ซีเมนส์สนับสนุนอุตสาหกรรม F&B ไทย ใช้เทคโนโลยีลดความท้าทายด้านพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ซีเมนส์สนับสนุนอุตสาหกรรม F&B ไทย ใช้เทคโนโลยีลดความท้าทายด้านพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ซีเมนส์สนับสนุนอุตสาหกรรม F&B ไทย ใช้เทคโนโลยีลดความท้าทายด้านพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ยกเทคโนโลยีดิจิทัลทวินและนวัตกรรมการผลิตล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมาแสดงในงาน ProPak Asia 2024 

ซีเมนส์ เดินหน้าสนับสนุนวิสัยทัศน์ Thailand 4.0 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรม F&B ในการก้าวสู่ยุคดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนมากขึ้น นำเทคโนโลยีและโซลูชันระดับโลกล่าสุด อาทิ Robot Integrator, Integrated Energy Management System, Advanced Planning and Scheduling หรือ APS Predictive Maintenance และอีกหลากหลายนวัตกรรมด้านความยั่งยืน มาร่วมจัดแสดงและสาธิตยูสเคสที่น่าสนใจ ภายในงาน ProPak Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) โดยซีเมนส์จะอยู่ที่ ฮอลล์ 98 บูท B44 

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้าน โดยเฉพาะต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นการดูแลสุขภาพ สินค้าที่ออกแบบเฉพาะบุคคล และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือนมีนาคม 2567 หดตัว 5.13% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 ซึ่งมีหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมัน โดยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

ปัจจุบันผู้ประกอบการมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ในปีงบประมาณ 2566 ผลิตภัณฑ์และโซลูชันจากซีเมนส์ช่วยให้ลูกค้าของบริษัทฯ หลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ประมาณ 190 ล้านตัน สอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

โจเซฟ คง หัวหน้ากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล ซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ซีเมนส์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นอุตสาหกรรมการผลิตไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้และเดินหน้าสู่เส้นทางการผลิตที่ยั่งยืน เรามุ่งมั่นสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรม F&B ไปสู่การใช้โซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของอุตสาหกรรม การจัดแสดงโซลูชันของซีเมนส์ ภายในงาน Propak Asia 2024 ครั้งนี้จะช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฯเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ตั้งแต่ส่วนการออกแบบ (Design) ส่วนการผลิต (Production) และห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส ผลักดันการใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมฯ

เทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลท์ของซีเมนส์ที่จัดแสดงในงาน ProPak Asia 2024 ประกอบด้วย

  • Robot Integrator: ปัจจุบันภาคการผลิตมีการใช้เครื่องจักรและหุ่นยนต์อย่างแพร่หลาย จากผู้ผลิตต่างแบรนด์ ซึ่งทำให้เกิดความซับซ้อน สิ้นเปลืองทรัพยากรและงบประมาณในการจัดการ ทั้งนี้โซลูชัน Robot Integrator ผนวกรวมการจัดการหุ่นยนต์จากผู้ผลิตหลายรายเข้าด้วยกันภายใต้ Interface เดียว ลดเวลาการเขียนโปรแกรมและวิศวกรรมซอฟต์แวร์ลงถึง 30%* สามารถช่วยให้อุตสาหกรรม F&B ได้รับประโยชน์ในสองด้านหลัก ๆ ได้แก่ ด้านการทำวิศวกรรม และด้านการปฏิบัติงาน ช่วยลดความผิดพลาดและการซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ
  • Integrated Energy Management System: ซอฟต์แวร์โซลูชันในการตรวจสอบจัดการพลังงานครบวงจรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 50001 โดยโซลูชันนี้จะบันทึกข้อมูลและวิเคราะห์การใช้พลังงานหลากหลายประเภทที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิต สามารถปรับขยายได้ (Scalable) สามารถให้ข้อมูลการใช้พลังงานในส่วนย่อยไปจนถึงภาพรวมของทั้งองค์กร ช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มผลผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ
  • Opcenter Advanced Planning and Scheduling (หรือ APS): ซอฟต์แวร์ช่วยการวางแผนและกำหนดตารางการผลิตขั้นสูง ที่มีความสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนและกำหนดตารางการผลิต ลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักร เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า ประโยชน์เด่นของ Opcenter APS
    • เพิ่มผลผลิตขึ้นได้สูงสุดถึง 25% ด้วยการตรวจจับอุปสรรคคอขวดในระบบ ลดเวลาการตั้งค่า เพิ่มประสิทธิภาพในการนำเครื่องจักรและเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ และลดงานที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการลง
    • ลดการเก็บสินค้าคงคลังลงได้สูงสุดถึง 50% โดยลดของเสียในระบบ ระบุสาเหตุการขาดแคลนสินค้าได้อย่างง่ายดาย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของวัสดุและการซิงโครไนซ์ด้านการผลิต
    • การจัดส่งตรงเวลาเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 50% โดยเพิ่มประสิทธิภาพและความพร้อมใช้งาน ลดระยะเวลาการรอคอยสินค้า
  • Senseye Predictive Maintenance: โซลูชันการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์นี้ช่วยจัดการกับความท้าทายของผู้ผลิตในการบริหารการบำรุงรักษาสินทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำที่สามารถสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของเครื่องจักรและผู้ดูแลแบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรไปใช้ในจุดที่มีความจำเป็นสูงสุด ลดเวลาเครื่องจักรหยุดทำงานลงสูงสุดถึง 50% ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงสูงสุดถึง 40% แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยเร่งกระบวนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันขององค์กรได้อีกด้วย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมสัมผัสนวัตกรรมซีเมนส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปสู่ดิจิทัล ในงาน ProPak Asia 2024 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Go Digital, Become Sustainable ได้ที่ Siemens ProPak Asia 2024

Alibaba Cloud to Help Elevate Olympic Viewing with AI-Enhanced Multi-Camera Replay Service

Alibaba Cloud ยกระดับการรับชมโอลิมปิกด้วยบริการ Multi-Camera Replay Service ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Alibaba Cloud to Help Elevate Olympic Viewing with AI-Enhanced Multi-Camera Replay Service

Alibaba Cloud, the digital technology and intelligence backbone of Alibaba Group, in partnership with Olympic Broadcasting Services (OBS), was testing its latest AI-enhanced multi-camera replay service at the Olympic Qualifier Series in Shanghai, held on May 16-19. This pivotal event determined the athletes participating in the forthcoming Olympic Games in Paris (“Paris 2024”)

The AI innovation from Alibaba Cloud is poised for deployment across various competition venues during Paris 2024, promising to deliver a dynamic and vivid viewing experience to audiences worldwide.

“We are thrilled to collaborate with OBS to expand the use of our cutting-edge cloud-based AI technology, aiming to elevate sports broadcasting to new levels of immersion and engagement,” said Selina Yuan, President of International Business at Alibaba Cloud Intelligence. “As a pioneer in delivering intelligent sports solutions, we aim to work with OBS to redefine how global sports enthusiasts experience and engage with the Olympic Games. We look forward to further contributing to the Paris 2024 experience with our advanced cloud technologies.”

Alibaba Cloud was testing multi-camera replay service at the skateboarding venue at Olympic Qualifier Series in Shanghai
Alibaba Cloud was testing multi-camera replay service at the skateboarding venue at Olympic Qualifier Series in Shanghai
Alibaba Cloud was testing multi-camera replay service at the skateboarding venue at Olympic Qualifier Series in Shanghai
Alibaba Cloud was testing multi-camera replay service at the skateboarding venue at Olympic Qualifier Series in Shanghai

Alibaba Cloud’s powerful computing architecture and proven cloud technologies facilitate the near real-time processing of high-precision 3D reconstruction and video rendering.

During Paris 2024, the AI-enabled replay system will be implemented at 12 competition venues for events such as beach volleyball, tennis, judo and rugby. The multi-angle video content will make available through OBS’s production system, enriching coverage of the Olympic Games through cloud broadcasting with a range of dynamic and lifelike replay footage for global Media Rights Holders (MRH).

First introduced at the Olympic Winter Games Beijing 2022 for curling and speed skating events, the multi-camera replay system was used to immerse fans in the action, allowing them to experience critical competition moments from a variety of optimal angles. With more AI features and deployment at more competition scenes, the innovation is to help elevate the broadcast of the Olympic Games to a new level.

As the official cloud service provider for the International Olympic Committee, Alibaba Cloud remains at the forefront of broadcasting innovation, driving the expansion of Games coverage through more inventive and inclusive technologies, with the goal to redefine the future of sports viewing experience with partners like OBS.

Alibaba Cloud ยกระดับการรับชมโอลิมปิกด้วยบริการ Multi-Camera Replay Service ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Alibaba Cloud ยกระดับการรับชมโอลิมปิกด้วยบริการ Multi-Camera Replay Service ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Alibaba Cloud ยกระดับการรับชมโอลิมปิกด้วยบริการ Multi-Camera Replay Service ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Alibaba Cloud ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ร่วมมือกับหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิก (Olympic Broadcasting Services: OBS) ทดสอบบริการ multi-camera reply ที่ใช้ AI ณ การแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิกที่เซี่ยงไฮ้ (Olympic Qualifier Series in Shanghai) ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 16 ถึง 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งกันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีสซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ (Paris 2024)

นวัตกรรม AI จาก Alibaba Cloud พร้อมใช้ ณ สถานที่จัดการแข่งขันทุกแห่งใน Paris 2024 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ผู้ชมทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมการแข่งขันที่เต็มไปด้วยพลังและมีชีวิตชีวา

เซลิน่า หยวน ประธานด้านธุรกิจระหว่างประเทศของ Alibaba Cloud Intelligence กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับ OBS เพื่อนำเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยและทำงานอยู่บนคลาวด์ของเราไปใช้แพร่หลายมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการถ่ายทอดการแข่งขันให้สมจริงและให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ในฐานะที่เราเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการโซลูชันอัจฉริยะด้านกีฬาต่าง ๆ เรามุ่งมั่นทำงานร่วมกับ OBS เพื่อกำหนดความหมายใหม่ให้กับ ‘ประสบการณ์และการมีส่วนร่วมที่แฟนกีฬาทั่วโลกจะได้รับจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก’ เรารอคอยที่จะนำเทคโนโลยีคลาวด์ที่ล้ำสมัยของเราไปใช้เสริมประสบการณ์การรับชมกีฬา ณ การแข่งขันโอลิมปิก Paris 2024”

Alibaba Cloud ทดสอบบริการ multi-camera replay ที่สนามแข่งสเก็ตบอร์ด ณ Olympic Qualifier Series ในเซี่ยงไฮ้
Alibaba Cloud ทดสอบบริการ multi-camera replay ที่สนามแข่งสเก็ตบอร์ด ณ Olympic Qualifier Series ในเซี่ยงไฮ้
Alibaba Cloud ทดสอบบริการ multi-camera replay ที่สนามแข่งสเก็ตบอร์ด ณ Olympic Qualifier Series ในเซี่ยงไฮ้
Alibaba Cloud ทดสอบบริการ multi-camera replay ที่สนามแข่งสเก็ตบอร์ด ณ Olympic Qualifier Series ในเซี่ยงไฮ้

สถาปัตยกรรมการประมวลผลที่ทรงพลังผนวกกับเทคโนโลยีคลาวด์ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วของ Alibaba Cloud ช่วยให้การประมวลผลการจำลองภาพ 3 มิติและการเรนเดอร์วิดีโอมีความแม่นยำเที่ยงตรงสูงด้วยเวลาที่เกือบจะเรียลไทม์

ระหว่างการแข่งขันโอลิมปิก Paris 2024 ระบบ replay ที่ใช้ AI จะถูกนำไปใช้ในสถานที่จัดแข่งขัน 12 แห่ง เช่น สถานที่จัดแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด เทนนิส ยูโด และรักบี้ คอนเทนต์ของวิดีโอจากหลากหลายมุมจะมีอยู่บนระบบการผลิตของ OBS ซึ่งครอบคลุมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกหลากหลายประเภท ผ่านการออกอากาศบนคลาวด์ด้วยฟุตเทจ replay แบบไดนามิกและสมจริงให้กับ Media Rights Holders (MRH) ทั่วโลก

ระบบ multi-camera replay เปิดตัวครั้งแรกที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิดฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2565 โดยนำไปใช้กับการแข่งขันเคอร์ลิง (curling) และ สเก็ตความเร็ว (speed skating) ในคราวนั้นระบบนี้ช่วยให้แฟนกีฬาได้ดื่มด่ำกับการแข่งขัน และได้สัมผัสช่วงเวลาสำคัญของการแข่งขันจากมุมมองที่เหมาะสมและชัดเจนหลายจุด และด้วยฟีเจอร์ AI ที่มีอยู่ในระบบ รวมถึงการใช้งานกับการแข่งขันกีฬามากชนิดขึ้น นวัตกรรมนี้จะช่วยยกระดับการออกอากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์อย่างเป็นทางการของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล Alibaba Cloud ยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านการออกอากาศ และขับเคลื่อนการรายงานการแข่งขันผ่านเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์และครบวงจรมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกับพันธมิตร เช่น OBS สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการรับชมกีฬาในอนาคตให้กับแฟนกีฬาทั่วโลก

LVMH Redefines Luxury Retail Experience in China with a new extended partnership with Alibaba

LVMH ขยายความร่วมมือกับ Alibaba สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูในจีน

LVMH Redefines Luxury Retail Experience in China with a new extended partnership with Alibaba

LVMH Group, the world leader in high-quality products, and Alibaba Group, the leading e-commerce and technology company in China, today announced an extended partnership to push further the boundary of luxury experience in China, leveraging Alibaba’s cloud technologies, through AI-powered innovations in retail and on-line with Tmall.

The deepened partnership is a strong commitment to the shared dedication of the two companies to pioneering retail innovation and delivering exceptional, tech-driven luxury experiences, that will enable LVMH to increase its Omnichannel, Data and Tech presence in China.

Stephane Bianchi, Group Managing Director of LVMH, said: “Alibaba is already a key partner for our Maisons and for the Group. The reinforcement of our partnership will help us to further accelerate our omni-channel business growth, and to keep on leveraging the transformative capabilities of cloud and AI technologies, along with Alibaba’s world-leading expertise in ecommerce operations. Our forward-looking collaboration will deliver unparalleled experiences to our clients throughout their high-end shopping journey.”

Eddie Wu, Chief Executive Officer of Alibaba Group, added: Alibaba is pleased to enable a transformation of the high-end consumption experience with retail leaders like LVMH through our world-class technologies in cloud computing and AI. This comprehensive partnership has elevated the retail experience for LVMH’s customers worldwide, including China-based consumers on Tmall. We look forward to continuing to build on the strong partnership and innovation journey with LVMH.”

In its pursuit of relentless innovation, LVMH has begun integrating Alibaba Cloud’s generative AI capabilities, including Qwen, Alibaba’s proprietary large language model, and Model Studio (Bailian), a comprehensive AI model building platform. This integration has paved the way for the creation of novel applications and services that underscore the luxury Maison’s commitment to staying at the forefront of innovation, harnessing cutting-edge technology to elevate its luxury offerings for global consumers, and fostering innovation-led growth within its global retail businesses.

With more than 30 Maisons and Divisions within mainland China and Southeast Asia (including Sephora APAC and DFS), this extension plan of the cooperation for another five years reflects a strong and shared commitment to explore new markets, products, and technological frontiers. Moving forward, LVMH will get access to a broader array of Alibaba Cloud’s leading technologies and proven products to further optimize its business operations, enhance customer insights, and streamline its supply chain management processes to address Chinese market.

The strategic partnership between the two industry titans was initiated in 2019. Since then, LVMH has implemented Alibaba Cloud’s data management tool, Dataphin, to power “LVMH ATOM” China—a bespoke platform designed by LVMH to deliver personalized services tailored to its expanding Chinese customer base. Furthermore, LVMH has leveraged Alibaba Cloud’s machine learning platform, PAI, to develop customized services that cater to the distinct tastes of Chinese consumers across all its brands.

This announcement of extending the global partnership follows the debut of integrating Tmall in Tiffany’s and Chaumet’s luxury retail journey. To date, LVMH has successfully introduced around 30 prestigious Maisons who are partnering with Tmall Luxury Pavilion to leverage Alibaba’s digital capabilities for engaging experiences such as 3D product displays, virtual try-on, and livestreaming. Both parties have also expanded the collaboration on various omni-retail initiatives, including digital recreation of renowned luxury venues, product debuts, membership programs, and personalized consultations. This strategic move further extends the LVMH luxury experience to millions of Chinese shoppers.

LVMH ขยายความร่วมมือกับ Alibaba สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูในจีน

LVMH ขยายความร่วมมือกับ Alibaba สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูในจีน

LVMH ขยายความร่วมมือกับ Alibaba สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูในจีน

LVMH Group ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับโลก และ Alibaba Group บริษัทด้านเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซชั้นนำของประเทศจีน ประกาศขยายความร่วมมือเพื่อมอบประสบการณ์ความหรูหราให้ลูกค้าในประเทศจีนอย่างไร้ขีดจำกัด โดยใช้เทคโนโลยีของ Alibaba Cloud ผ่านพลังจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI กับการค้าปลีกและการขายออนไลน์บน Tmall

ความร่วมมือที่แนบแน่นครั้งนี้นับเป็นความมุ่งมั่นแรงกล้าของสองบริษัทในการบุกเบิกนวัตกรรมด้านค้าปลีกและมอบประสบการณ์แห่งความหรูหราสุดพิเศษที่มีเทคโนโลยีขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังให้ลูกค้า ทั้งยังช่วยให้ LVMH เพิ่มช่องทางการขายแบบ omnichannel มีข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเป็นผู้นำในวงการนี้ในประเทศจีน

Stephane Bianchi กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท LVMH กล่าวว่า “Alibaba เป็นพันธมิตรสำคัญของ Maisons และกลุ่มบริษัทของเราอยู่แล้ว การกระชับความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้การทำธุรกิจผ่านช่องทาง omni-channel ของเราเติบโตเร็วขึ้น และให้เราได้ใช้ความสามารถของคลาวด์และ AI ที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเชี่ยวชาญระดับโลกด้านอีคอมเมิร์ซของ Alibaba ความร่วมมือนี้มองไปถึงการมอบประสบการณ์เหนือขีดจำกัดให้กับลูกค้าของเราตลอด เส้นทางการช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์”

 Eddie Wu ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alibaba Group กล่าวว่า “Alibaba ยินดีที่ได้ร่วมกับผู้นำด้านค้าปลีก LVMH สร้างการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การจับจ่ายซื้อของระดับไฮเอนด์ ด้วยเทคโนโลยี คลาวด์คอมพิวติ้งและ AI ประสิทธิภาพระดับโลกของบริษัทฯ ความร่วมมือนี้ยกระดับประสบการณ์ด้านค้าปลีกให้กับลูกค้าของ LVMH ทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศจีนที่ซื้อหาสินค้าบน Tmall เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและเดินร่วมกับ LVMH บนเส้นทางแห่งนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง”

LVMH แสวงหานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและได้เริ่มนำความสามารถด้าน generative AI ของ Alibaba Cloud ซึ่งรวมถึง Qwen โมเดลด้านภาษาขนาดใหญ่ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Alibaba และ Model Studio (Bailian) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างโมเดล AI ที่ครบวงจรมาใช้ การผสานพลังครั้งนี้เป็นการวางแนวทางสู่การสร้างสรรค์แอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์หรู Maison ที่ต้องการคงความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อยกระดับการนำเสนอสินค้าแบรนด์หรูให้กับลูกค้าทั่วโลก และส่งเสริมการเติบโตที่ใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ ทั่วโลก

ในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึง Sephora APAC และ DFS) มี Maisons และแผนกต่าง ๆ มากกว่า 30 แห่ง การขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นอีกห้าปีนี้ สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นที่แรงกล้าร่วมกันในการสำรวจตลาด ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้จากนี้ไป LVMH จะเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำและผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วของ Alibaba Cloud ได้มากขึ้น เพื่อนำไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ มีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการจัดการด้านซ้พพลายเชนให้ตอบโจทย์ตลาดจีน

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมสองประเภทนี้เริ่มขึ้นในปี 2562 นับจากนั้นมา LVMH ใช้ Dataphin ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการดาต้าของ Alibaba Cloud เพื่อขับเคลื่อน “LVMH ATOM” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ LVMH ออกแบบเองอย่างเจาะจงให้เหมาะกับความต้องการของฐานลูกค้าชาวจีนที่กำลังขยายตัว นอกจากนี้ LVMH ยังใช้ PAI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแมชชีนเลิร์นนิ่งของ Alibaba Cloud เพื่อพัฒนาบริการต่าง ๆ ที่สามารถปรับแต่งให้ตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวจีน และใช้ได้กับทุกแบรนด์ของกลุ่มบริษัท

การประกาศขยายความร่วมมือระดับโลกในครั้งนี้ เกิดหลังจากการเปิดตัวการค้าปลีกผลิตภัณฑ์หรูของ Tiffany และ Chaumet บน Tmall ปัจจุบัน LVMH ประสบความสำเร็จในการประสบความสำเร็จในการเปิดตัว Maisons ประมาณ 30 แห่งที่เป็นพันธมิตรกับ Tmall Luxury Pavilion เพื่อใช้ความสามารถดิจิทัลด้านต่าง ๆ ของ Alibaba มาใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดึงดูดใจ เช่น การแสดงผลิตภัณฑ์แบบ 3 มิติ การทดลองใช้งานเสมือนจริง และการสตรีมสด บริษัททั้งสองแห่งยังได้ขยายความร่วมมือเกี่ยวกับ omni-retail หลากหลายรายการ รวมถึง การสร้างสถานที่หรูหรามีชื่อเสียงในรูปแบบดิจิทัล การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โปรแกรมสมาชิกต่าง ๆ และให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล กลยุทธ์นี้ช่วยขยายประสบการณ์ความหรูของ LVMH ไปสู่นักช้อปชาวจีนหลายล้านคน