Red Hat เสนอบริการราคาพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนและรองรับ การย้ายข้อมูลสู่เวอร์ชวลไลเซชัน และยกระดับการพัฒนาทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านไอที

Red Hat เสนอบริการราคาพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนและรองรับ การย้ายข้อมูลสู่เวอร์ชวลไลเซชัน และยกระดับการพัฒนาทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านไอที

Red Hat เสนอบริการราคาพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนและรองรับการย้ายข้อมูลสู่เวอร์ชวลไลเซชัน และยกระดับการพัฒนาทักษะผู้เชี่ยวชาญด้านไอที

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในการทำเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization) บริการจาก Red Hat รวมถึงการให้คำปรึกษา การอบรม และหลักสูตรรับรอง จะช่วยเหลือธุรกิจในการย้ายข้อมูลไปสู่ระบบเวอร์ชวล

Red Hat, Inc. บริษัทด้านโซลูชันโอเพ่นซอร์สชั้นนำระดับโลก ประกาศลดราคาบริการ Virtualization Migration Assessment และ Virtualization Training and Certification เพื่อช่วยธุรกิจต่าง ๆ ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเวอร์ชวลไลเซชัน และวางกลยุทธ์การย้ายโครงสร้างพื้นฐานของเวอร์ชวลแมชชีน (VM) บริการเหล่านี้นำเสนอในราคาพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจต่าง ๆ ในการวางแผนย้ายข้อมูลออกจากระบบเวอร์ชวลเดิมของผู้ให้บริการรายอื่น รวมถึงการพัฒนาทักษะให้กับทีมไอทีให้สามารถจัดการระบบเวอร์ชวลนี้ด้วยเทคโนโลยีของ Red Hat

Kevin Sherry รองประธานฝ่าย Global Services ของ Red Hat กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงภาพรวมเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันผลักดันให้ธุรกิจจำนวนมากต้องประเมินกลยุทธ์การจำลองเสมือนของตนอีกครั้ง และมองหาแนวทางใหม่ในการโยกย้าย เรามุ่งมั่นทำงานกับลูกค้าในการให้คำแนะนำและขยายขอบเขตผ่านเทคโนโลยีที่มีอยู่ของ Red Hat เพื่อรองรับการโยกย้ายนี้และริเริ่มการปรับปรุงให้มีความทันสมัย และหวังว่าจะช่วยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจ วางแผน และสร้างแผนงานเชิงกลยุทธ์สำหรับการโยกย้ายโครงสร้างพื้นฐานบนเวอร์ชวลแมชชีนนี้”

Virtualization Migration Assessment (GPS-OVA)

Virtualization Migration Assessment ของ Red Hat เป็นการทำงานเชิงปฏิบัติการ (interactive) ในสถานที่จริงเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ Red Hat เพื่อช่วยประเมินแรงขับเคลื่อนทางธุรกิจ สภาพแวดล้อมปัจจุบัน และเส้นทางการย้ายข้อมูล การประเมินนี้เป็นพื้นฐานสำหรับการออกแบบโซลูชันระดับสูง กำหนดความเสี่ยง วางเส้นทางการผลิต และแผนการย้ายข้อมูลที่สามารถปรับแต่งเอง รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ ด้วย

ธุรกิจที่ซื้อ Virtualization Migration Assessment ของ Red Hat หรือการประเมินจากพันธมิตรที่ผ่านการรับรอง และตัดสินใจ สมัครสมาชิก Red Hat OpenShift Kubernetes Engine, Red Hat Advanced Cluster Management for Kubernetes และ Red Hat Ansible Automation Platform พร้อมบริการสำหรับการย้ายข้อมูล จะมีสิทธิ์ได้รับเครดิตเงินประเมินทั้งหมดคืนในรูปแบบส่วนลดการสมัครสมาชิก

ผนวกรวมการฝึกอบรมระบบสเมือนจริงและการรับรอง

หลักสูตร “Managing Virtual Machines with Red Hat OpenShift Virtualization with Exam (DO317)” จะสอนทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการสร้างและจัดการระบบเสมือนบน Red Hat OpenShift โดยใช้ Red Hat OpenShift Virtualization Operator หลักสูตรนี้จะช่วยเสริมสร้างทักษะด้านระบบเสมือนผ่านการฝึกอบรมกับห้องทดลองบนระบบคลาวด์ และรับรองความสามารถเหล่านั้นผ่านการรับรองจาก Red Hat โดยมีหลักสูตร Red Hat Certified Specialist in OpenShift Virtualization (EX316) รวมอยู่ด้วยในข้อเสนอนี้ด้วย

ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2024 ลูกค้าของ Red Hat สามารถรับส่วนลดพิเศษ สำหรับหลักสูตร “Managing Virtual Machines with Red Hat OpenShift Virtualization with Exam (DO317)” โดยมีเงื่อนไขต้องเลือกหลักสูตรแบบจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-paced) ควบคู่กับการสอบเพื่อรับข้อเสนอนี้ โดยส่วนลดจะนำไปใช้กับราคาตามท้องถิ่นในแต่ละประเทศ (MSRP) ของข้อเสนอที่เข้าร่วมรายการ เมื่อชำระเงิน ตัวแทนจำหน่ายและผู้จัดจำหน่ายหลักสูตรอบรมของ Red Hat จะได้รับส่วนลดตามสัญญาเพิ่มเติมจากส่วนลดข้อเสนอนี้ ข้อเสนอนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับข้อเสนอหรือส่วนลดอื่น ๆ

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมไอทีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเวอร์ชวลไลเซชัน และในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงนี้ ธุรกิจจำเป็นต้องสร้างแผนงานในการย้ายข้อมูล และบุคลากรไอทีต้องมีทักษะในการจัดการเวอร์ชวลไลเซชันผ่านเทคโนโลยี เช่น Red Hat OpenShift Virtualization ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่รวมอยู่ใน Red Hat OpenShift เสนอแนวทางในการย้ายข้อมูล และจัดการเวิร์กโหลดระบบเวอร์ชวลดั้งเดิมที่มีอยู่ด้วยแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันที่ล้ำสมัยและสอดคล้องกัน

ความพร้อมในการเปิดให้เข้าร่วม

หลักสูตร “Managing Virtual Machines with Red Hat OpenShift Virtualization with Exam (DO317)” เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2024 นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอบริการ Virtualization Migration Assessment ในระยะเวลาจำกัด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเข้าร่วมหลักสูตร สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ https://www.redhat.com/en/services/training-and-certification หรือสอบถามเกี่ยวกับ Virtualization Migration Assessment ได้ที่ https://www.redhat.com/en/services/consulting

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

Ericsson Thailand seeks to drive Digital Transformation in Thailand

  • Ericsson’s latest 5G Innovation and Experience Studio in Thailand Digital Valley will lay the foundation for new 5G use cases jointly developed with partners and eco system players
  • The Company is open to collaboration with key stakeholders in the ecosystem to fuel innovation
  • 5G subscriptions in the Southeast Asia and Oceania region, are predicted to reach around 560 million by the end of 2029.

Ericsson (NASDAQ: ERIC) Thailand today unveiled its ambitious vision to drive the digital transformation of Thailand based on the strong 5G infrastructure it is creating in the country. Leveraging its state-of-the-art 5G network solutions together with its extensive experience and expertise in establishing efficient, reliable, and sustainable 5G networks worldwide, Ericsson is well poised to play a pivotal role in accelerating Thailand’s journey towards becoming a digital economy.

A cornerstone of Ericsson’s plans for Thailand is the newly completed 5G Innovation and Experience Studio at Thailand Digital Valley that has been set up in collaboration with the Royal Thai Government through the Digital Economy Promotion Agency (depa). 

The lab is designed to serve as a 5G co-creation space, featuring Ericsson’s state-of-the-art 5G sandbox network. It will be utilized to develop, test, verify, and certify new 5G use cases in collaboration with partners from around the globe.

The innovation lab showcases several cutting-edge 5G use cases, including Automated Mobile Robots (AMR), an Automated Production Machine in collaboration with Mitsubishi, and 360-degree wearable CCTV cameras. These innovations demonstrate the transformative potential of 5G technology in various industries.

Ericsson Thailand is open for further collaboration with key stakeholders in the ecosystem from both public and private sectors, including partners, end-users, academia, and others to develop new 5G use cases for industries. 

Anders Rian, President of Ericsson Thailand states, “5G is a platform for innovation. It enables new services for consumers, enterprises and industry. We remain committed to fostering partnerships and innovations to ensure that Thailand reaps the full benefits of a robust and sustainable 5G network. The 5G Innovation and Experience Studio at Thailand Digital Valley, we hope will encourage new, innovative use cases in Thailand, leveraging the full potential of 5G. By working together with other eco system players, we will drive digital transformation that will benefit the Thai people, the economy, and the country.”

According to the just released Ericsson Mobility Report, 5G subscriptions in the Southeast Asia and Oceania region, are predicted to reach around 560 million by the end of 2029. 5G subscriptions in Southeast Asia stood at 61 million at the end of 2023. The 5G subscriber base in the region continues to grow as subscribers migrate to 5G, driven by more affordable 5G devices, promotional plans and large data bundles from service providers. At the end of 2029, 5G mobile subscriptions are expected to reach 43% of all mobile subscriptions in the region. Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

5G is expected to become the dominant mobile access technology by subscription before the end of the forecast period. Although 5G population coverage is growing, 5G mid-band is only deployed in around 25 percent of all sites globally outside of mainland China. The 5G mid-band spectrum provides a sweet spot between both coverage and capacity, while improving user experience. 

The June 2024 Ericsson Mobility Report shows continued strong uptake of 5G subscriptions. About 300 CSPs globally now offer 5G services, of which about 50 have launched 5G Standalone (5G SA).5G continues to grow in all regions and is expected to account for about 60 percent of all mobile subscriptions by the end of 2029. Ericsson isa global leader in 5G and currently powers 162 5G networks in 69 countries across the globe.

The latest report from business consulting firm Frost & Sullivan reaffirms Ericsson’s leadership in the 5G network infrastructure market, which spans radio access networks (RAN), transport networks, and core networks. Ericsson has been ranked as the leader in the Frost Radar™ 5G Network Infrastructure Market 2024 analysis for the fourth consecutive year, highlighting the impact of the company’s strategy to meet the evolving needs of communications service providers (CSPs).

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย

  • 5G Innovation and Experience Studio ของอีริคสัน ในโครงการ Thailand Digital Valley จะเป็นฐานรากสำคัญสำหรับการพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ จากการร่วมมือกับพันธมิตรและผู้ให้บริการต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
  • บริษัทฯ เปิดกว้างด้านการร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม
  • พร้อมเผยอีก ปี ยอดผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย จะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย

บริษัท อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน 5G อันแข็งแกร่งที่กำลังพัฒนายิ่งขึ้นในประเทศไทย โดยอาศัยโซลูชันเครือข่าย 5G ล้ำสมัย ผสานเข้ากับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่าย 5G ทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้และยั่งยืน ซึ่งทำให้อีริคสันมีความพร้อมเป็นส่วนสำคัญเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคง 

แผนงานหลักประการหนึ่งของอีริคสันเพื่อประเทศไทยคือการจัดตั้ง 5G Innovation and Experience Studio (5GIX Studio) ที่สร้างเสร็จใหม่ในโครงการ Thailand Digital Valley โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

5GIX Studio แห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 5G ร่วมกัน โดยใช้เครือข่ายแซนด์บ็อกซ์ 5G ที่ทันสมัยของอีริคสัน สำหรับห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา ทดสอบ ตรวจสอบ และให้การรับรองยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรจากทั่วโลก

ห้องปฏิบัติการนี้ยังจัดแสดงความหลากหลายของยูสเคส 5G ระดับแถวหน้า รวมถึงหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เครื่องจักรการผลิตอัตโนมัติที่เป็นความร่วมมือกับมิตซูบิชิ และกล้อง CCTV 360 องศา  แบบสวมใส่ได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เผยให้เห็นศักยภาพในการนำเทคโนโลยี 5G มาเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

อีริคสัน ประเทศไทย เปิดกว้างรับความร่วมมือเพิ่มเติมจากผู้มีส่วนร่วมสำคัญต่อระบบนิเวศทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตร ผู้ใช้งาน สถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรม

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรม ช่วยให้ผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถใช้บริการใหม่ ๆ ได้ โดยเรายังมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่าย 5G ที่ทั้งแข็งแกร่งและมีความยั่งยืน ผมหวังว่า 5G Innovation and Experience Studio ในโครงการ Thailand Digital Valley จะส่งเสริมให้เกิดยูสเคสใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทย และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการอื่น ๆ ในระบบนิเวศ จะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนไทย เศรษฐกิจ และประเทศชาติ

จากรายงาน Ericsson Mobility ที่เพิ่งเผยแพร่ออกไป คาดการณ์ ภายในปี 2029 จำนวนผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มสูงถึง 560 ล้านราย โดย ณ สิ้นปี 2023 มียอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ซึ่งผู้สมัครใช้บริการ 5G ในระดับภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาไม่แพง โปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ  ส่วนลด และแพ็กเกจบันเดิลการใช้ดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการ และคาดว่าในปี 2029 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะเพิ่มสูงถึง 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค และในปี 2029 จะมียอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน เมื่อปี 2023

5G จะกลายเป็นเครือข่ายบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก่อนสิ้นสุดช่วงคาดการณ์ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคลื่นความถี่ 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ 

รายงาน Ericsson Mobility เผยมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั้งหมดกว่า 300 รายทั่วโลก ที่เปิดให้บริการ 5G โดยมี 50 ราย ที่เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2029 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 มีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 160 ล้านราย ณ ปัจจุบันอีริคสันคือผู้นำ 5G ระดับโลก โดยเปิดบริการเครือข่าย 5G ไปแล้วถึง 162 เครือข่าย ใน 69 ประเทศทั่วโลก 

รายงานล่าสุดจาก Frost & Sullivan ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ซึ่งครอบคลุมถึง Radio Access Networks (RAN), Transport Networks และ Core Networks โดยอีริคสันได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ ในรายงานการวิเคราะห์ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ของ Frost Radar™ ประจำปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ตอกย้ำให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากกลยุทธ์บริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs)

Ericsson Mobility Report: 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

Ericsson Mobility Report: 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029

  • Mobile data traffic globally is expected to grow by 20 percent annually through the end of 2029
  • 5G subscriptions are predicted to reach around 560 million in the Southeast Asia region by the end of 2029.
  • Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

According to the latest edition of the Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report, 5G subscriptions will be close to 5.6 billion by the end of 2029 – with global 5G population coverage beyond mainland China set to double from 40 percent at the end of 2023 to 80 percent by the end of 2029.

About 300 CSPs globally now offer 5G services, of which about 50 have launched 5G Standalone (5G SA).5G continues to grow in all regions and is expected to account for about 60 percent of all mobile subscriptions by the end of 2029. About 160 million 5G subscriptions were added globally in the first three months of 2024 – bringing the total to more than 1.7 billion. Almost 600 million new subscriptions are expected in 2024 as a whole.

Mobile network data traffic grew 25 percent year-on-year between the end of March 2023 and the end of March 2024, driven primarily by subscriber migration to later generations and data-intense services, such as video.

Mobile data traffic is forecast to grow with a compound annual growth rate of about 20 percent through the end of 2029. About a quarter of all mobile network data was handled by 5G by the end of 2023. This is forecast to grow to about 75 percent by the end of 2029.

5G mid-band population coverage outside of mainland China has reached 35 percent. North America and India have made rapid deployments, topping 85 and 90 percent mid-band coverage respectively.

5G is expected to become the dominant mobile access technology by subscription before the end of the forecast period. Although 5G population coverage is growing, 5G mid-band is only deployed in around 25 percent of all sites globally outside of mainland China. The 5G mid-band spectrum provides a sweet spot between both coverage and capacity, while improving user experience. As 5G matures, the focus for many service providers is expected to shift toward developing differentiated connectivity offerings.

In the Southeast Asia and Oceania region, 5G subscriptions are predicted to reach around 560 million in the region by the end of the forecast period. 5G subscriptions in Southeast Asia stood at 61 million at the end of 2023. The 5G subscriber base in the region continues to grow as subscribers migrate to 5G, driven by more affordable 5G devices, promotional plans, discounts and large data bundles from service providers. 5G subscriber base as a percentage of the total subscriber base has already reached over 20 percent in markets like Singapore, Australia, Thailand and Malaysia.  At the end of 2029, 5G mobile subscriptions are expected to reach 43% of all mobile subscriptions in the region.

Anders Rian, Head of Ericsson Thailand states, “5G is a platform for innovation and we are committed to working together with the government, enterprises and the eco system to drive the digital transformation of Thailand’s economy and make Digital Thailand a reality. We are also leveraging our global expertise and technology leadership to keep our customers in Thailand and elsewhere at the forefront of 5G.”

Data traffic per smartphone user in Southeast Asia is expected to grow from 17GB/month in 2023 to 42 GB/month by 2029.

The details, alongside Ericsson’s latest mobile industry forecasts, regional breakdowns and customer case studies, feature in the June 2024 Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report.

Read the full June 2024 Ericsson Mobility Report via this link.

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

รายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด เผยอีก 5 ปี ผู้ใช้บริการ 5G จะสูงแตะ 5.6 พันล้านราย

  • ปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือทั่วโลกจะเติบโตขึ้น 20% ต่อปี จนถึงปี 2029
    ในอีก 5 ปี ยอดผู้สมัครใช้บริการ 5G ขอ
  • ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มเป็น 560 ล้านราย
  • และในปี 2029 ปริมาณการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 202

รายงาน Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้ใช้งาน 5G ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นแตะ 5.6 พันล้านราย โดยมีจำนวนประชากร 5G ทั่วโลกที่อยู่นอกประเทศจีนเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว จากเดิม 40% ในปี 2023 เพิ่มเป็น 80% ในปี 2029

มีผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งหมดกว่า 300 รายทั่วโลก ที่ให้บริการ 5G โดยมี 50 ราย ที่เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2029 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วนราว 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ช่วงสามเดือนแรกของปี 2024 มีผู้ใช้ 5G เพิ่มขึ้นทั่วโลกถึง 160 ล้านราย ทำให้ในปี 2024 คาดว่าจะมีผู้ใช้ 5G มากกว่า 1.7 พันล้านราย และเป็นผู้ใช้รายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 600 ล้านราย

ปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือเติบโตขึ้น 25% ต่อปีในช่วงมีนาคม 2023 ถึงมีนาคม 2024 เป็นผลมาจากการสมัครใช้บริการมือถือในรุ่นถัดไปและบริการที่เน้นการใช้ดาต้า อาทิ วิดีโอ

คาดว่าปริมาณการใช้ดาต้าบนมือถือจะเติบโตขึ้น 20% ต่อปี ไปจนถึงปี 2029 และคาดว่าโทรศัพท์ที่รันบนเครือข่าย 5G จะเพิ่มเป็น 75% จากเดิมในปี 2023 ที่รันผ่านเครือข่าย 5G อยู่ราว 1 ใน 4 (25%) เท่านั้น

ความครอบคลุมสัญญาณของ 5G Mid-Band นอกประเทศจีนจะเพิ่มเป็น 35% โดยอเมริกาเหนือและอินเดียมีการนำย่านความถี่นี้มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งครอบคลุมสัญญาณอยู่ในระดับ 85% และ 90% ตามลำดับ

5G จะกลายเป็นเครือข่ายบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดก่อนสิ้นสุดช่วงคาดการณ์ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยคลื่นความถี่ 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ เมื่อ 5G ถูกใช้งานแพร่หลาย เต็มที่ คาดว่าผู้ให้บริการเครือข่ายหลายรายจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแพ็กเกจการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย คาดว่าในช่วงสิ้นสุดของการคาดการณ์นี้จะมีจำนวนผู้สมัครใช้บริการ 5G สูงถึง 560 ล้านราย โดยมีผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ณ สิ้นปี 2023 ซึ่งผู้สมัครใช้บริการ 5G ในระดับภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาไม่แพง โปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ ส่วนลด และแพ็กเกจบันเดิลการใช้ดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งจากฐานผู้สมัครใช้บริการทั้งหมดมีสัดส่วนผู้สมัครใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในตลาดต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไทย และมาเลเซีย และคาดว่าในปี 2029 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะเพิ่มสูงถึง 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค

มร. แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G คือแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรม และเรามุ่งมั่นทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐ องค์กรธุรกิจ รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย และทำให้ Digital Thailand เป็นจริง นอกจากนี้ เรายังนำความเชี่ยวชาญระดับโลกและความเป็นผู้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนลูกค้าของเราในประเทศไทยและในพื้นที่อื่น ๆ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้าน 5G”

ยอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นเป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2029 จาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2023   

รายละเอียด รวมถึงการคาดการณ์อุตสาหกรรมมือถือล่าสุดของอีริคสัน ข้อมูลในระดับภูมิภาค และเคสการใช้งานลูกค้า รวบรวมไว้ในรายงาน Ericsson (NASDAQ: ERIC) Mobility Report  ประจำเดือนมิถุนายน 2024

อ่านรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนมิถุนายน 2024 ได้ที่ลิงก์