เหตุผลที่ผู้ผลิตอาหารในเอเชียหันมาใช้ระบบคลาวด์

infor

เหตุผลที่ผู้ผลิตอาหารในเอเชียหันมาใช้ระบบคลาวด์

บทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน บริษัท อินฟอร์ อาเชียน

Infor_อินฟอร์_ฟาบิโอ

ความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต  ผลพวงมาจากความคุ้นเคยที่ได้รับจากความสะดวกสบายแบบเฉพาะเจาะจงส่วนบุคคลผ่านสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยที่มีการเชื่อมต่อตลอดเวลา รวมถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาหารทั่วโลก  การรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญด้านความปลอดภัยอาหารและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

 

ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่าความกังวลด้านความยั่งยืน และความปลอดภัยของอาหารเป็นเรื่องที่อาจทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ความคาดหวังต่าง ๆ ของลูกค้าที่เพิ่มขึั้น เป็นตัวบ่งชี้ให้เราทราบถึงที่มาของรูปแบบธุรกิจที่เกิดใหม่ เช่น การจัดส่งอาหารถึงผู้บริโภคโดยตรง และ “คลาวด์” คิทเช่น (Cloud Kitchen) พื้นที่ครัวกลางสำหรับให้ร้านค้าหลายแห่งเข้ามาใช้งานร่วมกัน  ซึ่งบริการเหล่านี้จะช่วยให้อาหารจานโปรดไปถึงที่พักของคุณได้ในเวลาพอๆ กันกับการที่คุณต้องขับรถไปร้านอาหารด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะพบว่าความนิยมของลูกค้าในทวีปเอเชียเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และการปร้บเปลี่ยนความคาดหวังของลูกค้านั้นเป็นไปได้อย่างไร

ข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า แม้ว่าโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง แต่ก็ทำให้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และวิธีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยบริษัทอาหารหลายแห่งได้พบกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม  และได้มีการปรับตัวเปิดรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยอาศัยโมเดลธุรกิจคลาวด์คิทเช่น ซึ่งได้กระตุ้นให้ปริมาณการจัดส่งอาหารเพิ่มขึ้นถึง 1.5 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จึงเกิดการคาดการณ์ว่าคลาวด์คิทเช่นจะเพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างน้อย 50 แห่งภายในสิ้นปี 2565

ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรืออาหารพร้อมปรุงตามการเลือกสรรของแต่ละบุคคล นวัตกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดส่งอาหารตรงถึงผู้บริโภค ก็ได้เข้ามาเพิ่มความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิตอาหาร คำถามที่มีการถามมากที่สุดคือการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเกิดความท้าทายต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมื่ออาหารเกิดการปนเปื้อน หรือผลิตผลที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ถูกเก็บรวมไว้กับอาหารชนิดอื่น ๆ โดยไม่ตั้งใจระหว่างการจัดส่ง ใครควรจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งผู้ผลิตอาหารไม่อาจมั่นใจได้เลยว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของตน หากปราศจากระบบติดตามที่ครอบคลุมแบบครบวงจร

Infor_อินฟอร์_food industry
Food photo created by azerbaijan_stockers - www.freepik.com

การเติบโตของตลาดในเอเชียทำให้ลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างแพร่หลาย และซัพพลายเชนที่ขาดประสิทธิภาพ เป็นเพียงสองตัวอย่างของการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ปริมาณน้ำเพื่อการบริโภคที่มีจำนวนจำกัด ยังทำให้การถกเถียงด้านความยั่งยืนไม่สามารถนำมาใช้ป้องกันปัญหาการใช้น้ำในกระบวนการผลิตอาหารได้

 

แนวทางที่ดีกว่า

หากผู้ผลิตอาหารรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด ก็จะสามารถจัดการกับความท้าทายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป, การค้นหาและติดตามส่วนผสมในการผลิตอาหารจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับ, หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขององค์กร และจำกัดการใช้น้ำให้เหลือน้อยที่สุด เป็นต้น

กระนั้นก็ตาม การพัฒนาระบบใหม่โดยใช้ไอทีแบบดั้งเดิม ต้องใช้เงินลงทุนล่วงหน้าจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อโครงการที่มีอยู่ และเกิดความซับซ้อนที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนในด้านการดูแลรักษาหากมีสถานที่ทำงานมากกว่าหนึ่งแห่ง  ในทางกลับกัน การใช้ระบบคลาวด์จะสามารถปรับใช้ได้รวดเร็วและมีราคาถูกกว่ามาก อีกทั้งยังมอบระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planning – ERP) ที่เข้าถึงได้ตลอดเวลา มีความยืดหยุ่นในการปรับขยายมาก และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องไปด้วยในขณะเดียวกัน 

ในโลกที่การผิดพลาดต้องน้อยที่สุด และแรงกดดันต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตอาหารไม่สามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือทำการทดลองใด ๆ ได้อีกต่อไป พวกเขาจึงต้องการสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้งานได้จริง และนำไปใช้งานได้ทันทีแทนที่จะเริ่มต้นจากศูนย์  ระบบคลาวด์ ERP จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสามารถในการเข้าถึง, การส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลที่จัดเก็บไว้บนคลาวด์หนึ่งเดียว จะสามารถใช้เป็นแหล่งข้อมูลยืนยันความถูกต้องสำหรับการทำงานขององค์กรทั้งหมด ช่วยลดความผิดพลาดใด ๆ ระหว่างแผนกก่อนที่จะเกิดขึ้นได้  อีกทั้งการมีคู่ค้าและซัพพลายเออร์อยู่บนหน้าจอเดียวกัน ยังช่วยให้การขยายซัพพลายเชนและนวัตกรรมเป็นไปได้ง่ายดายขึ้นอีกด้วย

 

ทำไมระบบ ERP จึงเหมาะที่จะใช้บนคลาวด์

เมื่อใช้ระบบ ERP บนคลาวด์ ความเป็นไปได้ในทุกด้านจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล กระบวนการที่ต่างกันและไซโลต่าง ๆ ที่เคยมีก่อนหน้านี้ จะสามารถรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นส่วนที่สอดคล้องกันทั้งหมด ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังสามารถนำไปใช้งานในระบบคลาวด์ได้ง่ายขึ้น เช่น ผู้ผลิตอาหารในทวีปเอเชียที่หันมาใช้อินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ส (Internet of Things – IoTs) ด้วยการติดเซ็นเซอร์ไว้กับฝูงวัว ทำให้ข้อมูลจากฝูง ปศุสัตว์ที่อยู่ในระบบคลาวด์ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงข้อมูลอันล้ำค่าที่จำเป็นต่อการเลี้ยงสัตว์ให้มีสุขภาพดี พร้อมอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วขึ้น

Infor_อินฟอร์_food industry 2
Food photo created by aleksandarlittlewolf-www.freepik.com

อินฟอร์®ได้ลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาในโซลูชั่นตระกูล CloudSuitTM ของบริษัทฯ ด้วยเครื่องมือที่เร่งการปรับเปลี่ยนสู่การเป็นดิจิทัลซัพพลายเชนของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในทวีปเอเชียและทั่วโลก Infor CloudSuite Food & Beverage จะช่วยกระตุ้นการคิดค้นนวัตกรรมและการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น

PR Administrator

PR Administrator (งานธุรการด้านประชาสัมพันธ์)

หน้าที่ที่รับผิดชอบ

    • จัดเก็บข้อมูลทั้งที่เป็นเอกสาร และ ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ ให้เป็นระเบียบ เรียกใช้งานได้ถูกต้องรวดเร็ว
    • จัดเตรียมเอกสารและสิ่งของที่ต้องใช้ในการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทุกประเภท เช่น งานแถลงข่าว การส่งข่าวประชาสัมพันธ์ ฯลฯ
    • อำนวยความสะดวกในกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทุกประเภท เช่น ร่วมงานแถลงข่าวเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สื่อมวลชนและลูกค้า ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ฯลฯ
      รวบรวมข้อมูล จัดทำรายงาน ในรูปแบบต่าง ๆ
    • ประสานงานกับสื่อมวลชนผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง
    • ประสานงานกับลูกค้าตามที่ได้รับมอบหมาย
    • สนับสนุนการทำงานต่าง ๆ ของทีม ตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น การค้นหาข้อมูล ฯลฯ

คุณสมบัติ

    • วุฒิปวส. หรือปริญญาตรี ไม่จำกัดเพศ
    • มีไหวพริบ พร้อมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
    • รักงานบริการ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
    • มีความสามารถในการจัดระเบียบงานและเอกสาร ละเอียด รอบคอบ
    • สามารถทำงานภายใต้ความกดดันต่าง ๆ ได้ดี
    • พิมพ์งานคล่อง ใช้เครื่องมือสำนักงานได้ดี สามารถใช้อินเทอร์เน็ต และทำงานออนไลน์ได้ว่องไว
    • มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม มีความตรงต่อเวลาสูง
      ระดับความรู้และเข้าใจภาษาอังกฤษ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
    • ใช้โปรแกรม Word, Excel, Power Point ได้ดี หากใช้โปรแกรมด้านงานออกแบบ กราฟฟิก หรือตกแต่งภาพ เช่น Illustrator, Photoshop, InDesign ได้จะรับการพิจารณาเป็นพิเศษ

Fly-Food แพลตฟอร์มบริการส่งอาหารให้คนจีนในประเทศไทย ปรับกลยุทธ์ยกระดับความคุ้มค่า ตอบโจทย์ลูกค้าช่วงการแพร่ระบาด

อาลีเพย์_fly-food

Fly-Food แพลตฟอร์มบริการส่งอาหารให้คนจีนในประเทศไทย ปรับกลยุทธ์ยกระดับความคุ้มค่า ตอบโจทย์ลูกค้าช่วงการแพร่ระบาด

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด บริการดิจิทัลช่วยสร้างมูลค่าและประโยชน์ต่างๆ มากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภาคส่วนต่างๆ จึงรีบเร่งดำเนินการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 78 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคที่มีอายุ 21 ถึง 40 ปี เปิดเผยกับ Deloitte ว่าตนเองใช้บริการดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาด ส่วนในประเทศไทย ผู้บริโภค 58 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าตนเองสั่งซื้ออาหารผ่านบริการส่งอาหารเพิ่มมากขึ้น

ภายใต้เทรนด์ดังกล่าว Fly-Food(飞象外卖 เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด ด้วยการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและเทคโนโลยีในรูปแบบที่สร้างสรรค์ โดยเรื่องราวความสำเร็จนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

จุดประกายไอเดียธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 ข้อมูลเชิงลึกที่เรียบง่ายเกี่ยวกับผู้บริโภคได้จุดประกายไอเดียธุรกิจ Fly-Food แพลตฟอร์มส่งอาหารเพียงหนึ่งเดียวที่รวบรวมร้านอาหารจีนที่หลากหลายในประเทศไทย

ต้า เผิง ผู้ก่อตั้ง Fly-Food กล่าวว่า ผมสังเกตว่านักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มที่จะเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาว  ในช่วงวันแรกๆ นักท่องเที่ยวมักจะเลือกลิ้มลองอาหารท้องถิ่นเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แต่หลังจากนั้น ส่วนใหญ่ก็เริ่มมองหาอาหารจีนแท้ๆ ที่คุ้นเคยเพื่อความสบายใจ”

เนื่องจากมีชาวจีนจำนวนมากเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวจากจีนอีกกว่า 10 ล้านคนต่อปีในปี 2562 Fly-Food จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมีการขยายธุรกิจไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และระยอง และให้บริการแก่ชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในไทย และนักท่องเที่ยวจากจีนโดยเฉพาะ

 

ปรับแต่งกลยุทธ์ดิจิทัลและปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ต้า เผิง บอกเล่าเกี่ยวกับมาตรการเบื้องต้นในการรับมือกับการแพร่ระบาด โดยกล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อลูกค้าของเรา โดยบางคนก็ตกงาน ขณะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ส่งผลให้อำนาจในการใช้จ่ายลดลง เราจึงออกโปรโมชั่นพิเศษเพื่อช่วยเหลือลูกค้าของเราในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเราได้ปรับใช้แนวทางด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องคนส่งอาหารและลูกค้าของเรา”

ขณะเดียวกัน Fly-Food ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้บริการแก่ชาวจีนในไทย ด้วยการเปิดตัวมินิโปรแกรมบนอาลีเพย์ (Alipay) โดยคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง ซึ่งส่งผลให้ชาวจีนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยสะดวก และ “อาหารท้องถิ่นของจีน” น่าจะเป็นหนทางหนึ่งในการเยียวยาจิตใจให้ชาวจีนได้หายคิดถึงบ้านเกิดได้เป็นอย่างดี

การดำเนินการที่รวดเร็วภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอบริการผ่านช่องทางที่ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวก ก่อให้เกิดผลดีอย่างเป็นรูปธรรม

นับตั้งแต่ที่เปิดตัวมินิโปรแกรม Fly-Food บนอาลีเพย์ Fly-Food มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยอดสั่งซื้อจากลูกค้าประจำ ตอนนี้ Fly-Food มียอดสั่งซื้อเฉลี่ยสูงถึง 700 รายการต่อวัน และมีร้านอาหารเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น โดย 40 เปอร์เซ็นต์ของร้านอาหารทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 1,500 ร้านเข้าร่วมกับ Fly-Food หลังจากการแพร่ระบาด และหลายร้านที่มากกว่าครึ่งของยอดขายมาจากออเดอร์ที่สั่งผ่าน Fly-Food

Fly-Food เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแคมเปญที่อาลีเพย์จัดทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยภายใต้แคมเปญดังกล่าว มีการแจกคูปองดิจิทัลเพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในไทยอย่างปลอดภัยตามมาตรการการป้องกันของรัฐ ซึ่งนับเป็นการสร้างรายได้และต่อลมหายใจให้กับธุรกิจเล็กๆในท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ Fly-Food มียอดสั่งอาหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15 เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่จัดแคมเปญดังกล่าว

ต้า เผิง กล่าวเสริมว่า ในโลกวิถีใหม่ ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้นกับเรื่องของราคา ซึ่งนั่นหมายความว่า “ความคุ้มค่า” ยังคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ คูปองดิจิทัลที่ให้ลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มอาลีเพย์มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า และเรายังพบว่าผู้ใช้อาลีเพย์มีความคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือการตลาดเพื่อให้ได้รับความคุ้มค่าสูงสุดจากการใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราการเข้าร่วมของลูกค้าอยู่ในระดับที่ดี และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ  ขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน อาลีเพย์ก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจให้กับลูกค้าในการใช้คูปองดิจิทัลสำหรับบริการของ Fly-Food”

อาลีเพย์_fly-food
อาลีเพย์_fly-food
อาลีเพย์_fly-food

“TrueMoney” จับมือ “เอ็มเค สุกี้” และ “ยาโยอิ” รับเทรนด์ Cashless เพิ่มจุดรับชำระผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet รวมกว่า 650 สาขาทั่วไทย

“TrueMoney” จับมือ “เอ็มเค สุกี้” และ “ยาโยอิ” รับเทรนด์ Cashless เพิ่มจุดรับชำระผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet รวมกว่า 650 สาขาทั่วไทย

พร้อมมอบแคมเปญ “ใช้ง่าย จ่ายคุ้ม” เพียงชำระเงินผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เมื่อทาน “MK” ครบ 500 บาท รับเงินคืน 50 บาท หรือ ทานเมนูจากร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ครบ 300 บาท รับเงินคืน 30 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม ศกนี้

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือกับ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำเครือข่ายธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ร่วมผลักดันสังคมไร้เงินสดที่กำลังเติบโตต่อเนื่องด้วยการเปิดจุดรับชำระผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ที่ “MK” และร้านอาหารญี่ปุ่น “ยาโยอิ” ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบความคุ้มค่าในการใช้จ่ายแบบปลอดภัยไร้สัมผัสให้กับผู้ใช้ทรูมันนี่กว่า 17 ล้าน

พิเศษ! กับแคมเปญ “ใช้ง่าย จ่ายคุ้ม” เพียงลูกค้าชำระเงินผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เมื่อทาน    อาหารที่ “MK” มูลค่าครบ 500 บาท รับเงินคืน 50 บาท หรือเลือกทานอาหารญี่ปุ่นที่ “ยาโยอิ” มูลค่าครบ 300 บาท รับเงินคืน 30 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2564 (หรือจนกว่าจำนวนสิทธิ์จะหมด) เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคจากเงินสด

สำหรับผู้สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญ “ใช้ง่าย จ่ายคุ้ม” ได้ที่ https://www.truemoney.com/a/mk-retail/ และ https://www.truemoney.com/a/yayoi-retail/ ติดต่อ Call Center โทร 1240

เร้ดแฮทประกาศแต่งตั้งผู้นำระดับภูมิภาค

Red Hat

เร้ดแฮทประกาศแต่งตั้งผู้นำระดับภูมิภาค

    • เร้ดแฮทแต่งตั้งคุณเดิร์ก-ปีเตอร์ แวน ลีอูเวน เป็นรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ประจำอเมริกาเหนือ และแต่งตั้งคุณมาร์เจ็ท แอนเดรส เป็นรองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
    • ผู้นำทั้งสองท่านจะช่วยเร่งให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ต่าง ๆ

 

เร้ดแฮท อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านโอเพ่นซอร์สโซลูชั่น ประกาศแต่งตั้งคุณเดิร์ก-ปีเตอร์ แวน ลีอูเวน เป็นรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ ประจำอเมริกาเหนือ และแต่งตั้งคุณมาร์เจ็ท แอนเดรส ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแทนคุณแวน ลีอูเวน ทั้งนี้คุณมาร์เจ็ทได้เข้าร่วมงานกับเร้ดแฮทเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การแต่งตั้งครั้งนี้มีผลทันที โดยทั้งคุณแวน ลีอูเวน และคุณแอนเดรส จะรายงานตรงต่อคุณลาร์รี่ สแต็ก รองประธานบริหารด้านการขายและบริการระดับโลกของเร้ดแฮท

เดิร์ก-ปีเตอร์ แวน ลีอูเวน, รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ ประจำอเมริกาเหนือ, เร้ดแฮท
เร้ดแฮท
มาร์เจ็ท แอนเดรส, รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, เร้ดแฮท

คุณแวน ลีอูเวน เข้าร่วมงานกับเร้ดแฮทในปี 2547 เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จและขยายธุรกิจไปสู่ระดับสากล และมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งเร้ดแฮทในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ (เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก) รวมทั้งในยุโรปกลางและตะวันออก ในปี 2552 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำฝ่ายขาย การตลาด และการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ฐานลูกค้าของเร้ดแฮทในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายใต้การนำของคุณแวน ลีอูเวน ช่วยให้เร้ดแฮทได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโอเพ่นไฮบริดคลาวด์ ทั้งในตลาดที่มีการซื้อขายกันเป็นประจำซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในตลาดนี้จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของตนให้ทันสมัยขึ้น และตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ ที่ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนให้มีความคล่องตัว คุณแวน ลีอูเวน ในบทบาทใหม่ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเชิงพาณิชย์ในอเมริกาเหนือของเร้ดแฮท จะนำประสบการณ์ที่เขามีต่อยอดผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น รวมถึงกิจกรรมด้านการขาย การให้คำปรึกษา และช่องทางการขายต่าง ๆ  และจะย้ายจากสิงคโปร์ไปอเมริกาเหนือในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

คุณแอนเดรส เข้าร่วมงานกับเร้ดแฮทในปี 2563 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในฐานะผู้นำด้านการขายที่มีความใส่ใจและมากประสบการณ์ คุณแอนเดรสให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า และการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลลัพธ์ในการทำงาน ด้วยประสบการณ์อันกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากกว่า 25 ปี เธอมีประวัติการทำงานที่โดดเด่น และประสบความสำเร็จในการนำทีมที่มีบทบาทในทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคในองค์กรต่าง ๆ ทั่วทั้งยุโรปและเอเชีย รวมถึงการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดในภูมิภาคใหม่และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ หลังจากการเข้าซื้อกิจการ ก่อนร่วมงานกับเร้ดแฮทคุณแอนเดรสเป็นกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเทลสตรา (Telstra) โดยก่อนหน้านี้เธอดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำระดับสูงที่แรนสตัด (Ranstad) บทบาทของเธอในตำแหน่งใหม่นี้ เธอจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันและต่อยอดการเติบโตของเร้ดแฮทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในระยะต่อ ๆ ไป และริเริ่มแนวทางต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จด้วยการใช้เทคโนโลยีโอเพ่นไฮบริดคลาวด์

คำกล่าวสนับสนุน

ความเป็นผู้นำและแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของคุณแวน ลีอูเวน ได้กระตุ้นการเติบโตของเราในเอเชียแปซิฟิก และช่วยเปลี่ยนเร้ดแฮทให้เป็นองค์กรระดับโลกที่แท้จริง เขาจะนำความชื่นชอบแบบเดียวกับความหลงใหลด้านโอเพ่นซอร์สและการทำงานแบบเปิดนี้มาใช้กับงานในบทบาทใหม่ของเขาในอเมริกาเหนือ และจะยังคงช่วยลูกค้าของเราแก้ไขความท้าทายด้านไอทีต่าง ๆ สำหรับคุณมาร์เจ็ทซึ่งมีความสามารถอันเป็นที่ยอมรับอย่างเท่าเทียมกันทั้งสองด้านคือด้านการเป็นผู้นำด้านการขาย และ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ทำให้เธอเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับการได้รับเลือกให้มาดำรงตำแหน่งแทนคุณแวน ลีอูเวน การประกาศแต่งตั้งครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของเร้ดแฮท และเรามีผู้นำที่เหมาะสมที่จะทำงานเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จ
ลาร์รี่ สแต็ก
รองประธานบริหารฝ่ายขายและบริการระดับโลก, เร้ดแฮท
“ผมภูมิใจที่ได้เห็นว่าเร้ดแฮทในเอเชียแปซิฟิกเติบโตเพียงใดในระหว่างที่ผมดำรงตำแหน่งอยู่ และผมยังคงมองเห็นโอกาสเติบโตเช่นนี้อยู่ต่อหน้าเรา การทำงานร่วมกัน ทำให้เราได้พบเป้าหมายร่วมกัน และเรากำลังช่วยให้ลูกค้าของเร้ดแฮทใช้และจัดการกับลักษณะโดยรวมของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่ใหม่นี้ และได้ร่วมทำงานกับทีมอเมริกาเหนือในขณะที่ลูกค้าของเราให้การตอบรับและนำเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สไปใช้ขับเคลื่อนนวัตกรรม”
เดิร์ก-ปีเตอร์ แวน ลีอูเวน
รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ประจำอเมริกาเหนือ, เร้ดแฮท
“ตั้งแต่เข้าร่วมงานกับเร้ดแฮท ดิฉันประทับใจที่ชาวเร้ดแฮทแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในทุก ๆ วัน และความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า เราได้แสดงพลังของโอเพ่นซอร์สในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์ และลูกค้าก็ไว้วางใจให้เราแนะแนวทางในการใช้กลยุทธ์โอเพ่นไฮบริดคลาวด์ ดิฉันยินดีที่ได้รับตำแหน่งนี้และพร้อมที่จะนำทีมเดินหน้าเพื่อมุ่งนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง”
มาร์เจ็ท แอนเดรส
รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, เร้ดแฮท

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเร้ดแฮท