อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัวบริการใหม่หลายรายการ เพื่อขจัดปัญหาในการพัฒนา Generative AI ให้กับลูกค้าทั่วโลก

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัวบริการใหม่หลายรายการ เพื่อขจัดปัญหาในการพัฒนา Generative AI ให้กับลูกค้าทั่วโลก

อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัวบริการใหม่หลายรายการ เพื่อขจัดปัญหาในการพัฒนา Generative AI ให้กับลูกค้าทั่วโลก

ผู้นำระดับโลกด้านคลาวด์ ผนึกพลังกับพันธมิตรทางเทคโนโลยี เพื่อเร่งให้เกิดนวัตกรรมในการพัฒนาแอปพลิเคชัน

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ในงาน 2023 Alibaba Cloud Global Summit ชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ให้บริการอย่างครอบคลุมนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการพัฒนา Generative AI ของลูกค้าทั่วโลกที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

โซลูชัน AI ต่าง ๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างแอปพลิเคชัน Generative AI ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นเรื่องความปลอดภัย และ คุ้มค่าใช้จ่ายมากขึ้น และให้บริการอย่างครอบคลุม ตั้งแต่แพลตฟอร์มด้านคอมพิวติ้งต่าง ๆ ไปจนถึงบริการเร่งความเร็วในการใช้ AI และแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เป็นเทคโนโลยีหลัก

เซลิน่า หยวน ประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศ อาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า “เรานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการ generative AI ที่พุ่งสูงขึ้น และเพื่อรับมือกับปัญหาที่แตกต่างกันที่ลูกค้าทั่วโลกของเราพบเจอ บริการด้าน AI ที่ครอบคลุมของเราออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าคว้าโอกาสที่ยอดเยี่ยมต่าง ๆ ที่เทรนด์เทคโนโลยีที่ฉุดไม่อยู่นี้มีให้”

เซลิน่า กล่าวเพิ่มเติมว่า “การสนับสนุนการพัฒนา generative AI ให้ครอบคลุมและมีมิติด้านนวัตกรรมมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญาของเรา เราจึงผนึกพลังกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อนำความสามารถที่เรามีไปใช้กับการทำงานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 

บริการด้าน AI ที่ครอบคลุมเพื่อการพัฒนา Generative AI 

  • ลดความซับซ้อนของกระบวนการด้าน AI: อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว PAI-Lingjun Intelligent Computing Service ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มประมวลผลที่ใช้ AI สำหรับงานประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น การฝึกอบรมและการอนุมานโมเดลพื้นฐาน (foundation model) บริการนี้นำเสนอการเรียนรู้เชิงลึกที่มีสเกลใหญ่ และความสามารถในการประมวลผลอัจฉริยะบนอาลีบาบา คลาวด์ ทั้งยังมอบความสามารถด้าน AI engineering เต็มรูปแบบ เช่น การพัฒนา AI, การเทรนด์ AI, การจัดการบทบาทของ AI, และการจัดการทรัพยากรที่ใช้ประมวลผล แพลตฟอร์มนี้มีการใช้งานแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ จะวางจำหน่ายในสิงคโปร์ตั้งแต่ต้นปี 2567 และจะวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ ทั่วเอเชียตามมาตลอดทั้งปี
  • เร่งการฝึกอบรมและการอนุมานโมเดล AI: อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัว Alibaba Cloud AI Acceleration Solution ซึ่งใช้ชุดข้อมูลและอุปกรณ์เร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพระดับแนวหน้า เพื่อจัดการแอปพลิเคชันที่มีข้อมูลจำนวนมาก และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อินสแตนซ์การประมวลผลเพื่อเร่งการฝึกอบรมและการอนุมานโมเดล AI ทั้งนี้ Stanford DAWN Deep Learning Benchmark ซึ่งเป็นชุดเกณฑ์มาตรฐานในการฝึกอบรมและการอนุมานการเรียนรู้เชิงลึกแบบครบวงจร ระบุว่า โซลูชันนี้สามารถเร่งความเร็วในการฝึกอบรมโมเดล AI ได้ 70% และอนุมานได้เร็วขึ้นถึงสามเท่า โซลูชันนี้ประกอบด้วยเลเยอร์ต่าง ๆ สำหรับ cloud-native AI suite, AI job scheduling, AI data acceleration, AI computing acceleration engine, resource scheduling และ computing resources โดยแต่ละเลเยอร์นำเสนอโซลูชันการเร่งความเร็วที่เจาะจงกับงานที่แตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์
  • สร้างบริการเสิร์ชด้วย AI ได้อย่างง่ายดาย: อาลีบาบา คลาวด์เปิดตัว OpenSearch LLM-Based Conversational Search ซึ่งเป็นดิสทริบิ้วเต็ดเสริ์ชเอ็นจิ้นสเกลขนาดใหญ่และเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ ที่มอบบริการเสิร์ชที่ชาญฉลาดให้กับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ แวดวงมัลติมีเดีย โซเชียลมีเดีย และการสืบค้นข้อมูลขนาดใหญ่ในองค์กร บริการที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลด้านภาษาขนาดใหญ่นี้ ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สร้างระบบเสิร์ชการสนทนาเฉพาะงานที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจได้ในความปลอดภัย มีความแม่นยำ และให้ผลการเสิร์ชเชื่อถือได้ ทั้งยังรองรับผลการค้นหาหลายรูปแบบ เช่น คำตอบต่าง ๆ, URL และภาพต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการเสิร์ชที่เจาะจงของธุรกิจ

ความร่วมมือทางเทคโนโลยีเพื่อเสริมแกร่งการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรม

อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศความร่วมมือกับผู้นำทางเทคโนโลยีระดับโลกหลายแห่ง เพื่อนำเสนอบริการคลาวด์ที่ปลอดภัยและล้ำหน้ามากขึ้นให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ ร่วมมือกับ เร้ดแฮท เพื่อส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันเชิงนวัตกรรมให้กับองค์กรต่าง ๆ โดยใช้แพลตฟอร์ม Red Hat OpenShift บนอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อสร้าง ใช้ และบริหารจัดการแอปพลิเคชันตามต้องการ ทั้งนี้ Red Hat OpenShift on Alibaba Cloud จะผสานรวมแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันไฮบริดคลาวด์ระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย Kubernetes เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดที่แข็งแกร่งของอาลีบาบา คลาวด์ นอกจากนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการดำเนินการอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ยังเป็นการมอบประสบการณ์การทำงานที่สอดคล้องเข้ากันได้แม้จะอยู่บนสภาพแวดล้อมต่างกัน เพื่อช่วยลูกค้าเพิ่มความสามารถในการผลิตได้ดีขึ้น

เร่งการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลให้กับลูกค้าทั่วโลก

อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับลูกค้าองค์กรในตลาดต่าง ๆ เช่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นการย้ำพันธสัญญาที่มั่นคงที่บริษัทฯ มีต่อลูกค้าทั่วโลกกว่า 4 ล้านราย ในการสำรวจหาโอกาสใหม่ที่จะได้จากการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลและเทรนด์ด้าน AI ที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ

DingTalk Streamlines Organization and Communication for Asian Games

DingTalk Streamlines Organization and Communication for Asian Games

DingTalk Streamlines Organization and Communication for Asian Games

Innovative artificial intelligence, low-coding, and digital office features elevate event experience

Alibaba’s intelligent collaboration workplace and application development platform DingTalk unveils its solution for Hangzhou Asian Games (DingTalk for Asian Games), an enhanced edition of DingTalk designed to improve operational efficiency of the Games. The proven solution is at the heart of the mega sports event’s organization and communications, to be held in Hangzhou from September 23 to October 8.

DingTalk for Asian Games is a cloud-native digital solution deployed and managed on the cloud, offering a reliable, scalable and secure user experience. It serves as a one-stop collaboration tool connecting stakeholders across all stages of the sports event lifecycle – from organizers and suppliers to volunteers and venue operators.

Ge Zhang, Deputy Director of Radio, Television and Information Technology Department of the Hangzhou Asian Games Organizing Committee, said, “Through the full cooperation between the Asian Games Organizing Committee and DingTalk, DingTalk for Asian Games has achieved the mega collaboration of ‘organization online, communication online and business online’ for participants across levels, departments and regions. DingTalk for Asian Games is not only the crystallization of Hangzhou’s digital economy, but also a valuable asset and experience Hangzhou would like to dedicate to future international large-scale sports events.”

DingTalk for Asian Games is playing diversified roles across different application scenarios, enabling the event to be more efficient, productive, convenient and intelligent.

“We’re excited to be delivering a solution to optimize the organization and operation of the Hangzhou Asian Games. DingTalk’s role in the Games is a critical one and an important opportunity to demonstrate how technology can make hosting events of this scale more streamlined and efficient,” said Alex Li, Vice President of DingTalk. “DingTalk for Asian Games, not only connects people and enables collaboration, but also offers a platform for unifying users around a common cause and interest. We believe for future mega sports events hosting, it’s an inevitable trend that such an intelligent collaboration platform will be needed for to enhance the operational efficiency and communication management of organizations.”

A versatile coordinator. To simplify an otherwise complex event organization, DingTalk for Asian Games offers a flat organizational structure where tens of thousands of staff and volunteers can easily identify and communicate with each other and external partners as well as share information and set up meetings.

Leveraging Alibaba Cloud Machine Translation services based on its leading deep learning and Natural Language Processing (NLP) technologies, DingTalk for Asian Games offers intelligent real-time translation in 14 languages including Chinese, English, Japanese and Thai, improving communications between staff and participants from abroad.

Optimized for smartphone usage, DingTalk for Asian Games delivers instant audio and visual connections between users and the main operation center (MOC) of the Games. This allows the MOC to reach all staff and venues to accelerate decision-making and problem-solving.

A mobile workplace. The “digital office” offered by DingTalk for Asian Games enables all staff and volunteers to work closely together without the need to manage physical workplaces. Teams from the organizing committee and venue operators can collaborate on documents through online previews and reviews, real-time editing, and effective version control management. DingTalk for Asian Games can also process approval requests from around 300 applications, covering administrative services, the use of assets, the submission of suppliers’ certifications and marketing activities, among others. So far, it has supported more than 7,700 paperless approvals which are efficient and environmental friendly. 

An intelligent assistant. Cutting-edge artificial intelligence (AI) capabilities have been incorporated into DingTalk for Asian Games to understand, respond to, and create content to satisfy a wide range of needs during the event preparation. DingTalk’s built-in Chatbot, when used in Asian Games chat groups, can automatically provide timely answers to Games-related questions by analyzing and extracting information from the event’s related materials including game manuals and related group chats. Users can also leverage DingTalk’s AI capabilities to facilitate content digestion such as extracting highlights from press releases.

A developer-friendly platform. With low-code features, DingTalk for Asian Games enables users to develop their own applications tailored to new scenarios. An example is a low-code appointment application developed for athletes to make trainings more convenient and efficient. Athletes can easily check the availability status of the training venues in Asian Games stadiums located in different areas of Hangzhou and nearby cities and book their training sessions in advance through the mini app on DingTalk for Asian Games.

DingTalk for Asian Games also provides full hardware support. The application is available on smartphones, tablets and computers, and supports devices that are compatible with DingTalk, including TV boxes, among others.

The use of DingTalk for Asian Games over the past months has made it an integral part of the event organization. The number of messages peaked at more than 4.5 million in a single month in August, with more than 12,000 workgroups created. With a daily average of more than 50,000 visits, its services range from administrative approvals to conferencing, training, sponsor support, weather monitoring and medical support. Many other applications running on the event dedicated network will soon be available to further support the operation of the Games, including specialized systems for video broadcasting, IT management and volunteer management.

A low-code application developed for training venues booking on DingTalk for Asian Games
A low-code application developed for training venues booking on DingTalk for Asian Games

DingTalk เพิ่มความคล่องตัวให้ Asian Games ทั้งด้านการจัดงาน และการสื่อสาร

DingTalk เพิ่มความคล่องตัวให้ Asian Games ทั้งด้านการจัดงาน และการสื่อสาร

DingTalk เพิ่มความคล่องตัวให้ Asian Games ทั้งด้านการจัดงาน และการสื่อสาร

ยกระดับประสบการณ์การจัดงาน ด้วยนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์, low-coding และฟีเจอร์สำนักงานดิจิทัล

DingTalk แพลตฟอร์มอัจฉริยะในการทำงานร่วมกันและการพัฒนาแอปพลิเคชันร่วมกันของอาลีบาบา เผยโฉมโซลูชัน DingTalk for Asian Games ให้กับการจัดงานเอเชียนเกมส์หางโจว โดยเป็น DingTalk เวอร์ชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดงานเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ โซลูชันที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วนี้จะเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงานและการสื่อสารของมหกรรมกีฬาซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองหางโจวตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ถึง 8 ตุลาคม ศกนี้

DingTalk for Asian Games เป็นดิจิทัลโซลูชันคลาวด์-เนทีฟที่ทำงานและบริหารจัดการบนคลาวด์ จะช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เสถียร ปรับขนาดได้ และปลอดภัย ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการทำงานร่วมกันแบบ one-stop ที่เชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในทุกขั้นตอนของการจัดการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดงานและซัพพลายเออร์ ไปจนถึงอาสาสมัครและผู้ดำเนินงานที่ประจำอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ

นายเกอ จาง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิทยุ โทรทัศน์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะกรรมการจัดงานหางโจวเอเชียนเกมส์ กล่าวว่า “ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังระหว่างคณะกรรมการจัดงานเอเชียนเกมส์หางโจว และ DingTalk ช่วยให้ DingTalk for Asian Games ประสบความสำเร็จในการประสานความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของ ‘องค์กรออนไลน์ การสื่อสารออนไลน์ และธุรกิจออนไลน์’ ให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกระดับ ทุกแผนก และทุกภูมิภาค DingTalk for Asian Games ไม่เพียงทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลของหางโจวเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นทรัพย์สินและประสบการณ์อันมีค่าที่หางโจวต้องการมอบให้การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติต่าง ๆ ในอนาคต”

DingTalk for Asian Games มีบทบาทหลากหลายตามสถานการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน ช่วยให้การแข่งขันมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น มีความสะดวกและเป็นไปตามแนวทางอัจฉริยะมากขึ้น

นายอเล็กซ์ ลี รองประธานของ DingTalk กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้มอบโซลูชันนี้ที่จะช่วยให้ผู้จัดงานและการดำเนินงานของหางโจวเอเชียนเกมส์มีประสิทธิภาพมากขึ้น DingTalk มีบทบาทสำคัญมากต่อเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ และเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยให้การจัดงานที่มีขนาดใหญ่ระดับนี้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างไร DingTalk for Asian Games ไม่เพียงเชื่อมต่อผู้คนให้สามารถทำงานร่วมกันได้เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมผู้ใช้ที่มีจุดประสงค์และความสนใจร่วมกันไว้ด้วยกัน เราเชื่อว่าเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนสำหรับการจัดงานกีฬาขนาดใหญ่ในอนาคต คือ จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่ชาญฉลาดเอาไว้ทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการด้านการสื่อสารของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย”

ผู้ประสานงานที่มีความสามารถรอบตัว: เพื่อให้การจัดงานที่ซับซ้อนง่ายขึ้น DingTalk for Asian Games นำเสนอโครงสร้างองค์กรแบบแนวราบ (flat organizational structure) ที่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนับหมื่นคนสามารถแสดงตัวและสื่อสารซึ่งกันและกัน สื่อสารกับพันธมิตรภายนอก ตลอดจนแบ่งปันข้อมูลและจัดประชุมต่าง ๆ ได้อย่างเรียบง่าย

DingTalk for Asian Games ใช้ความสามารถของบริการ Alibaba Cloud Machine Translation ที่ใช้เทคโนโลยี deep learning และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) ที่มีประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของบริษัทฯ จึงสามารถทำการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้อย่างอัจฉริยะถึง 14 ภาษา รวมถึงภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และไทย นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างพนักงานและผู้เข้าร่วมงานจากนานาประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีการปรับ DingTalk for Asian Games ให้เหมาะกับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน โดยมอบการเชื่อมต่อภาพและเสียงระหว่างผู้ใช้และศูนย์ปฏิบัติการหลักของการแข่งขัน (main operation center: MOC) ได้ทันที จะช่วยให้ MOC สามารถติดต่อกับพนักงานและสถานที่จัดงานทั้งหมด เพื่อทำการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

สถานที่ทำงานแบบโมบาย: DingTalk for Asian Games นำเสนอ “สำนักงานดิจิทัล” ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนทำงานใกล้ชิดกันโดยไม่จำเป็นต้องจัดสถานที่ทำงานแบบ physical ทีมต่าง ๆ ในคณะกรรมการจัดงาน และผู้ดำเนินงานตามสถานที่จัดงานสามารถทำงานด้านเอกสารร่วมกัน ผ่านการพรีวิวและรีวิวออนไลน์ แก้ไขได้แบบเรียลไทม์ และจัดการกับระบบจัดเก็บการเปลี่ยนแปลง (version control) ที่เกิดขึ้นกับเอกสารนั้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ DingTalk for Asian Games ยังสามารถประมวลผลคำขออนุมัติ จากการส่งคำขอประมาณ 300 รายการ ครอบคลุมบริการด้านการบริหารต่าง ๆ การใช้สินทรัพย์ การยื่นใบรับรองของซัพพลายเออร์ กิจกรรมทางการตลาด และอื่น ๆ อีกมาก ณ ขณะนี้ ได้มีการอนุมัติแบบไร้กระดาษแล้วมากกว่า 7,700 รายการ ซึ่งนับเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้ช่วยอัจฉริยะ: DingTalk for Asian Games ได้รวมความสามารถที่ล้ำสมัยของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไว้ด้วย เพื่อความสามารถในการทำความเข้าใจ ตอบสนอง และสร้างคอนเทนต์ เพื่อรองรับความต้องการหลากหลายระหว่างการเตรียมงาน เช่น เมื่อนำแชทบอท ที่ built-in อยู่ใน DingTalk มาใช้ในแชทกรุ๊ปของเอเชียนเกมส์ จะสามารถให้คำตอบต่อคำถามที่เกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ได้อัตโนมัติและทันท่วงที โดยการวิเคราะห์และดึงข้อมูลจากเนื้อหาและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการแข่งขัน รวมถึงคู่มือเกม และกรุ๊ปแชทที่เกี่ยวข้องกับคำถามนั้น ๆ ผู้ใช้ยังจะได้ใช้ความสามารถของ DingTalk เพื่ออำนวยความสะดวกในการย่อยเนื้อหา เช่น การดึงประเด็นสำคัญต่าง ๆ จากข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

แอปพลิเคชันแบบ low-code พัฒนาขึ้นเพื่อการจองสถานที่ฝึกซ้อมบน DingTalk for Asian Games
แอปพลิเคชันแบบ low-code พัฒนาขึ้นเพื่อการจองสถานที่ฝึกซ้อมบน DingTalk for Asian Games

แพลตฟอร์มที่นักพัฒนาใช้งานง่าย: DingTalk for Asian Games มีฟีเจอร์ low-code ต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาแอปพลิเคชันของตนเองและปรับให้เหมาะและเจาะจงกับสถานการณ์ใหม่ ๆ เช่น แอปพลิเคชันนัดหมายที่เป็นแบบ low-code ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อให้นักกีฬานัดหมายการฝึกซ้อมได้สะดวกและได้ผลดีมากขึ้น นักกีฬาสามารถตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ฝึกซ้อมในสนามกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมืองหางโจวและเมืองใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย และจองสถานที่สำหรับฝึกซ้อมล่วงหน้าผ่าน mini app บน DingTalk for Asian Games

DingTalk for Asian Games ให้การสนับสนุนด้านฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบ แอปพลิเคชันนี้พร้อมใช้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ทั้งยังรองรับอุปกรณ์ที่ใช้ได้กับ DingTalk ซึ่งรวมถึง กล่องทีวีต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมาก

การใช้ DingTalk for Asian Games ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้โซลูชันนี้กลายเป็นส่วนสำคัญของการจัดงาน ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียวมีจำนวนข้อความพุ่งสูงถึงมากกว่า 4.5 ล้านข้อความ และมีการสร้าง  เวิร์กกรุ๊ปมากกว่า 12,000 กรุ๊ป โซลูชันนี้มีผู้เยี่ยมชมเฉลี่ยมากกว่า 50,000 รายต่อวัน ให้บริการตั้งแต่การอนุมัติด้านการบริหาร ไปจนถึง การประชุม การฝึกซ้อม การสนับสนุนของสปอนเซอร์ การตรวจสอบสภาพอากาศ และการสนับสนุนทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกมากที่รันอยู่บนเน็ตเวิร์กเฉพาะของงานและจะพร้อมใช้งานเร็ว ๆ นี้ เพื่อสนับสนุนการทำงานของการจัดงานเพิ่มเติมในส่วนอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงระบบพิเศษสำหรับการแพร่ภาพวิดีโอ การบริหารจัดการด้านไอที และการบริหารจัดการด้านอาสาสมัคร

AI for the Food and Beverage Industry

AI สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

AI for the Food and Beverage Industry

By Terry Smagh, Senior Vice President and General Manager for Asia Pacific and Japan, Infor

Artificial intelligence (AI) has hit the headlines recently, with ChatGPT and similar technologies making their mark on everyday lives. Yet AI is not a new technology. In fact, AI dates its origins back to the 1950s. Today are the results of decades of research and technological developments coming to mainstream fruition and making a real difference.

When it comes to the food and beverage sector though, things are no different and more businesses are reaping the benefits of AI technologies. And, with the value of the market for AI in the food and beverage sector expected to reach $29.94 billion by 2028, the number of food and beverage businesses investing in AI is clearly predicted to increase. However, there’s still widespread uncertainty about what it actually is, how it works and how it can benefit the food and beverage sector.

What is AI? What is machine learning?

AI is the ability of a computer or machine to mimic or imitate human intelligent behavior and perform human-like tasks. It performs tasks that require human intelligence such as thinking, reasoning, learning from experience, and most importantly, making its own decisions.

Machine learning is a subset of AI. It is computer systems that can learn and adapt without being explicitly programmed or helped to. Machine learning uses algorithms and statistical models to intelligently analyze data, drawing inferences from data patterns to inform further action.

Where does AI fit into the food and beverage sector?

Put simply, AI (machine learning in particular) has the potential to optimize all areas of food manufacturing, facilitating smart, industry-specific applications to improve every aspect of the supply chain, from farm to fork, helping to build agile supply chains and drive revenue growth.

With its ability to factor in an inordinate number of data values, parameters, what-if scenarios and other contributing factors, machine learning can produce accurate and timely recommendations for almost every aspect of the food supply chain. Ultimately, this provides a competitive advantage that it would be impossible to replicate without the application of AI technologies.

Where is machine learning being used already?

The uses of machine learning for the food and beverage sector are seemingly limitless. Take precision farming, for example, an area where machine learning is delivering new depths of insight. This might be analysis of past harvests in terms of both quantity and quality, in combination with weather forecasts to inform which fields need watering and when, or when to use fertilizer perhaps.

More food and beverage organizations are turning toward AI to help reduce waste and identify inefficiencies within the supply chain.

 Planning for all eventualities

Recently, food businesses could be forgiven for thinking that the only thing they can be certain of is uncertainty itself. With more unpredictable variations in weather conditions, what about the role of machine learning where there are potentially no data patterns to be found? 

What machine learning can do is help better understand the risks of changing weather conditions and how they can impact harvests globally. It’s this increased understanding that can inform the strategies needed to mitigate these risks. But, even with all the latest machine learning technologies, to ensure these strategies are effective requires consensus. As the UN’s Food and Agriculture Organization (FAO) points out, every party involved in the food supply chain needs to become more resilient, minimizing their use of water, energy and other resources, all changes that can be underpinned by machine learning.

As technology develops and as more businesses discover the benefits that can be realized with the application of AI, so AI capabilities will develop even further still, refined to solve specific industry or business problems. As we’re seeing already, the considered application of AI technologies is helping businesses right across the food and beverage industry and supply chain, and this is only set to increase over the next few years. AI is already proving to be a driver of real efficiencies as well as helping businesses to plan for all eventualities, delivering the actionable insight that’s needed to stay one step ahead at all times.

AI สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

AI สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

AI สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

บทความโดย เทอร์รี สมา, รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, บริษัทอินฟอร์

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงบ่อยครั้งในปัจจุบัน เพราะ ChatGPT และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันกำลังส่งผลต่อชีวิตประจำวันของผู้คน แต่ AI ก็ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ ต้นกำเนิดของ AI สามารถย้อนกลับไปได้ถึงในช่วงทศวรรษ 1950  ทั้งนี้ผลจากการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษจนถึงปัจจุบัน กำลังกลายเป็นกระแสหลักและสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง

สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มก็เช่นกัน ธุรกิจจำนวนมากขึ้นกำลังเก็บเกี่ยวประโยชน์ต่าง ๆ จากเทคโนโลยี AI  พร้อมกันนี้มีการคาดการณ์ว่า ตลาด AI ในภาคอาหารและเครื่องดื่มจะมีมูลค่าสูงถึง 29.94 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2571 ดังนั้นจึงคาดว่าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ลงทุนใน AI จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  แต่ก็ยังคงมีความสับสนอย่างมากว่าแท้จริงแล้ว AI คืออะไร ทำงานอย่างไร และเป็นประโยชน์ต่อภาคอาหารและเครื่องดื่มอย่างไร

AI คืออะไร แมชชีนเลิร์นนิงคืออะไร

AI คือความสามารถของคอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักร ที่สามารถลอกเลียนหรือเลียนแบบพฤติกรรมอันชาญฉลาดและปฏิบัติงานได้เหมือนมนุษย์ โดยสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความสามารถในการเรียนรู้ของมนุษย์ เช่น การคิด การใช้เหตุผล การเรียนรู้จากประสบการณ์ และที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจได้เอง

ส่วนแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning – ML) นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ AI ที่สามารถเรียนรู้และปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมหรือช่วยทำ แมชชีนเลิร์นนิงใช้อัลกอริธึมและแบบจำลองทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาด โดยวินิจฉัยจากรูปแบบข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการขั้นต่อไป

AI เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในด้านใด

พูดง่าย ๆ ก็คือ AI (เฉพาะส่วนแมชชีนเลิร์นนิง) มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารทุกด้าน ทำให้แอปพลิเคชันอัจฉริยะที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม สามารถปรับปรุงระบบห่วงโซ่อุปทานได้ทุกจุดตั้งแต่แหล่งกำเนิดไปจนถึงมือผู้บริโภค ช่วยสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานที่มีความคล่องตัวและขับเคลื่อนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

ส่วนแมชชีนเลิร์นนิงสามารถให้คำแนะนำที่แม่นยำและทันเวลาสำหรับระบบห่วงโซ่อุปทานได้เกือบทุกด้าน ด้วยความสามารถในการคำนวณค่าข้อมูล พารามิเตอร์ สถานการณ์จำลอง และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จำนวนมาก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยากจะเลียนแบบหากปราศจากการใช้เทคโนโลยี AI

มีการใช้แมชชีนเลิร์นนิงในด้านใดบ้าง

ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะมีการใช้แมชชีนเลิร์นนิงอย่างไร้ขีดจำกัด เช่น เรื่องเกษตรแม่นยำ (precision farming) ที่แมชชีนเลิร์นนิงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ซึ่งอาจเป็นการวิเคราะห์การเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ควบคู่ไปกับการพยากรณ์สภาพอากาศเพื่อกำหนดพื้นที่และเวลาที่ต้องรดน้ำ หรือเวลาที่ต้องใส่ปุ๋ย เป็นต้น

บริษัทอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมากขึ้นหันมาใช้ AI เพื่อช่วยลดการสูญเสีย และค้นหาความไร้ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในระบบห่วงโซ่อุปทาน

เตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์

เมื่อไม่นานมานี้ เราอาจพอเข้าใจได้ถึงการที่ธุรกิจอาหารคิดว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่นอน  แต่ด้วยสภาพอากาศแปรปรวนเพิ่มขึ้นที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แมชชีนเลิร์นนิงจะเข้ามีบทบาทด้านใดในเรื่องนี้หากไม่มีรูปแบบข้อมูลให้ค้นหา 

สิ่งที่แมชชีนเลิร์นนิงทำได้คือ ช่วยให้เข้าใจความเสี่ยงของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดต่อการเก็บเกี่ยวทั่วโลก ซึ่งความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยให้กำหนดแผนงานที่จำเป็นในการลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้  แต่ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงทันสมัยที่สุดพร้อมสรรพแล้วก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์เหล่านี้มีประสิทธิภาพก็ต้องมีความเห็นพ้องต้องกันด้วย  ทั้งนี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบห่วงโซ่อุปทานอาหารจะต้องยืดหยุ่นมากขึ้น ลดการใช้น้ำ พลังงาน และทรัพยากรอื่น ๆ ให้น้อยลง โดยแมชชีนเลิร์นนิงจะสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่กล่าวมาได้

ในขณะที่เทคโนโลยีพัฒนาและธุรกิจต่าง ๆ ค้นพบประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ AI  ความสามารถของ AIก็จะยิ่งพัฒนามากขึ้นไปอีก โดยได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการแก้ปัญหาเฉพาะของอุตสาหกรรมหรือธุรกิจ  ดังที่เราได้เห็นแล้วว่าการประยุกต์ใช้ AI อย่างรอบคอบกำลังช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และในระบบห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้คาดว่าจะมีการใช้ AI เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะ AI ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นตัวขับเคลื่อนประสิทธิภาพที่แท้จริง พร้อมทั้งช่วยให้ธุรกิจวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ทั้งหลายที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งจำเป็นต่อการก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา

สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ขับเคลื่อนแผนพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในอาเซียนกว่า 1.9 พันล้านล้านบาทในปี 2573  โดยมีโครงการ AI Thailand เป็นหน่วยงานกลางเพื่อการพัฒนาที่มุ่งสนับสนุนทิศทางการพัฒนาในทุกด้าน รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนา การศึกษา การนำไปใช้ และความปลอดภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้เทคโนโลยี AI อย่างยั่งยืนโดยได้ทำการสำรวจธุรกิจใน 10 ภาคส่วน ครอบคลุมผู้ตอบแบบสอบถามจาก 3,529 บริษัท โดยผลการศึกษาพบว่า 15.2% ของธุรกิจได้นำ AI ไปใช้แล้ว 56.7 % มีแผนจะใช้ในอนาคต และ 28.2% ไม่มีแผนใด ๆ ในการใช้ AI

ดังนั้นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) จัดทำแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 – 2570) ขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยี AI จะถูกนำไปใช้อย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ ตลอดจนจัดทำแนวทางการใช้ AI ในภาคส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการใช้ AI ในการเกษตรและอาหารเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน โดยเทคโนโลยี AI จะช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการพืชผล สุขภาพของดิน และการควบคุมศัตรูพืชได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา AI สำหรับอาหาร เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารอีกด้วย