความสามารถในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการ SEA Talent Empowerment Program มีเป้าหมายที่จะฝึกอบรมบุคคลทั่วไปที่มีความสามารถพิเศษในภูมิภาคนี้จำนวน 100,000 คนภายในปีงบประมาณปัจจุบัน และมุ่งหาพันธมิตรด้านการฝึกอบรมมาช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาผู้มีความสามารถ  สำหรับพันธมิตรการฝึกอบรมเบื้องต้น ได้แก่ Rahi Systems (ผู้ให้บริการและโซลูชันด้านไอที, Solutions for Asia (ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัย), Lightning Cloud (แพลตฟอร์มโซลูชันปฏิบัติการบนมัลติคลาวด์) และ Edu360 Cloud (แพลตฟอร์มบริการออกใบรับรองดิจิทัล)

ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ยกย่องพันธมิตรมากมายจากความร่วมมือและนวัตกรรมที่เอื้อต่อความสำเร็จของลูกค้า โดยได้มอบรางวัล The Asia Partner of the Year ได้ให้การยกย่องพันธมิตรแปดราย ได้แก่ IBM, AI Rudder (สิงคโปร์), LGMS Berhad (มาเลเซีย), PT Sigma Cipta Caraka (อินโดนีเซีย) และ Digital One (ฮ่องกง)

ปัจจุบัน อาลีบาบา คลาวด์ ทำงานร่วมกับพันธมิตรประมาณ 12,000 รายทั่วโลก เช่น Salesforce, VMware, Fortinet, IBM และ Neo4j

Nutanix Unifies Data Services Across Hybrid Multicloud Environments

Nutanix releases Starter Kit Bundle to supercharge partner sales cycle

Nutanix Unifies Data Services Across Hybrid Multicloud Environments

Company announces data services for Kubernetes and cross-cloud data mobility

Nutanix (NASDAQ: NTNX), a leader in hybrid multicloud computing, today announced new capabilities in the Nutanix Cloud Platform to enable customers to integrate data management of containerized and virtualized applications on-premises, on public cloud, and at the edge. This includes comprehensive data services for Kubernetes applications as well as cross-cloud data mobility.

According to IDC, by 2025 there will be 750 million new logical applications, more than the past 40 years of computing, all generating large amounts of data across clouds*. This means it will be paramount for organizations to integrate management of data for both containerized and virtualized applications as well as across multiple environments.

“According to the Enterprise Cloud Index, nearly all enterprises have started using Kubernetes for their containerized applications. Now IT teams need to find a way to both enable their developers with self-service data services, while also ensuring governance and security policies are applied uniformly,” said Thomas Cornely, SVP, Product Management at Nutanix. “With Nutanix Data Services for Kubernetes, the Nutanix Cloud Platform will extend storage provisioning, snapshots, and disaster recovery operations to Kubernetes applications to help accelerate containerized application development in the enterprise.”

Data Services for Kubernetes

Currently, developers and administrators are faced with gaps and complexity for stateful Kubernetes® applications, necessitating multiple third-party tools or complex DIY projects to solve for the application and namespace layers. Announced today, Nutanix Data Services for Kubernetes (NDK) will give customers control over cloud-native apps and data at scale.

Initially delivered as part of Nutanix Cloud Infrastructure (NCI), NDK will bring the full power of Nutanix’s enterprise class storage, snapshots and disaster recovery to Kubernetes. This will help accelerate containerized application development for stateful workloads by introducing storage provisioning, snapshots, and disaster recovery operations to Kubernetes pods and application namespaces. NDK will empower Kubernetes developers with self-service capabilities to manage storage and data services, while also enabling IT with visibility and governance over consumption. NDK is also designed for use with Red Hat OpenShift.

“Application modernization is a key aspect of our digital transformation journey to continually deliver a better experience for our customers,” says Yongju Jo, Chief Manager, IDC Business Dept, Shinsegae. “We believe Nutanix Data Services for Kubernetes has a big potential to deliver simplified enterprise-grade storage provisioning, snapshots, and disaster recovery for our Kubernetes deployments.”

Cross-Cloud Data Mobility

Nutanix also introduced the Multicloud Snapshot Technology™ (MST) capability to deliver cross-cloud data mobility. MST will extend Nutanix hybrid multicloud data services by enabling snapshots directly to cloud native object stores, starting with the AWS S3 object storage service. This will unlock hybrid multicloud data protection, recovery, and mobility use cases, such as the ability to seamlessly protect and migrate stateful Kubernetes applications and data across cloud infrastructures with NDK leveraging this technology.

MST will enable several use cases including disaster recovery and backup for both containerized and virtualized applications, the ability to create a snapshot and instantly recover it anywhere, cross-cloud data migration, the ability to share data for workflows like test/dev, long-term retention for compliance and more. This will also help many customers manage costs of their primary infrastructure enabling them to easily store snapshots in a less expensive storage medium, and just as easily recover them, across any infrastructure 一 private or public cloud.

In addition to these new capabilities, the Nutanix Objects Storage solution now integrates with Snowflake, the Data Cloud company, to allow organizations to leverageuse the Snowflake Data Cloud to analyze data directly on Nutanix Objects. This ensures ensuring data stays local, accelerates time to value, and delivers faster insights. Additionally, a single namepsace in Nutanix Objects simplifies access to globally distributed data.  

NDK and MST are under development. The Nutanix ObjectsStorage and Snowflake integration is currently available to customers. More information is available here.

Supporting Quotes:

“For organizations looking to ride next wave of digital transformation, the way forward is to allow workloads run in the best suited optimal landing zone, underpinned by an open hybrid multi cloud platform with rich data services to run and manage any application, anywhere​. Nutanix Coud Platform and Wipro FullStride Cloud enables customers to make hybrid Multicloud simpler to adopt and deliver simplified Multicloud management with faster time to market and lower TCO.”

  • Jo Debecker, Head FullStride Cloud, Wipro

“Application data is often driving infrastructure decisions for many enterprises whether it’s cost, governance or locality, but it’s often a separate IT layer from the underlying infrastructure whether on public cloud or on-premises. The Nutanix Cloud Platform delivers a universal cloud model with natively integrated data services for both containerized and virtualized applications enabling enterprises to easily extend their data governance policies to containerized applications as well as across clouds.”

  • Paul Nashawaty, Principal Analyst, Enterprise Strategy Group

Additional Resources: