Nutanix เปิดตัว Nutanix Central โซลูชันบริหารจัดการตั้งแต่ Cloud จนถึง Edge
บริษัทจะขยายโมเดลการดำเนินงานที่ใช้กับคลาวด์ต่างๆ ได้ครอบคลุมเพื่อรันแอปพลิเคชันและดาต้าที่ใดก็ได้
นูทานิคซ์ (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศเปิดตัว Nutanix Central โซลูชัน cloud-delivered ที่มอบสมรรถนะในการมองเห็นสถานะความเป็นไป การติดตามตรวจสอบ และการบริหารจัดการบนสภาพแวดล้อมพับลิคคลาวด์, ระบบที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร, โครงสร้างพื้นฐานที่โฮสต์กับผู้ให้บริการ หรือที่เอดจ์ ได้ครบถ้วนจากคอนโซลเดียว นับเป็นการขยายการใช้ Nutanix Cloud Platform ซึ่งเป็นโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้ครอบคลุมกับคลาวด์ที่หลากหลาย ไปใช้ขจัดการทำงานที่เป็นไซโล และช่วยให้บริหารจัดการแอปพิเคชันและข้อมูลได้จากทุกที่เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไม่ยุ่งยาก
ข้อมูลจากผลสำรวจ Enterprise Cloud Index ของนูทานิคซ์ ระบุว่า องค์กรจำนวนมากในปัจจุบัน ต่างติดกับดักความยุ่งยากในการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมไอทีที่ต่างกันจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ภายในองค์กร อยู่บนพับลิคคลาวด์ และที่เอดจ์ ทำให้การบริหารจัดการเป็นไซโลแยกส่วน ต้องจัดการกับเรื่องต้นทุน ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมาก องค์กรต่างมองหาและต้องการใช้ไฮบริดมัลติคลาวด์ที่ผสานการทำงานได้แบบไร้รอยต่อ ซึ่งต้องเป็นโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลายประเภท สามารถบริหารจัดการได้อย่างสอดคล้องกันทุกจุดการใช้งาน (endpoint: เอ็นด์พอยต์) มีความปลอดภัยติดตั้งมาแล้วเบ็ดเสร็จ บริการตนเองได้ และมีแหล่งทรัพยากรที่เรียกใช้ได้ตามต้องการ กำกับดูแลได้ และสามารถนำไลเซนส์ของโมเดลนั้นไปใช้กับสภาพแวดล้อมอื่นได้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถรันแอปพลิเคชันและดาต้าที่ใดก็ได้ โซลูชัน Nutanix Central™ นี้จะช่วยให้การบริหารจัดการทำได้ง่ายขึ้นมาก เป็นการรวมศูนย์การดำเนินงานจากทุกเอ็นด์พอยต์มาบริหารจัดการจากที่เดียว
นายโธมัส คอร์เนลี รองประธานอาวุโสด้านการจัดการผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “ปัจจุบันลูกค้าที่เป็นองค์กรเกือบทั้งหมดต้องบริหารจัดการแอปพลิเคชันจำนวนมากที่อยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีที่หลากหลาย ทำให้เกิดความท้าทายในการบริหารจัดการเรื่องสำคัญหลายประการมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้คลาวด์หลายประเภทร่วมกัน (ไฮบริดมัลติคลาวด์) เพิ่มขึ้น เราขยายแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์ของนูทานิคซ์ผ่าน Nutanix Central เพื่อมอบโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลากหลายอย่างแท้จริง เพื่อรวมการบริหารจัดการหนึ่งเดียวที่สอดคล้องกันเข้ากับการใช้พับลิคคลาวด์ต่าง ๆ, ระบบที่ติดตั้งในองค์กร, ที่โฮสต์กับผู้ให้บริการต่าง ๆ และที่เอดจ์”
Nutanix Central จะให้บริการการบริหารจัดการ cloud-delivered แบบรวมศูนย์ และการรายงานสภาพแวดล้อมที่อยู่บนนูทานิคซ์ทั้งหมดจากจุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นไพรเวท พับลิค และเอดจ์ ทั้งยังรองรับการใช้งานหลายโดเมนร่วมกัน รวมถึงการจัดการระบบพิสูจน์อัตลักษณ์และการเข้าใช้ทรัพยากร (IAM) แบบรวมศูนย์, โปรเจกต์และหมวดหมู่ต่าง ๆ ทั่วโลก, การจัดการ fleet ทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมไอทีสามารถให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่บริการตนเองได้ตามความต้องการ และยังสามารถควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยได้
ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพรวมของสถานะของแต่ละโดเมน รวมถึงการใช้พื้นที่และสถิติสรุปการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ตัวชี้วัดของโดเมนและคลัสเตอร์ต่าง ๆ ผ่านแดชบอร์ดของ Nutanix Central ฟังก์ชันนี้ยังช่วยนำทางไปยังโดเมนแต่ละรายการ โดยเป็นไปตามการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงตามบทบาทของผู้ใช้แต่ละคน (RBAC) ในโดเมนทุกรายการที่ลงทะเบียนไว้ ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ลูกค้าจะสามารถค้นหา ใช้งาน และบริหารจัดการโซลูชันต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ และโซลูชันของพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันได้ Nutanix Central จะพร้อมให้บริการลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งของไลเซนส์ Nutanix Cloud Infrastructure™ (NCI) ของลูกค้าแต่ละราย
องค์กรที่ติดขัดกับการบริหารจัดการแอปพลิเคชันและดาต้าที่อยู่บนสภาพแวดล้อมไอทีต่าง ๆ เช่น มัลติพับลิคคลาวด์, ระบบที่ติดตั้งในองค์กร, ที่โฮสต์ไว้กับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ และเอนด์พอยต์ที่เอดจ์ จะได้รับประโยชน์จาก Nutanix Central และโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้กับคลาวด์หลากหลาย เช่น องค์กรที่โฮสต์ไว้กับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในโลเคชันหลายแห่ง รวมถึงเวนเดอร์ที่ให้บริการพับลิคคลาวด์ที่แตกต่างกันในที่จัดเก็บหลายแห่ง จะสามารถใช้โปรแกรมการควบคุมกฎระเบียบและความปลอดภัย ณ จุดศูนย์กลางแห่งเดียว เช่นเดียวกับผู้ค้าปลีกที่มีร้านค้าจำนวนมาก จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากความสามารถในการบริหารจัดการร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้จากศูนย์ควบคุมแห่งเดียว
นอกจาก Nutanix Central แล้ว นูทานิคซ์ยังได้เปิดตัวความสามารถใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้าไปยัง Nutanix Cloud Platform เพื่อรองรับแอปพลิเคชันและดาต้าที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้นที่ได้รับการบริหารจัดการผ่าน Nutanix Central โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถสเกลเฉพาะ compute-only nodes ที่รันดาต้าเบสเวอร์ชวลแมชชีนบน AHV หรือ ESXi เพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพและลดต้นทุนรวม และนำสู่การใช้ storage-only nodes ที่มีประสิทธิภาพสูง นูทานิคซ์ยังคงนำเสนอระบบเน็ตเวิร์กที่ควบคุมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์และได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการทำ micro-segmentation ที่ง่ายขึ้นให้กับลูกค้า พันธมิตร และ hyperscaler-owned networks ผ่านการใช้ความสามารถของ Flow Virtual Networking™ (FVN) และฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Flow Network Security™ (FNS) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถนำการป้องกันเชิงลึกมาใช้ เพื่อจะได้มีความยืดหยุ่นทางไซเบอร์มากขึ้น
Nutanix Central และฟังก์ชันใหม่ ๆ ของ Flow Network Security อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่วนความสามารถด้านประสิทธิภาพใหม่ ๆ ของ Nutanix Cloud Platform และฟังก์ชันใหม่ของ Flow Virtual Networking พร้อมให้บริการลูกค้าแล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
คำกล่าวสนับสนุน
“องค์กรระดับแนวหน้าของโลกใช้ TCS เพื่อช่วยพวกเขาเลือก, ผสานการทำงาน, และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์ของตน นูทานิคซ์เป็นแพลตฟอร์มที่ TCS มักเลือกใช้เพื่อให้บริการเทคโนโลยีนี้ และสร้างมูลค่าทางธุรกิจ Nutanix Central มอบการบริหารจัดการด้านการกำกับดูแลและความปลอดภัยอย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ TCS และลูกค้าของเราขจัดไซโลด้านไอทีและหันมาโฟกัสที่ตัวชี้วัดทางธุรกิจต่าง ๆ”
- Dinanath Kholkar, SVP and Global Head of Partner Ecosystems & Alliances at TCS
“การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อย่างหนึ่งในด้านไอทีที่เราได้เห็นตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 คือ การที่ธุรกิจต่าง ๆ ไม่ต้องการตกอยู่ในภาวะยากลำบากโดยไม่รู้ตัวมาก่อนอีกต่อไป หนึ่งในองค์ประกอบที่มั่นใจได้ว่าจะช่วยให้ไม่ตกอยู่ในภาวะเดียวกันนี้อีก คือการใช้คลาวด์และการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย แต่ยังมีองค์ประกอบที่สำคัญเท่าเทียมกัน คือ การพัฒนาแนวทางการดำเนินงานที่ใช้ได้กับสภาพแวดล้อมไอทีหลากหลายในวงกว้าง Nutanix Central คือการที่นูทานิคซ์ขยายขีดความสามารถของไฮบริดมัลติคลาวด์ให้ไกลกว่าเดิม ด้วยการให้บริการโมเดลการดำเนินงานและการบริหารเดียวเพื่อใช้กับมัลติคลาวด์ ที่มาพร้อมความสามารถในการพกพาไลเซนส์ไปใช้ได้เต็มรูปแบบ”
– Scott Sinclair, Practice Director, ESG