อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

  • 5G Innovation and Experience Studio ของอีริคสัน ในโครงการ Thailand Digital Valley จะเป็นฐานรากสำคัญสำหรับการพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ จากการร่วมมือกับพันธมิตรและผู้ให้บริการต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
  • บริษัทฯ เปิดกว้างด้านการร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม
  • พร้อมเผยอีก ปี ยอดผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย

บริษัท อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน 5G อันแข็งแกร่งที่กำลังพัฒนายิ่งขึ้นในประเทศไทย โดยอาศัยโซลูชันเครือข่าย 5G ล้ำสมัย ผสานเข้ากับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่าย 5G ทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้และยั่งยืน ซึ่งทำให้อีริคสันมีความพร้อมเป็นส่วนสำคัญเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคง 

แผนงานหลักประการหนึ่งของอีริคสันเพื่อประเทศไทยคือการจัดตั้ง 5G Innovation and Experience Studio (5GIX Studio) ที่สร้างเสร็จใหม่ในโครงการ Thailand Digital Valley โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

5GIX Studio แห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 5G ร่วมกัน โดยใช้เครือข่ายแซนด์บ็อกซ์ 5G ที่ทันสมัยของอีริคสัน สำหรับห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา ทดสอบ ตรวจสอบ และให้การรับรองยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรจากทั่วโลก

ห้องปฏิบัติการนี้ยังจัดแสดงความหลากหลายของยูสเคส 5G ระดับแถวหน้า รวมถึงหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เครื่องจักรการผลิตอัตโนมัติที่เป็นความร่วมมือกับมิตซูบิชิ และกล้อง CCTV 360 องศา  แบบสวมใส่ได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เผยให้เห็นศักยภาพในการนำเทคโนโลยี 5G มาเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

อีริคสัน ประเทศไทย เปิดกว้างรับความร่วมมือเพิ่มเติมจากผู้มีส่วนร่วมสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตร ผู้ใช้งาน สถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรม

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรม ช่วยให้ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถใช้บริการใหม่ ๆ ได้ โดยเรายังมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่าย 5G ที่ทั้งแข็งแกร่งและมีความยั่งยืน ผมหวังว่า 5G Innovation and Experience Studio ในโครงการ Thailand Digital Valley จะส่งเสริมให้เกิดยูสเคสใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทย และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการอื่น ๆ ในระบบนิเวศ จะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนไทย เศรษฐกิจ และประเทศชาติ

จากรายงาน Ericsson Mobility ที่เพิ่งเผยแพร่ออกไป คาดการณ์ ภายในปี 2029 จำนวนผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย โดย ณ สิ้นปี 2023 มียอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ซึ่งผู้สมัครใช้บริการ 5G ในระดับภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาไม่แพง โปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ  ส่วนลด และแพ็กเกจบันเดิลการใช้ดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการ และคาดว่าในปี 2029 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะเพิ่มสูงถึง 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค และในปี 2029 จะมียอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน เมื่อปี 2023

5G จะกลายเป็นเครือข่ายบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก่อนสิ้นสุดช่วงคาดการณ์ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคลื่นความถี่ 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ 

รายงาน Ericsson Mobility เผยมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั้งหมดกว่า 300 รายทั่วโลก ที่เปิดให้บริการ 5G โดยมี 50 ราย ที่เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2029 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 มีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 160 ล้านราย ณ ปัจจุบันอีริคสันคือผู้นำ 5G ระดับโลก โดยเปิดบริการเครือข่าย 5G ไปแล้วถึง 162 เครือข่าย ใน 69 ประเทศทั่วโลก 

รายงานล่าสุดจาก Frost & Sullivan ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ซึ่งครอบคลุมถึง Radio Access Networks (RAN), Transport Networks และ Core Networks โดยอีริคสันได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ ในรายงานการวิเคราะห์ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ของ Frost Radar™ ประจำปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ตอกย้ำให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากกลยุทธ์บริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs)

Ericsson Mobility Report: 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

Ericsson Mobility Report: 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029

  • Mobile data traffic globally is expected to grow by 20 percent annually through the end of 2029
  • 5G subscriptions are predicted to reach around 560 million in the Southeast Asia region by the end of 2029.
  • Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

According to the latest edition of the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report, 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029 – with global 5G population coverage beyond mainland China set to double from 40 percent at the end of 2023 to 80 percent by the end of 2029.

About 300 CSPs globally now offer 5G services, of which about 50 have launched 5G Standalone (5G SA).5G continues to grow in all regions and is expected to account for about 60 percent of all mobile subscriptions by the end of 2029. About 160 million 5G subscriptions were added globally in the first three months of 2024 – bringing the total to more than 1.7 billion. Almost 600 million new subscriptions are expected in 2024 as a whole.

Mobile network data traffic grew 25 percent year-on-year between the end of March 2023 and the end of March 2024, driven primarily by subscriber migration to later generations and data-intense services, such as video.

Mobile data traffic is forecast to grow with a compound annual growth rate of about 20 percent through the end of 2029. About a quarter of all mobile network data was handled by 5G by the end of 2023. This is forecast to grow to about 75 percent by the end of 2029.

5G mid-band population coverage outside of mainland China has reached 35 percent. North America and India have made rapid deployments, topping 85 and 90 percent mid-band coverage respectively.

5G is expected to become the dominant mobile access technology by subscription before the end of the forecast period. Although 5G population coverage is growing, 5G mid-band is only deployed in around 25 percent of all sites globally outside of mainland China. The 5G mid-band spectrum provides a sweet spot between both coverage and capacity, while improving user experience. As 5G matures, the focus for many service providers is expected to shift toward developing differentiated connectivity offerings.

In the Southeast Asia and Oceania region, 5G subscriptions are predicted to reach around 560 million in the region by the end of the forecast period. 5G subscriptions in Southeast Asia stood at 61 million at the end of 2023. The 5G subscriber base in the region continues to grow as subscribers migrate to 5G, driven by more affordable 5G devices, promotional plans, discounts and large data bundles from service providers. 5G subscriber base as a percentage of the total subscriber base has already reached over 20 percent in markets like Singapore, Australia, Thailand and Malaysia.  At the end of 2029, 5G mobile subscriptions are expected to reach 43% of all mobile subscriptions in the region.

Anders Rian, Head of Ericsson Thailand states, “5G is a platform for innovation and we are committed to working together with the government, enterprises and the eco system to drive the digital transformation of Thailand’s economy and make Digital Thailand a reality. We are also leveraging our global expertise and technology leadership to keep our customers in Thailand and elsewhere at the forefront of 5G.”

Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

The details, alongside Ericsson’s latest mobile industry forecasts, regional breakdowns and customer case studies, feature in the June 2024 Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report.

Read the full June 2024 Ericsson Mobility Report via this link.

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

  • ปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือทั่วโลกจะเติบโตขึ้น 20% ต่อปี จนถึงปี 2029
    ในอีก 5 ปี ยอดผู้สมัครใช้บริการ 5G ขอ
  • ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มเป็น 560 ล้านราย
  • และในปี 2029 ปริมาณการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 202

รายงาน Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้ใช้งาน 5G ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.6 พันล้านราย โดยมีจำนวนประชากร 5G ทั่วโลกที่อยู่นอกประเทศจีนเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว จากเดิม 40% ในปี 2023 เพิ่มเป็น 80% ในปี 2029

มีผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งหมดกว่า 300 รายทั่วโลก ที่ให้บริการ 5G โดยมี 50 ราย ที่เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2029 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 มีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 160 ล้านราย ทำให้ในปี 2024 คาดว่าจะมีผู้ใช้ 5G มากกว่า 1.7 พันล้านราย และเป็นผู้ใช้รายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 600 ล้านราย

ปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือเติบโตขึ้น 25% ต่อปีในช่วงมีนาคม 2023 ถึงมีนาคม 2024 เป็นผลมาจากการสมัครใช้บริการมือถือในรุ่นถัดไปและบริการที่เน้นการใช้ดาต้า อาทิ วิดีโอ

คาดว่าปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือจะเติบโตขึ้น 20% ต่อปี ไปจนถึงปี 2029 และคาดว่าโทรศัพท์ที่รันบนเครือข่าย 5G จะเพิ่มเป็น 75% จากเดิมในปี 2023 ที่รันผ่านเครือข่าย 5G อยู่ราว 1 ใน 4 (25%) เท่านั้น

ความครอบคลุมสัญญาณของ 5G Mid-Band นอกประเทศจีนจะเพิ่มเป็น 35% โดยอเมริกาเหนือและอินเดียมีการนำย่านความถี่นี้มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งครอบคลุมสัญญาณอยู่ในระดับ 85% และ 90% ตามลำดับ

5G จะกลายเป็นเครือข่ายบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก่อนสิ้นสุดช่วงคาดการณ์ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคลื่นความถี่ 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ เมื่อ 5G ถูกใช้งานแพร่หลาย เต็มที่ คาดว่าผู้ให้บริการเครือข่ายหลายรายจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแพ็กเกจการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย คาดว่าในช่วงสิ้นสุดของการคาดการณ์นี้จะมีจำนวนผู้สมัครใช้บริการ 5G สูงถึง 560 ล้านราย โดยมีผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ณ สิ้นปี 2023 ซึ่งผู้สมัครใช้บริการ 5G ในระดับภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาไม่แพง โปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ ส่วนลด และแพ็กเกจบันเดิลการใช้ดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งจากฐานผู้สมัครใช้บริการทั้งหมดมีสัดส่วนผู้สมัครใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในตลาดต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไทย และมาเลเซีย และคาดว่าในปี 2029 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะเพิ่มสูงถึง 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค

มร. แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G คือแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรม และเรามุ่งมั่นทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐ องค์กรธุรกิจ รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย และทำให้ Digital Thailand เป็นจริง นอกจากนี้ เรายังนำความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเป็นผู้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนลูกค้าของเราในประเทศไทยและในพื้นที่อื่น ๆ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้าน 5G”

ยอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2029 จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2023   

รายละเอียด รวมถึงการคาดการณ์อุตสาหกรรมมือถือล่าสุดของอีริคสัน ข้อมูลในระดับภูมิภาค และเคสการใช้งานลูกค้า รวบรวมไว้ในรายงาน Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report  ประจำเดือนมิถุนายน 2024

อ่านรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนมิถุนายน 2024 ได้ที่ลิงก์

Technology Powers the Green Revolution in the Sports Industry Towards Sustainability Victory

Technology Powers the Green Revolution in the Sports Industry Towards Sustainability Victory

Technology Powers the Green Revolution in the Sports Industry Towards Sustainability Victory

The sports industry has played an increasingly important role on the global sustainabilitystage in recent years. Recognized by the United Nations as a vital contributor to the Sustainable Development Goals (SDGs), the sports world is now setting the pace for environmental responsibility. With the Paris 2024 Games pioneering alignment with the Paris Agreement on Climate Change, the industry is poised to showcase how tech innovations can lead the way in sustainable practices.

The sports industry’s commitment to sustainability is more than a trend; it’s a necessary evolution in a world increasingly aware of its environmental footprint. However, achieving these green goals is a complex challenge. This is where technological innovation steps in as the Most Valuable Player (MVP). It’s also in line with Alibaba Cloud’s commitment to supporting the sports industry and events with innovative AI solutions and trustworthy cloud technologies.

Sustainability Through Technological Innovation

Artificial intelligence (AI) and data analytics have already proven their worth by enhancing athlete performance and redefining fan engagement. Coaches utilize AI for personalized training regimes while minimizing the risk of injury, and media organizations are leveraging AI to streamline content creation and curation, saving time and resources. Looking ahead, AI’s capacity to analyze digital assets will help sports organizations mine insights and repurpose content across multiple channels, enhancing fan experiences while promoting sustainability narratives.

But the influence of technology in advancing sustainability goals extends far beyond the playing field. Let’s examine how leading solutions are being deployed in practical and high-impact scenarios:

Precision Eco-Impact Analytics with AI: Harnessing AI enables meticulous assessment and mitigation of the environmental footprint of sports events, providing data-driven insights for strategic carbon management. AI-driven sustainability platforms, like Alibaba Cloud’s Energy Expert applied during the first ever Olympic Esports Week in Singapore last year, are breaking new ground in quantifying the environmental impact of sporting events. By measuring and analyzing the carbon emissions from temporary constructions, these platforms enable organizers to make insightful decisions that reduce the ecological footprint of major events.

Energy expert’s dashboard shows carbon footprint of temporary construction at the first Olympic Esports Week in Singapore
Energy expert’s dashboard shows carbon footprint of temporary construction at the first Olympic Esports Week in Singapore

Eco-Efficient Cloud Transformation for Mega Sports Events: A transformative approach leverages cloud technologies to slash the carbon footprint of major sporting events, simultaneously enhancing operational efficiency and extending media reach. The Hangzhou Asian Games launched its core systems on Alibaba Cloud, with Alibaba Cloud powering core operational systems, results dissemination, and event management, resulting in a reduction of physical resources and a sustainable overall infrastructure for the event. The Olympics Winter Games Beijing 2022 expanded the use of Alibaba Cloud’s live content delivery platform on the cloud, initially piloted in Tokyo 2020, making the Games more accessible to broadcasters around the world with reduced carbon footprint.

Green Rewards for Sustainable Actions: An innovative incentive system rewards eco-friendly behaviors among event participants and spectators, fostering an environmentally responsible community culture. Alibaba Cloud’s sustainable lifestyle tool introduced at the Hangzhou Asian Games exemplifies how technology can encourage environmentally responsible behavior. By rewarding eco-friendly choices with tangible benefits, such as carbon points, the industry can foster a culture of sustainability among participants and spectators alike.

Interactive Green Playbook for Fans and Organizers: Sports federations and fans are empowered with state-of-the-art, cloud-powered sustainability toolkits that make environmental responsibility an engaging and educational aspect of the sporting experience. Organizations like the International Canoe Federation and the World Baseball Softball Confederation are harnessing cloud technology to create sustainability toolkits and enhance fan experiences. These toolkits assist organizers in adopting renewable energy and sustainable event management practices. Moreover, by infusing sustainability messaging into the fan experience through gamification, these organizations are making environmental responsibility an engaging component of the sporting experience.

Toward a Sustainable Future in Sports

The sports industry’s embrace of technology is unlocking new possibilities for achieving sustainability goals. Through innovative applications of AI, cloud computing, and digital engagement tools, the industry is proving that environmental responsibility can go hand-in-hand with a winning performance. As we race towards a greener future, the sports sector stands as a testament to how embracing technology is not just a strategic move—it’s a necessary leap towards a sustainable planet for all.

As the journey towards a greener future continues, the sports industry is solidifying its position as a leader in sustainability. By making strategic use of technology, it is scoring goals for both the planet and the future of sports. The message is clear: sustainability and performance are not mutually exclusive; they are co-drivers of an industry that champions the wellbeing of our world as much as the thrill of the game.

พลังเทคโนโลยี ปฏิวัติเขียวอุตสาหกรรมกีฬา สู่ชัยชนะแห่งความยั่งยืน

พลังเทคโนโลยี ปฏิวัติเขียวอุตสาหกรรมกีฬา สู่ชัยชนะแห่งความยั่งยืน

พลังเทคโนโลยี ปฏิวัติเขียวอุตสาหกรรมกีฬา สู่ชัยชนะแห่งความยั่งยืน

อุตสาหกรรมกีฬามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในเวทีความยั่งยืนระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้ให้การยอมรับว่าอุตสาหกรรมกีฬาเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมสำคัญต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โลกกีฬาในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก Paris 2024 ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement on Climate Change) ซึ่งชูให้เห็นว่าอุตสาหกรรมกีฬาพร้อมแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีสามารถนำสู่การใช้แนวปฏิบัติที่ยั่งยืนได้อย่างไร

ความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมกีฬาเป็นมากกว่าการตามกระแส แต่เป็นการปฏิวัติที่จำเป็นต้องทำในโลกที่ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตามการจะบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นต้องผ่านความท้าทายที่ซับซ้อน ณ จุดนี้เองที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยและมีบทบาทโดดเด่นเหมือนนักกีฬาที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม (Most Valuable Player: MVP) ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Alibaba Cloud ที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมกีฬาและการจัดการแข่งขันต่าง ๆ ด้วยโซลูชัน AI ที่เป็นนวัตกรรมล้ำหน้า และเทคโนโลยีคลาวด์ที่เชื่อถือได้ของบริษัทฯ

ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

AI และการวิเคราะห์ข้อมูลได้พิสูจน์คุณค่าตัวเองแล้ว ด้วยการเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาและกำหนดนิยามใหม่ให้กับการมีส่วนร่วมของแฟนกีฬา โค้ชใช้ AI เพื่อกำหนดระบบการเทรนด์แบบเจาะจงให้กับนักกีฬาแต่ละคน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บด้วย นอกจากนี้ องค์กรสื่อต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการสร้างและการจัดการคอนเทนต์ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและทรัพยากร ในอนาคต ความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัล จะช่วยให้องค์กรกีฬาเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกและนำเนื้อหามาใช้ใหม่ได้หลายช่องทาง เป็นการเพิ่มประสบการณ์การรับชมการแข่งขันให้กับแฟนกีฬาพร้อม ๆ กับส่งเสริมเรื่องราวด้านความยั่งยืน

อิทธิพลของเทคโนโลยีต่อเป้าหมายความยั่งยืนนั้นไปไกลมากกว่าในสนามแข่งขัน ต่อไปนี้เป็นโซลูชันชั้นนำที่มีการนำไปใช้ในสถานการณ์จริงและได้รับประสิทธิผลสูง

วิเคราะห์ผลกระทบต่อระบบนิเวศได้อย่างแม่นยำด้วย AI: การใช้ AI ช่วยให้ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการจัดแข่งขันกีฬาได้อย่างละเอียด จึงสามารถบรรเทาผลกระทบได้อย่างมาก ทั้งยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าเพื่อใช้บริหารจัดการกลยุทธ์ด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอน แพลตฟอร์มด้านความยั่งยืนที่ใช้ AI เช่น Energy Expert ของ Alibaba Cloud ซึ่งใช้ในการแข่งขัน Olympic Esports Week เป็นครั้งแรกในประเทศสิงคโปร์เมื่อปีที่ผ่านมา กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการวัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการจัดงานแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ด้วยการวัดและวิเคราะห์ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอร์นจากการก่อสร้างสถานที่จัดแข่งขันชั่วคราว นอกจากนี้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังช่วยให้ผู้จัดงานตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และส่งผลให้ฟุตพริ้นท์ของระบบนิเวศในการจัดงานสำคัญต่าง ๆ ลดลง

แดชบอร์ดของ Energy Expert แสดงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการก่อสร้างสถานที่จัดงานชั่วคราว ในการแข่งขัน Olympic Esports Week ครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์
แดชบอร์ดของ Energy Expert แสดงปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการก่อสร้างสถานที่จัดงานชั่วคราว ในการแข่งขัน Olympic Esports Week ครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์

การทรานส์ฟอร์มไปยังคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-efficiency) ให้กับการจัดมหกรรมกีฬาต่าง ๆ: การเปลี่ยนไปใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากมหกรรมกีฬาต่าง ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการจัดการแข่งขัน และขยายช่องทางการสื่อสารการแข่งขันผ่านสื่อได้อย่างกว้างขวางไปพร้อม ๆ กัน เช่น การรันระบบหลักของการจัดมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่หางโจว (Hangzhou Asian Games) บน Alibaba Cloud โดยใช้ Alibaba Cloud ขับเคลื่อนระบบการทำงานสำคัญ เผยแพร่ผลการแข่งขัน และบริหารจัดการการจัดงาน ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานในภาพรวมของการจัดงานครั้งนั้นมีความยั่งยืน และลดการใช้ทรัพยากรทางกายภาพลงได้ นอกจากนี้ ณ มหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022 (Olympics Winter Games Beijing 2022) ได้มีการขยายการใช้แพลตฟอร์มการจัดส่งเนื้อหาสดบนคลาวด์ของ Alibaba Cloud ซึ่งมีการเริ่มทดลองใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นครั้งแรกที่โอลิมปิกฤดูร้อน 2020 (Tokyo 2020) เป็นการช่วยให้ผู้ทำการถ่ายทอดสดทั่วโลกเข้าถึงการแข่งขันได้มากขึ้น และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ลง

รางวัลสีเขียว (Green Rewards) มอบให้กับผู้ที่ปฏิบัติหรือมีพฤติกรรมที่นำสู่ความยั่งยืน: ระบบนี้เป็นการจูงใจด้านนวัตกรรมที่ให้รางวัลกับผู้เข้าร่วมงานและผู้ชมที่มีการกระทำหรือพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชนที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ได้มีการแนะนำเครื่องมือไลฟ์สไตล์ด้านความยั่งยืนของ Alibaba Cloud ณ Hangzhou Asian Games เพื่อเป็นตัวอย่างว่าเทคโนโลยีสามารถส่งเสริมการกระทำที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ด้วยการให้รางวัลทางเลือกในการปฏิบัติหรือการเลือกใช้สิ่งต่าง ๆ ที่รักษ์สิ่งแวดล้อมและเห็นผลที่จับต้องได้ เช่น คะแนนคาร์บอน ซึ่งช่วยให้อุตสาหกรรมกีฬาสามารถสนับสนุนวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนทั้งในหมู่ผู้มีส่วนร่วมในการแข่งขันและผู้ชมได้

Interactive Green Playbook สำหรับแฟนกีฬาและผู้จัดงาน: ชุดเครื่องมือด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ที่ทันสมัยนี้ช่วยเสริมความสามารถให้สหพันธ์กีฬาต่าง ๆ รวมถึงเหล่าแฟนกีฬา ทั้งยังช่วยให้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นแง่มุมที่น่าศึกษาและน่ามีส่วนร่วมในแวดวงกีฬา องค์กรต่าง ๆ เช่น the International Canoe Federation และ the World Baseball Softball Confederation กำลังใช้เทคโนโลยีคลาวด์สร้างชุดเครื่องมือด้านความยั่งยืนและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้แฟน ๆ กีฬาของตน ชุดเครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้องค์กรบริหารการจัดงานด้วยแนวทางที่ยั่งยืนและใช้พลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้องค์กรเหล่านี้ยังกำลังทำให้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นประสบการณ์ส่วนหนึ่งที่แฟนกีฬาจะได้รับ ด้วยการผสานแนวคิดแบบเกมเข้ากับประเด็นด้านความยั่งยืนเพื่อเสริมแรงจูงใจให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมกีฬา

อุตสาหกรรมกีฬา อ้าแขนรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน การใช้นวัตกรรมด้าน AI คลาวด์คอมพิวติ้ง และเครื่องมือการมีส่วนร่วมแบบดิจิทัล เป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมกีฬากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสามารถไปด้วยกันได้กับสมรรถนะที่ทำให้ชนะการแข่งขัน ในขณะที่เราแข่งกันวิ่งสู่อนาคตสีเขียว อุตสาหกรรมกีฬายืนหยัดเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การเปิดรับและนำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่เพียงเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวกระโดดที่จำเป็นสู่โลกที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

การเดินทางสู่อนาคตสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังคงดำเนินต่อไป อุตสาหกรรมกีฬากำลังรั้งตำแหน่งผู้นำด้านรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเหนียวแน่น และจะสามารถทำแต้มสู่ความสำเร็จให้กับโลกและอนาคตของกีฬาต่าง ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างมีกลยุทธ์ ด้วยประเด็นที่ชัดเจนว่า ความยั่งยืนและสมรรถนะในการแข่งขันไม่ได้แยกจากกัน แต่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่สนับสนุนและปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของโลกของเราเท่า ๆ กับความตื่นเต้นของการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ