Communication Specialist
Communication Specialist
Collaborate and assist cross-functional teams as a member to communicate with journalists, influencers and KOLs.
Proactively assisting the development of communications, materials, reports, in addition to regular communication routines.
Engage in physical & virtual meetings with internal and external teams.
- Counter misinformation that may impact clients and our ability reputation to serve our clients.
Qualifications
Active, and willing to learn
Fundamental knowledge of communication and media landscape
Ability to demonstrate ownership and team coordinating skills
Bachelor degree in any fields, with good command of Thai and English languages
นูทานิคซ์เพิ่มความสามารถในการป้องกัน Ransomware เพื่อมอบความปลอดภัยให้กับระบบไอทีของลูกค้า
นูทานิคซ์เพิ่มความสามารถในการป้องกัน Ransomware เพื่อมอบความปลอดภัยให้กับระบบไอทีของลูกค้า
บริษัทผู้นำด้านไฮบริดและมัลติคลาวด์ตอกย้ำความแข็งแกร่งการให้บริการระบบเครือข่าย สตอเรจ และเวอร์ชวลไลเซชั่น
Nutanix (นูทานิคซ์) (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไพรเวท ไฮบริด และมัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศเพิ่มการป้องกัน ransomware บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของบริษัทฯ รวมถึงการตรวจสอบและการตรวจจับภัยคุกคามแบบใหม่ ตลอดจนการทำสำเนาข้อมูล (data replication) แบบเรียลไทม์ ที่ลงลึกถึงรายละเอียด และการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีติดตั้งไว้ในนูทานิคซ์สแต็คเรียบร้อยแล้ว ความสามารถใหม่เหล่านี้สร้างขึ้นบนบริการด้านข้อมูลต่าง ๆ ที่พรั่งพร้อมของนูทานิคซ์ในการรักษาความปลอดภัยระบบเน็ตเวิร์ก, ระบบสตอเรจแบบไฟล์และแบบอ็อปเจกต์, เวอร์ชวลไลเซชั่น และด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ ช่วยองค์กรปกป้อง, ตรวจจับ และกู้คืนข้อมูลจากการโจมตีของ ransomware ในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลาย การทำงานระยะไกลที่เพิ่มขึ้นทำให้การโจมตีกลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้มากขึ้นทุกวัน ความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้การนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยและความต่อเนื่องทางธุรกิจไปใช้ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ได้ง่ายกว่าการพึ่งพาระบบเมทริกซ์ที่ซับซ้อนของผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลัง
รายงานล่าสุดของการ์ทเนอร์ เปิดเผยว่า “เฉพาะในปี 2563 ภัยคุกคามได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับการทำงานระยะไกลที่เพิ่มขึ้น และภัยคุกคามฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกเช่นโควิด-19 ทั้งนี้ ransomware ได้พัฒนาไปไกลเกินกว่าจะเป็นแค่การโจมตีแบบเน้นปริมาณ (commodity) มาเป็นการโจมตีแบบครอบคลุม ที่ประสงค์ให้เกิดการติดไวรัสที่อุปกรณ์ปลายทางเดี่ยว ๆ เน้นการใช้เทคนิคขั้นสูงเช่นภัยคุกคามแบบไร้ไฟล์ (fileless malware) และการขโมยข้อมูลออกจากระบบ (data exfiltration) ransomware สายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ทำให้การป้องกันและการวางแผนยิ่งทวีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมาเพื่อป้องกันการโจมตีของ ransomware” องค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่มีผู้ใช้งานระยะไกลจำนวนมาก หรือมีสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด ไม่อาจพึ่งพาปฏิบัติการหรือใช้เครื่องมือเพียงแบบเดียวในการปกป้องตนเองได้อีกต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตนจะช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างดีที่สุด
ตรวจจับและกู้คืนจากระบบเครือข่ายและภัยคุกคามข้อมูล
ปัจจุบันแพลตฟอร์มคลาวด์ของนูทานิคซ์นำเสนอการตรวจจับความผิดปกติโดยอาศัยการเรียนรู้ของอุปกรณ์ และบริการ IP reputation ด้วยปฏิบัติการระบบเครือข่ายรักษาความปลอดภัย และโซลูชั่นการตรวจสอบของบริษัทฯ Flow Security Central ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของ Nutanix Flow ทั้งนี้ Flow Security Central จะช่วยระบุถึงวิธีการที่แฮ็กเกอร์ใช้ในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่รู้จัก รวมถึง ransomware ที่อาจเกิดขึ้นในชั้นเน็ตเวิร์กก่อนที่จะเข้าถึงชั้นแอปพลิเคชั่นและชั้นข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ฟีเจอร์ Flow Security Central สามารถตรวจสอบเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อหาความผิดปกติ, พฤติกรรมอันตราย รวมถึงการโจมตีเน็ตเวิร์กที่เกิดขึ้นทุกวัน ทำการค้นหาเป้าหมายต่าง ๆ ที่มีช่องโหว่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ฟีเจอร์ Flow Security Central ยังตรวจสอบอุปกรณ์ปลายทางเพื่อระบุการรับส่งข้อมูลที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการป้องกันการใช้โครงสร้างพื้นฐานเวอร์ชวลเดสก์ท็อป ที่เป็นเป้าหมายหลักในการเริ่มติดไวรัสและการแพร่กระจายของ ransomware
เมื่อมองลึกลงไปถึงชั้นแอปพลิเคชั่น จะเห็นได้ว่าขณะนี้แพลตฟอร์มคลาวด์ของนูทานิคซ์ได้เพิ่มการตรวจจับransomware ไว้สำหรับบริการด้านการจัดเก็บไฟล์ไว้ในโซลูชั่น Nutanix Files อีกด้วย ฟีเจอร์ File analytics ที่อยู่ใน Nutanix Files สามารถตรวจพบรูปแบบการเข้าถึงที่ผิดปกติและน่าสงสัย พร้อมทั้งระบุรูปแบบของ ransomware ที่รู้จัก เพื่อบล็อกการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ขณะนี้ฟีเจอร์ Nutanix Files analytics สามารถระบุการแชร์ไฟล์ที่ไม่ได้กำหนดค่าการทำสำเนา และการทำ snapshots อย่างเหมาะสม และจะทำการแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบไอทีถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อช่วยให้แน่ใจว่ามีการทำ snapshots พร้อมให้ใช้งานได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ Nutanix Files ทำให้การ snapshots ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและการลบข้อมูล ซึ่งเป็นวิธีประจำที่แฮ็กเกอร์ใช้ในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ในการส่ง ransomware เข้าโจมตีเป้าหมาย (ransomware payloads) เพื่อสกัดกั้นความพยายามในการกู้คืนข้อมูล ด้วยความสามารถต่าง ๆ เหล่านี้ที่บูรณาการรวมอยู่ใน Nutanix Files ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีไม่เพียงแต่จะตรวจจับได้เท่านั้น แต่ยังสามารถกู้คืนข้อมูลจากการโจมตีของ ransomware ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เครื่องมือที่ติดตั้งมาพร้อมสรรพ
ปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชั่น
ปัจจุบันแพลตฟอร์มคลาวด์ของนูทานิคซ์ได้รวมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไว้ในโซลูชั่น Nutanix Objects เพื่อเสริมการปกป้องข้อมูลแอปพลิเคชั่นจากการโจมตีของ ransomware ต่าง ๆ Nutanix Objects กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นในระบบจัดเก็บข้อมูลหลัก (primary storage) และระบบจัดเก็บข้อมูลสำรอง (secondary storage) ที่พิเศษยิ่งขึ้นคือขณะนี้ Nutanix Objects มีความสามารถในการกำหนดค่าการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่อนุญาตให้เขียนซ้ำ (Write Once Read Many – WORM) สำหรับไฟล์และข้อมูลที่ทีมไอทีเลือกไว้ เพื่อช่วยป้องกันการลบหรือการเข้ารหัสข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และขัดขวางการโจมตีจาก ransomware จำนวนมากที่เกิดขึ้นเป็นประจำ การป้องกันแบบ WORM เหล่านี้สามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่จัดประเภทข้อมูลภายใต้ “การระงับทางกฎหมาย (legal hold)” เพื่อป้องกันการบุกรุกหรือมุ่งร้ายทำลายให้เสียหาย นอกจากนี้ฟีเจอร์ของ Objects ในการควบคุมความปลอดภัยยังได้รับการตรวจสอบและรับรองจาก Cohasset Associates ว่าเป็นไปตามข้อกำหนดการจัดเก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่สามารถเขียนซ้ำได้ และไม่สามารถลบทิ้งได้ตามที่ระบุไว้ภายใต้กฎข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC), องค์กรการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) และ คณะกรรมาธิการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์แห่งสหรัฐอเมริกา (CFTC)
นอกจากนี้ Nutanix Objects ยังให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในระดับที่ลงลึกถึงรายละเอียด เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถรักษาความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมที่มีผู้ใช้หลายคนได้ดีขึ้น และท้ายที่สุดขณะนี้แพลตฟอร์มนูทานิคซ์ให้การสนับสนุน Microsoft Windows Credential Guard สำหรับใช้งานเวอร์ชวลแมชชีนและเวอร์ชวลเดสก์ท็อปบนอะโครโพลิสไฮเปอร์ไวเซอร์ โดย Credential Guard เพิ่มการป้องกันระบบปฏิบัติการ (OS) จาก malware ที่ใช้วิธีการโจมตีโดยการขโมยข้อมูลสำคัญในระบบ Microsoft OS ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปที่ผู้โจมตีใช้ในการได้มาซึ่งสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ
เพื่อให้มั่นใจในความต่อเนื่องของธุรกิจ
ในขณะที่การตรวจจับและการป้องกันเป็นสองสิ่งสำคัญของกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน malware และ ransomware แต่ทุกบริษัทควรมีแผนรองรับเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะสามารถดำเนินต่อไปได้เมื่อมีการโจมตีเกิดขึ้น ขณะนี้ Nutanix Mine ซึ่งเป็นโซลูชั่นสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลสำรองของบริษัทฯ สามารถทำการสำรองข้อมูลโดยตรงไปยัง Nutanix Objects เมื่อมีการใช้ Nutanix Mine ร่วมกับโซลูชั่นจากพันธมิตรเช่น HYCU Inc. หมายความว่าการป้องกัน ransomware ทั้งหมดที่มีอยู่ใน Objects เช่น ความเสถียรและ WORM จะถูกนำมาปรับใช้ในโซลูชั่นสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลสำรองนี้ด้วย นอกจากนี้นูทานิคซ์ยังนำคุณสมบัติใหม่ ๆ สำหรับทำงานร่วมกัน ซึ่งรวมถึง Veeam® Object Immutability ตลอดจนถึงการรับรองจากผู้จำหน่ายโซลูชั่นสำรองข้อมูลชั้นนำต่าง ๆ เพื่อขยายการป้องกัน ransomware ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลสำรองอีกด้วย
นายราจีฟ มิรานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของนูทานิคซ์กล่าวว่า “ผู้บริหารฝ่ายสารสนเทศ (CIOs) และผู้บริหารด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศ (CISOs) ต่างรู้ดีว่าไม่มีโซลูชั่นใดเพียงหนึ่งเดียวที่จะสามารถป้องกัน ransomware หรือการโจมตีของ malware ประเภทอื่น ๆ ได้ 100% และรูปแบบของการทำงานระยะไกลและแบบไฮบริดผสมผสานในขณะนี้ก็เพิ่มพื้นที่การถูกโจมตีขององค์กรให้มากขึ้น องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องมีแนวทางการป้องกันในเชิงลึกเพื่อความปลอดภัย โดยเริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตน อย่างไรก็ตามเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมนั้นจะต้องใช้งานได้ง่ายและช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น นูทานิคซ์นำเสนอแพลตฟอร์มคลาวด์ที่แข็งแกร่ง พร้อมชุดป้องกัน ransomware ที่เพียบพร้อมยิ่งขึ้นสำหรับให้บริการแล้วในขณะนี้”
ฟีเจอร์ใหม่ท้้งหมดพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าแล้วในขณะนี้ กรุณารับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่นูทานิคซ์สามารถช่วยป้องกัน ransomware ได้ที่นี่
แดสสอล์ท ซิสเต็มส์เปิดตัวแพลตฟอร์มการออกแบบใหม่ “3DEXPERIENCE SOLIDWORKS” เพิ่มศักยภาพทำงานร่วมกันให้กับนักประดิษฐ์และเพิ่มโอกาสจ้างงานให้นักเรียน-นักศึกษา
แดสสอล์ท ซิสเต็มส์เปิดตัวแพลตฟอร์มการออกแบบใหม่ “3DEXPERIENCE SOLIDWORKS” เพิ่มศักยภาพทำงานร่วมกันให้กับนักประดิษฐ์และเพิ่มโอกาสจ้างงานให้นักเรียน-นักศึกษา
- แพลตฟอร์มใหม่บนคลาวด์เปิดตัวที่งาน 3DEXPERIENCE World 2021 สร้างการเรียนรู้และแนวทางนำเสนองานสร้างสรรค์ผ่านการออกแบบดิจิทัล 3 มิติ งานวิศวกรรมและแอปพลิเคชันการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Makers มอบวิธีการการออกแบบ การแบ่งปัน การเชื่อมโยงและทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ร่วมกับชุมชนระดับโลก Madein3D ให้ชุมชนนักออกแบบดิจิทัลรุ่นใหม่
- 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Student นำเสนอแนวทางในการพัฒนาทักษะการออกแบบ พร้อมรับรองความสามารถที่อุตสาหกรรมให้การยอมรับ ยกรับความสามารถของนักเรียน-นักศึกษาให้เริ่มอาชีพได้เร็วกว่าเดิม
แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ (Euronext Paris: #13065, DSY.PA) ประกาศเปิดตัว 2 แพลตฟอร์มการออกแบบใหม่ในอนาคต ได้แก่ “3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Makers” และ “3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Student” ภายในงาน 3DEXPERIENCE World 2021 ในรูปแบบเสมือนจริง นำเสนอวิธีการใหม่ ๆ สำหรับการออกแบบ การทำงานร่วมกัน การแบ่งปันและพัฒนาทักษะสู่ความเป็นเลิศ ช่วยให้นักประดิษฐ์และนักเรียน-นักศึกษาสามารถเข้าถึงเครื่องมือและสภาพแวดล้อมดิจิทัลบนคลาวด์ที่มีศักยภาพที่สุดในโลกเพื่อใช้สำหรับงานด้านการออกแบบ วิศวกรรมและนวัตกรรมการทำงานร่วมกัน
แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Makers ได้ร่วมศูนย์นักประดิษฐ์ และแนวความคิดต่าง ๆ เพื่อสร้างการทำงานร่วมกัน โดยนักออกแบบดิจิทัลมือใหม่ยังสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้โดยใช้แอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS Professional, 3D Creator และ 3D Sculptor พร้อมแชร์โปรเจกต์ส่วนตัวไปยังชุมชนผู้ผลิตระดับโลกอย่าง Madein3D ที่ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ ดูแลอยู่ โดยชุมชนแห่งนี้มีผู้ผลิตระดับแนวหน้าในวงการออกแบบ รวมถึงนวัตกรที่คอยให้ความช่วยเหลือและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบสมัครเล่นต่าง ๆ
สำหรับแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Students จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียน-นักศึกษาและเพิ่มโอกาสการทำงานที่มีการแข่งขันสูงในตลาด ซึ่งจะพัฒนาทักษะด้านวิศวกรรม การทำงานร่วมกัน การจัดการโปรเจกต์ รวมถึงการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และต่อยอด ที่ล้วนเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงในอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถใช้งานได้จากทุกที่และมีฟีเจอร์การใช้งานครบครัน อาทิ 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS Student, 3D Designer Student และ Collaborative Business รวมถึงแอปพลิเคชันที่จำเป็นของบรรดานวัตกรในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงชุมชนออนไลน์ระดับโลกที่มีเพื่อนนักออกแบบและเหล่าผู้เชี่ยวชาญแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE พร้อมได้รับรองความสามารถในระดับที่อุตสาหกรรมให้การยอมรับ 2 รายการ
เพื่อเป็นการสนับสนุนการเปิดตัวของ 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Student แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ได้จัดงาน “World Wide Virtual Career Fair” ขึ้นเป็นครั้งแรกระหว่างงาน 3DEXPERIENCE World 2021 โดยเชิญนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในอเมริกาเหนือ ยุโรปและญี่ปุ่น มาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายแบบตัวต่อตัวกับทีมงานที่มีความสามารถระดับโลกของ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ พร้อมด้วยลูกค้าของ SOLIDWORKS
มร. จิอัน เปาโล บาสซี่ ประธานบริหาร, โซลิดเวิร์ค, แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “เราเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไปสู่แพลตฟอร์ม จากการความเชื่อมโยงและพัฒนาไปสู่สัมพันธภาพ…3DEXPERIENCE SOLIDWORKS จะพลิกโฉมวิธีการเรียนรู้ การทำงานร่วมกันและแนวทางการพัฒนานวัตกรรมของทั้งนักประดิษฐ์และนักเรียน-นักศึกษา พวกเขาสามารถใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาทักษะที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการและสร้างความก้าวหน้าในด้านอาชีพได้ตั้งแต่ในช่วงเรียน ขณะที่ผู้ผลิตสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนผ่านการแชร์ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และพร้อมให้การช่วยเหลือด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้งนักประดิษฐ์และนักเรียน-นักศึกษาต่างได้รับความรู้และวิธีการชั้นเลิศเพื่อสร้างประสบการณ์พลิกเกมธุรกิจ เบนเดสก์ท็อปไปสู่การจัดการโดยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE”
แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Student จะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2564 ส่วนแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE SOLIDWORKS for Makers จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ผ่านช่องทางออนไลน์ที่จะให้ประสบการณ์การซื้อที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิมบนแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE
โซเชียลมีเดีย:
แชร์ข้อความผ่านทาง Twitter: @Dassault3DS เปิดตัวแพลตฟอร์มออกแบบใหม่ #3DEXPERIENCE SOLIDWORKS เพิ่มศักยภาพงานออกแบบและทักษะการทำงานร่วมกันให้กับผู้ผลิตและนักเรียน-นักศึกษา #3DXE #3DXW21
ติดต่อ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ ผ่านทาง Twitter Facebook LinkedIn YouTube
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE, ซอฟต์แวร์การออกแบบ 3 มิติ, โซลูชั่น 3D Digital Mock Up และ Product Lifecycle Management (PLM) ของ Dassault Systèmes: http://www.3ds.com
แดสสอล์ท ซิสเต็มส์ 3DEXPERIENCE Edu: https://edu.3ds.com/en
ชมวิดีโอเกี่ยวกับทักษะสำคัญที่เป็นที่ต้องการในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืนคลิก https://edu.3ds.com/en/job/skills
Dassault Systèmes’ 3DEXPERIENCE Lab: https://3dexperiencelab.3ds.com/en/projects/fablab/3dexperiencer-boston-fablab/
การบริหารจัดการซัพพลายเชน: ก้าวต่อไปของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
การบริหารจัดการซัพพลายเชน: ก้าวต่อไปของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
บทความโดย นายฟาบิโอ ทิวิติ รองประธาน บริษัท อินฟอร์ อาเชียน
บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต่อสู้มาอย่างยาวนานเกี่ยวกับข้อบังคับเฉพาะเรื่องการจัดการอายุของผลิตภัณฑ์, ความซับซ้อนของการจัดตารางการผลิต, การตรวจสอบย้อนกลับและปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากร, แนวคิดด้านความยั่งยืน และกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นแรงส่งมหาศาลที่เพิ่มความซับซ้อนให้กับเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ปัญหาและแนวโน้มเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบซัพพลายเชนทั้งหมดของคุณ – ตั้งแต่การจัดซื้อ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า
อินฟอร์จำแนกความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความซับซ้อนของระบบซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มออกเป็นสามเรื่อง ดังนี้ 1. ต้องมีความสามารถในการรับรู้และมองเห็นความเป็นไปของทั่วทั้งโลก 2. ต้องรู้จักคาดการณ์และรับมือกับความผันผวน และ 3. ต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด
ต้องมีความสามารถในการมองเห็นและรับรู้สถานการณ์ของทั่วทั้งโลก
เรามักจะสนใจเฉพาะตัวแปรต่าง ๆ ที่เราควบคุมได้ แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนระบบซัพพลายเชนทั้งหมดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น เมื่อประมาณสองปีที่แล้วอินฟอร์ได้ทำการสำรวจบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่บนเครือข่าย Infor Nexus และพบว่า 46% ของบริษัทเหล่านั้นกล่าวว่า ก่อนที่จะใช้งาน Infor Nexus พวกเขาต้องใช้เวลานานถึงสามวันกว่าจะระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นอยู่ที่ไหน และจะได้รับของเมื่อไหร่ เห็นได้ชัดเจนว่าข้อมูลที่มีไม่ได้ช่วยให้เขาตัดสินใจได้ดีเพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีช่องว่างระหว่างการที่ผู้ผลิตจะติดต่อกับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และบริษัทขนส่งภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ EDI (Electronic Data Interchange) ที่หลากหลายระหว่างจุดต่อจุด, พอร์ทัลต่าง ๆ, สเปรดชีท, อีเมล – ซึ่งล้วนเป็นเรื่องราวที่แทบจะไม่มีจุดสิ้นสุด – และยากที่จะดูแลรักษาให้คงสภาพ
ดังนั้นเพื่อที่จะรับรู้และมองเห็นความเป็นไปของระบบได้ทั้งหมด คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคู่ค้าทั่วโลกด้วยวิธีที่ได้ผล ด้วยการใช้ระบบเครือข่ายทางธุรกิจระดับองค์กรที่หลากหลาย คุณจะสามารถขจัดการทำงานแบบแยกส่วน (silos) ได้ทั้งภายในองค์กรและระหว่างองค์กรของคุณกับผู้ที่คุณติดต่อทำธุรกิจด้วย ระบบดังกล่าวช่วยรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและการตอบสนองทางธุรกิจโดยรวม
ต้องรู้จักคาดการณ์และรับมือกับความผันผวน
คุณคาดการณ์และรับมือกับความผันผวนได้อย่างไร เรื่องนี้สามารถเริ่มต้นที่พื้นฐานของประสิทธิภาพและระบบอัตโนมัติภายในโรงงาน คุณจะเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดตารางการผลิตได้อย่างไร คุณจะรับมือกับปัญหาติดขัดต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบแยกส่วนในการปฏิบัติงาน หรือความเร็วต่าง ๆ ภายในสายงานการบรรจุผลิตภัณฑ์ของคุณ
เครื่องมือการจัดตารางเวลาที่ใช้พิจารณาตัวแปรทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำตอบเท่านั้น เมื่อคุณนำโซลูชั่นสำหรับการบริหารสินทรัพย์มาใช้ในธุรกิจของคุณ และบูรณาการเข้ากับโซลูชั่นการจัดตารางเวลา คุณจะมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการวางแผนรอบระยะเวลาการบำรุงรักษาโดยพิจารณาจากความสามารถในการรับรู้และการมองเห็นการทำงานของทั้งระบบที่ดีขึ้นว่าอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้จริงคืออะไร การจัดตารางการผลิตและการบริหารสินทรัพย์มีผลกระทบต่อซัพพลายเชน และความสามารถในการจัดส่งของคุณ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะบริหารจัดการแยกส่วนไปต่างหาก
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพและระบบอัตโนมัติ เราพบว่ายังมีความท้าทายในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและคลังสินค้าขององค์กร และความเข้าใจในความซับซ้อนของการดำเนินการดังกล่าวอันเนื่องมาจาก ช่องทางต่าง ๆ ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าบริษัทของคุณจะทำอีคอมเมิร์ซเองหรือทำร่วมกับผู้จำหน่ายอีคอมเมิร์ซเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ก็ตาม ความสามารถและข้อกำหนดต่าง ๆ บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป และบริษัทจำนวนมากต่างกำลังค้นหาลึกลงไปถึงเครื่องมือต่างๆ ที่มีให้บริการอยู่ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
การปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นปัจจัยผลักดันในอุตสาหกรรมอาหารมานานหลายทศวรรษ แต่ช่วงนี้การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความผันผวนมากที่สุด สิ่งที่ผู้บริโภคกำลังมองหานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของตลาดได้ตลอดเวลา จากเดิมที่ผู้บริโภคสนใจเรื่องปลอดไขมันหรือปลอดจีเอ็มโอ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสนใจเปลี่ยนไปเป็นเรื่องฉลากมากขึ้น เพราะผู้บริโภคต้องการเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่ระบุอยู่ในส่วนผสม และขณะนี้แนวโน้มในเรื่องนี้ก็กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันข้อเรียกร้องด้านความยั่งยืนสามารถรวมถึงสภาพความเป็นไปของฟาร์ม, ความยั่งยืนของวัตถุดิบที่คุณใช้, การใช้พลังงาน, การลดการใช้พลาสติก และการลดความสิ้นเปลืองด้านบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง อินฟอร์มีลูกค้าจำนวนมากที่เน้นเรื่องการวัดผลและรายงานเกี่ยวกับมาตรวัดความยั่งยืน หนึ่งในนั้นคือการจัดการกับปัญหาพื้นฐานที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถผลิตอาหารเลี้ยงประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นด้วยวิธีการที่ยั่งยืน การใช้โซลูชั่นระดับโลกเพื่อช่วยทำให้ระบบซัพพลายเชนของเขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าว
แต่ละบริษัทอาจมีวัตถุประสงค์และความต้องการที่แตกต่างกัน รวมทั้งวิธีการของตนเองในการรับมือกับประเด็นเรื่องความยั่งยืน สำหรับบางบริษัทหมายถึงการทำงานที่ดีขึ้นในการติดตามและตรวจสอบวัตถุดิย้อนกลับ ส่วนบริษัทอื่น ๆ อาจหมายถึงการทำงานที่ดีขึ้นในการวัดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ หรือการจัดการน้ำเสีย ซึ่งความท้าทายในที่นี้สำหรับบริษัทคือ จะต้องพิจารณาดูว่าสิ่งที่ต้องการวัดคือสิ่งใด พวกเขาต้องการติดตามสิ่งใด และในทางกลับกันก็จะต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ทำเช่นนั้นได้ด้วย
ความผันผวนเรื่องสุดท้ายคือสถานการณ์หรือเรื่องใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน บริษัทอาหารและเครื่องดื่มคุ้นเคยกับความท้าทายในการวางแผนที่เกี่ยวข้องกับช่วงเทศกาล อายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ และการส่งเสริมการขาย เมื่อไม่นานมานี้เราได้จัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นที่เกี่ยวกับกฎระเบียบและอัตราภาษีที่ไม่เคยคาดการณ์ได้มาก่อน และแม้แต่เรื่องความพร้อมของทุนมนุษย์ คุณจะตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างไร หากคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถหาคนมาทำงานที่โรงงานของคุณเพิ่มได้ เพื่อที่จะสามารถมองตัวแปรเหล่านั้นในธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องมือการวางแผนขั้นสูงบางประเภทที่ยอดเยี่ยม เพราะคุณจะไม่สามารถคาดเดาได้ดีที่สุดโดยอาศัยแค่เครื่องมือที่คุณมีอยู่แล้ว
ต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด
เมื่อคุณกำลังมองไปที่การสร้างระบบพื้นฐานที่ดีขึ้นเพื่อใช้รับมือกับความท้าทายที่อาจต้องเผชิญภายในองค์กรทั้งหมดของคุณ มีโซลูชั่นหลากหลายประเภทที่คุณจะต้องพิจารณา ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นโซลูชั่นด้านซัพพลายเชนเสมอไป แต่ท้้งหมดล้วนต้องมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบซัพพลายเชนทั้งหมด ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนทั้้งในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ตัวอย่างแรกคือการบริหารจัดการส่วนผสม หลายบริษัทต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่กำลังรังสรรค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้กับประเทศหนึ่งๆ เนื่องจากอาจจะมีข้อจำกัดหลายประการที่เกิดจากมุมมองระดับโลกต่อสถานที่ที่คุณจะขายผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ได้ การพยายามจัดการสิ่งนี้ด้วยตนเองถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะการที่คุณจะสามารถตอบข้อซักถามจากลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้ จำเป็นต้องใช้โซลูชั่นการจัดการส่วนผสมที่ค่อนข้างทรงประสิทธิภาพ
อีกตัวอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นเรื่องพูดถึงในขณะนี้คือบล็อกเชน (blockchain) หลายบริษัทเป้าหมายเชื่อว่าสิ่งที่บล็อกเชนจะทำได้นั้น บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วกว่า ดีกว่าและมีราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตามความท้าทายหลายประการเกี่ยวกับความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับและเรื่องคุณภาพที่บล็อกเชนพยายามจัดการอยู่นั้น ดูเหมือนว่าจะแก้ไขได้รวดเร็วขึ้นและด้วยความมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้โซลูชั่นที่มีอยู่และได้รับการพิสูจน์แล้ว ฟังก์ชั่นการทำงานที่ฝังอยู่ในโซลูชั่น ERP ที่ทันสมัยควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มคลาวด์แบบเครือข่าย (network-based) อาจจะไม่ได้มีความดึงดูดใจ/ความน่าสนใจเช่นบล็อกเชน แต่ก็มีตัวพิสูจน์ความสำเร็จที่ปราศจากข้อกังขา บ่มเพาะความแข็งแกร่งผ่านการใช้งานอย่างทนทานมานานนับปี และเป็นโซลูชั่นที่คู่ค้า ซัพพลายเออร์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และผู้ให้บริการขนส่งจำนวนมากสามารถเข้าใช้งานได้ในปัจจุบัน